ASTVผู้จัดการรายวัน – แอคคอร์ เผยผลสำรวจ ไทย ติดอันดับ 3 ในเอเชียแปซิฟิก เป็นเดสติเนชั่นที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเพื่อธุรกิจ ชื่นชอบ เป็นรองแค่ สิงคโปร์และฮ่องกง ขณะที่คนไทย ยังใช้ปัจจัยหลักด้านราคาเป็นตัวตัดสินใจ
นายเอวาน ลูอิส รองประธานบริหารฝ่ายการสื่อสาร แอคคอร์ แปซิฟิก เปิดเผยว่า แอคคอร์ ได้ทำการสำรวจ “แอคคอร์ แปซิฟิก บิสซิเนส ทราเวลเวอร์ 2011” เพื่อศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มผู้เดินทางเพื่อธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผลการสำรวจพบว่า ประเทศไทย ติดอันดับ 3 ของการเป็นเดสติเนชั่นการเดินทางเชิงธุรกิจ โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 29%
จำนวนกลุ่มเป้าหมายที่สำรวจ เป็นรองพียง สิงคโปร์ และ ฮ่องกง ที่ได้ 38% ส่วนอันดับ 4 คือประเทศจีน 28% และอันดับ 5 มาเลเซีย 24% โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวเพื่อธุรกิจ ที่เดินทางมาประเทศไทย 3 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย 50% สิงคโปร์ 49% อินเดีย 38%
ทั้งนี้ แอคคอร์ทำการสำรวจ จากกลุ่มตัวอย่าง 10,437 คน ที่เป็นนักท่องเที่ยวเพื่อธุรกิจ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และผลสำรวจยังพบว่า การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ในเรื่องของที่พัก มีตัวเลขเฉลี่ย 121 เหรียญสหรัฐต่อคืน หรือประมาณ 3,600 บาท โดยในส่วนขงอคนไทยใช้จ่ายต่ำกว่าเกณฑ์ หรือมีตัวเลขใช้จ่ายค่าที่พักที่ 112 เหรียญสหรัฐ หรือราว 3,350 บาท ส่วนชาวออสเตรเลีย
มีการใช้จ่ายเฉลี่ยสูงสุดที่ 158 เหรียญสหรัฐ หรือราว 4,700 บาท รองมาคือ สิงคโปร์ 134 เหรียญสหรัฐ หรือราว 4,000 บาท ,ฮ่องกง 132 เหรียญสหรัฐ หรือราว 3,940 บาท
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญของการเลือกที่พักของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ คือ ทำเลที่ตั้ง มีสัดส่วนถึง 50% รองลงมาคือ เลือกที่พักในที่ที่เคยพักแล้วรู้สึกชื่นชอบ 28% สาเหตุการเลือก เพราะมีราคาเหมาะสม เป็นเหตุผลอันดับ 3 มีสัดส่วน 25% แต่สำหรับตลาดนักธุรกิจไทย มีเหตุผลที่แตกต่าง โดยเลือกจากราคาเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ คืออยู่ที่ 29%
และมองทำเลเป็นปัจจัยอันดับรองลงมา
อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจ พบว่า ประเทสไทย มีนักเดินทางเพื่อธุรกิจที่เป็นผู้หญิงมากเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย มีสัดส่วน 33% ส่วนผู้ชาย 67% รองจาก ฮ่องกง ซึ่งมีผู้หญิงเดินทางมากที่สุด 36% ขณะที่ภาพรวมค่าเฉลี่ยของการเดินทางนักธุรกิจหญิงทั้งภูมิภาคนี้อยู่ที่ 26%
สำหรับ แอคคอร์ ในต่างประเทศ มีสัดส่วนลูกค้านักเดินทางเชิงธุรกิจ 60% ส่วนในประเทศไทยมีสัดส่วน 40% โดย การจัดสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตรงกับความต้องการนักธุรกิจผู้หญิง มีผลให้ ต่อการตัดสินใจเลือกถึง 61% และ 59% ยินดีจ่ายเพิ่มสำหรับโรงแรม ที่มีระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี เมื่อเทียบกับทำเลที่อยู่ในย่านเดียวกัน
นายเอวาน ลูอิส รองประธานบริหารฝ่ายการสื่อสาร แอคคอร์ แปซิฟิก เปิดเผยว่า แอคคอร์ ได้ทำการสำรวจ “แอคคอร์ แปซิฟิก บิสซิเนส ทราเวลเวอร์ 2011” เพื่อศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มผู้เดินทางเพื่อธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผลการสำรวจพบว่า ประเทศไทย ติดอันดับ 3 ของการเป็นเดสติเนชั่นการเดินทางเชิงธุรกิจ โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 29%
จำนวนกลุ่มเป้าหมายที่สำรวจ เป็นรองพียง สิงคโปร์ และ ฮ่องกง ที่ได้ 38% ส่วนอันดับ 4 คือประเทศจีน 28% และอันดับ 5 มาเลเซีย 24% โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวเพื่อธุรกิจ ที่เดินทางมาประเทศไทย 3 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย 50% สิงคโปร์ 49% อินเดีย 38%
ทั้งนี้ แอคคอร์ทำการสำรวจ จากกลุ่มตัวอย่าง 10,437 คน ที่เป็นนักท่องเที่ยวเพื่อธุรกิจ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และผลสำรวจยังพบว่า การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ในเรื่องของที่พัก มีตัวเลขเฉลี่ย 121 เหรียญสหรัฐต่อคืน หรือประมาณ 3,600 บาท โดยในส่วนขงอคนไทยใช้จ่ายต่ำกว่าเกณฑ์ หรือมีตัวเลขใช้จ่ายค่าที่พักที่ 112 เหรียญสหรัฐ หรือราว 3,350 บาท ส่วนชาวออสเตรเลีย
มีการใช้จ่ายเฉลี่ยสูงสุดที่ 158 เหรียญสหรัฐ หรือราว 4,700 บาท รองมาคือ สิงคโปร์ 134 เหรียญสหรัฐ หรือราว 4,000 บาท ,ฮ่องกง 132 เหรียญสหรัฐ หรือราว 3,940 บาท
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญของการเลือกที่พักของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ คือ ทำเลที่ตั้ง มีสัดส่วนถึง 50% รองลงมาคือ เลือกที่พักในที่ที่เคยพักแล้วรู้สึกชื่นชอบ 28% สาเหตุการเลือก เพราะมีราคาเหมาะสม เป็นเหตุผลอันดับ 3 มีสัดส่วน 25% แต่สำหรับตลาดนักธุรกิจไทย มีเหตุผลที่แตกต่าง โดยเลือกจากราคาเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ คืออยู่ที่ 29%
และมองทำเลเป็นปัจจัยอันดับรองลงมา
อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจ พบว่า ประเทสไทย มีนักเดินทางเพื่อธุรกิจที่เป็นผู้หญิงมากเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย มีสัดส่วน 33% ส่วนผู้ชาย 67% รองจาก ฮ่องกง ซึ่งมีผู้หญิงเดินทางมากที่สุด 36% ขณะที่ภาพรวมค่าเฉลี่ยของการเดินทางนักธุรกิจหญิงทั้งภูมิภาคนี้อยู่ที่ 26%
สำหรับ แอคคอร์ ในต่างประเทศ มีสัดส่วนลูกค้านักเดินทางเชิงธุรกิจ 60% ส่วนในประเทศไทยมีสัดส่วน 40% โดย การจัดสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตรงกับความต้องการนักธุรกิจผู้หญิง มีผลให้ ต่อการตัดสินใจเลือกถึง 61% และ 59% ยินดีจ่ายเพิ่มสำหรับโรงแรม ที่มีระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี เมื่อเทียบกับทำเลที่อยู่ในย่านเดียวกัน