xs
xsm
sm
md
lg

IRPCไร้ปัญหาขาดทุนสต็อกหนุนตั้งกองทุนความมั่งคั่ง!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - “ไออาร์พีซี”ยอมรับไตรมาส 3นี้ ผลดำเนินงานผันผวนตามราคาน้ำมันดิบ แต่มั่นใจไม่มีปัญหาขาดทุนสต็อกน้ำมันเหมือนปี 51 เนื่องจากจีนไล่ซื้อน้ำมันดิบในช่วงราคาอ่อนตัวลง 5-6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น หนุนการจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ชี้ใช้เงินสำรองฯเพียงปีละ 2พันล้านเหรียญในการสำรองน้ำมันไว้ใช้นาน 90วัน เผยต้นปีหน้าขายคาร์บอนเครดิตโรงไฟฟ้าก๊าซฯ 220 เมกะวัตต์ได้แน่นอน

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯในไตรมาส 3/2554 คาดว่าจะผันผวนตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยราคาน้ำมันดิบตลาดดูไบน่าจะเคลื่อนไหว 100-110 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลหากฝนลดน้อยลงเชื่อว่ากลุ่มธุรกิจโรงกลั่นก็จะมีผลการดำเนินงานที่ดี

โดยปีนี้คงไม่มีผลขาดทุนสต็อกน้ำมันเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในปี 2551 แม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะผันผวนปรับขึ้นลงทุก 5-6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากทางการจีนก็จะมีการซื้อน้ำมันดิบเพื่อเก็บสำรองไว้ทันทีเมื่อราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวแรง ทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งบริษัทฯมีการบริหารจัดการที่ดีมาโดยตลอด หลังจากได้รับบทเรียนจากปี 2551 ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2554 ไออาร์พีซี มีกำไรสุทธิ 2.98 พันล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.17 พันล้านบาท

นายไพรินทร์ กล่าวต่อไปว่า ปตท.สนับสนุนการจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ(Sovereign Welth Fund)เหมือนกับหลายประเทศที่ดำเนินการอยู่ไม่ว่าจะเป็นจีน ญี่ปุ่น โดยส่วนหนึ่งสามารถนำเงินจากกองทุนนี้มาใช้เพื่อจัดตั้งคลังน้ำมันสำรองแห่งชาติ เพื่อความมั่นคงด้านพลังงาน และลดความผันผวนด้านราคา ซึ่งจะใช้เงินสำรองระหว่างประเทศในแต่ละปีไม่สูงมากอย่างที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กังวล
ซึ่งตามมาตรฐานสากลประเทศต่าง ๆ จะมีการกันสำรองน้ำมันไว้ประมาณ 90 วัน ขณะที่ไทยนำเข้าน้ำมันดิบวันละ 1 ล้านบาร์เรลๆละ 100 เหรียญสหรัฐ หากจะต้องสำรอง 90 วันก็คิดเป็นมูลค่า 9 พันล้านเหรียญสหรัฐโดยจะเป็นการทยอยสำรองน้ำมันไว้ 5ปี เท่ากับใช้เงินสำรองฯเพียงปีละไม่เกิน 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับเงินทุนสำรองของประเทศที่มีอยู่ 1.87 แสนล้านเหรียญ

ปัจจุบันประเทศไทยมีสำรองน้ำมันตามกฎหมายเพียงร้อยละ 5 หรือประมาณ 36 วันเท่านั้น หากเกิดปัญหาในตะวันออกกลาง ไม่สามารถขนส่งน้ำมันได้ ก็อาจจะทำให้ปริมาณน้ำมันของไทยขาดแคลนลงไปในระยะเวลาไม่กี่วัน
นายไพรินทร์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯได้ลงนามบันทึกช่วยจำ(เอ็มโอยู)กับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)ในการพัฒนา โครงการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ รองรับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ( PDP) ขนาดกำลังผลิต 50 -90 เมกกะวัตต์ บนพื้นที่ประมาณ 1,000-1,800 ไร่ในจะนะ จ.สงขลา คาดว่าจะใช้งบประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยบันทึกความร่วมมือฉบับนี้จะมีกำหนดระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ลงนามฯ

โครงการดังกล่าว คาดว่าจะใช้เวลาในการศึกษาความเป็นไปได้ประมาณ 6 เดือน โดยกำลังการผลิตไฟฟ้านี้จะเสนอขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อจ่ายไฟเข้าระบบต่อไป โดยพื้นที่ตั้งโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์นี้จะใช้พื้นที่บริเวณจะนะ ซึ่งไออาร์พีซีเป็นเจ้าของมีพื้นที่ประมาณ 2,000เมกะวัตต์ โดยปริมาณไฟฟ้าที่ขายนั้นจะป้อนให้กับพื้นที่ในภาคใต้

ส่วนความคืบหน้าโครงการโรงผลิตพลังไอน้ำและไฟฟ้าร่วมจากก๊าซธรรมชาติ ของไออาร์พีซี ขนาดกำลังผลิตไอน้ำ 408 ตันต่อชั่วโมง และกำลังผลิตไฟฟ้า 220 เมกะวัตต์ นั้นได้เปิดดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์แล้วเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยโครงการนี้คาดว่าจะสามารถขายคาร์บอนเครดิตได้ในต้นปี 2555 ในราคา 13 ยูโร/ตันคาร์บอน ซึ่งจะได้เม็ดเงินค่อนข้างสูงเพราะสามารถลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 400,000 ตันต่อปี และได้รับรางวัลมาตรฐานมงกุฎไทยจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ทำให้ได้ค่าพรีเมียมเพิ่มอีก 1.2 ยูโร/ตันคาร์บอน
กำลังโหลดความคิดเห็น