สำนักปลัดฯและกรมการท่องเที่ยว จับมือ ททท.เตรียมระดมปราบบริษัทเอกชน อ้างใช้ชื่อย่อ T.A.T และ Amazing ของ ททท. ทำการตลาด เผยตัวเลขร้องเรียนปีที่ผ่านมากว่า 1 พันราย เล็งเสนอแก้กฏหมายหนุนท่องเที่ยว
นายสุพล ศรีพันธุ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานการประชุมร่วมระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวฯและการท่องเที่ยวแห่งประเทสไทย เพื่อหารือเรื่องการพิจารณากรณีนักท่องเที่ยวร้องเรียนผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวแอบอ้างใช้ชื่อย่อ ททท. หลอกลวงให้นักท่องเที่ยวซื้อบริการนำเที่ยว เปิดเผยว่า
เบื้องต้นจะใช้ทั้งหลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ในการดำเนินการกับบริษัทเอกชนที่แอบอ้างใช้ชื่อย่อ ททท. โดยมอบให้ ททท. ไปดำเนินการส่งหนังสือถึงผู้ประกอบการนำเที่ยว ที่แอบอ้างใช้ชื่อ รวมถึงสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทั้งหมด ให้รับรู้ร่วมกันว่า การใช้ชื่อย่อ ททท.ในการทำการตลาด มีความผิดตามกฏหมาย ขอให้ถอดชื่อย่อของททท.ออกเสียหากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 271 โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และ ปรับไม่เกิน 6,000 บาท
ขณะเดียวกัน ยังสั่งการให้สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวลงพื้นที่ตรวจสอบรายชื่อบริษัทนำเที่ยวและผู้ประกอบการนำเที่ยวที่จดทะเบียนไว้ทั้งหมดว่า มีบริษัทใด นำชื่อย่อ ของ ททท. ไปใช้บ้าง ได้แก่ ชื่อ T.A.T ซึ่งย่อมาจากคำว่า Tourism Authority of Thailand ของ ททท.ที่รับรู้ในระดับนานาชาติ และเป็นชื่อที่จดทะเบียนตาม พ.ร.บ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมถึงชื่อ Amazing Thailand ซึ่งเป็นชื่อสโลแกนที่ ททท.ใช้ทำการตลาดเป็นที่รับรู้ในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ
“ในรอบปีที่ผ่านมา สำนักปลัด ททท. และ สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวฯ ต่างได้รับหนังสือร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ กว่า 1,000 ราย ว่า ซื้อทัวร์จากองค์กรของรัฐ ซึ่งมีชื่อว่า T.A.T และ Amazing รวมอยู่ด้วย และ กว่า 100 ราย โดนเจตนาหลอกลวง ซึ่งเราก็ได้ชี้แจงไปแล้วว่า ททท.เป็นองค์กรด้านการตลาดแต่ไม่ได้ทำธุรกิจขายทัวร์ เหตุการณ์เช่นนี้ จะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของททท.และประเทศ ส่วนใบอนุญาตตั้งบริษัท ซึ่ง ออกโดย ททท. จะทยอยหมดอายุภายในปี 2555 จากนั้นผู้ประกอบการต้องยื่นต่อทะเบียนกับ สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมการท่องเที่ยว โลโก้ และ เลขที่ใบอนุญาติก็จะต้องปรับเปลี่ยน ด้วยเช่นกัน ”
ในสัปดาห์หน้า นัดหารือร่วมกันอีกครั้ง โดยจะตั้งคณะทำงานย่อย เพื่อศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาในระยะยาวอย่างถาวร รวมถึงจะร่วมกับ ตำรวจท่องเที่ยว กระทรวงพาณิชย์ ออกตรวจสถานประกอบการหากพบการกระทำผิดจะจับกุมทันที
***ชงแก้กฎหมายเสนอรัฐบาลใหม่***
นายสมบัติ ยังกล่าว อีกว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้เชิญภาคเอกชน มาร่วมหารือ เพื่อกำหนดนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยว ฯ เพื่อเตรียมเสนอต่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ พิจารณาโดยประเด็นการแก้กฎหมาย โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ควรจะต้องครอบคลุมถึงสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวด้วย ,พ.ร.บ.โรงแรม เป็นต้น ต้องการให้มีการแก้กฏหมายท้องถิ่นที่ตราเป็นเทศบัญญัติ ให้สอดคล้องกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย
นายสุพล ศรีพันธุ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานการประชุมร่วมระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวฯและการท่องเที่ยวแห่งประเทสไทย เพื่อหารือเรื่องการพิจารณากรณีนักท่องเที่ยวร้องเรียนผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวแอบอ้างใช้ชื่อย่อ ททท. หลอกลวงให้นักท่องเที่ยวซื้อบริการนำเที่ยว เปิดเผยว่า
เบื้องต้นจะใช้ทั้งหลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ในการดำเนินการกับบริษัทเอกชนที่แอบอ้างใช้ชื่อย่อ ททท. โดยมอบให้ ททท. ไปดำเนินการส่งหนังสือถึงผู้ประกอบการนำเที่ยว ที่แอบอ้างใช้ชื่อ รวมถึงสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทั้งหมด ให้รับรู้ร่วมกันว่า การใช้ชื่อย่อ ททท.ในการทำการตลาด มีความผิดตามกฏหมาย ขอให้ถอดชื่อย่อของททท.ออกเสียหากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 271 โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และ ปรับไม่เกิน 6,000 บาท
ขณะเดียวกัน ยังสั่งการให้สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวลงพื้นที่ตรวจสอบรายชื่อบริษัทนำเที่ยวและผู้ประกอบการนำเที่ยวที่จดทะเบียนไว้ทั้งหมดว่า มีบริษัทใด นำชื่อย่อ ของ ททท. ไปใช้บ้าง ได้แก่ ชื่อ T.A.T ซึ่งย่อมาจากคำว่า Tourism Authority of Thailand ของ ททท.ที่รับรู้ในระดับนานาชาติ และเป็นชื่อที่จดทะเบียนตาม พ.ร.บ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมถึงชื่อ Amazing Thailand ซึ่งเป็นชื่อสโลแกนที่ ททท.ใช้ทำการตลาดเป็นที่รับรู้ในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ
“ในรอบปีที่ผ่านมา สำนักปลัด ททท. และ สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวฯ ต่างได้รับหนังสือร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ กว่า 1,000 ราย ว่า ซื้อทัวร์จากองค์กรของรัฐ ซึ่งมีชื่อว่า T.A.T และ Amazing รวมอยู่ด้วย และ กว่า 100 ราย โดนเจตนาหลอกลวง ซึ่งเราก็ได้ชี้แจงไปแล้วว่า ททท.เป็นองค์กรด้านการตลาดแต่ไม่ได้ทำธุรกิจขายทัวร์ เหตุการณ์เช่นนี้ จะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของททท.และประเทศ ส่วนใบอนุญาตตั้งบริษัท ซึ่ง ออกโดย ททท. จะทยอยหมดอายุภายในปี 2555 จากนั้นผู้ประกอบการต้องยื่นต่อทะเบียนกับ สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมการท่องเที่ยว โลโก้ และ เลขที่ใบอนุญาติก็จะต้องปรับเปลี่ยน ด้วยเช่นกัน ”
ในสัปดาห์หน้า นัดหารือร่วมกันอีกครั้ง โดยจะตั้งคณะทำงานย่อย เพื่อศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาในระยะยาวอย่างถาวร รวมถึงจะร่วมกับ ตำรวจท่องเที่ยว กระทรวงพาณิชย์ ออกตรวจสถานประกอบการหากพบการกระทำผิดจะจับกุมทันที
***ชงแก้กฎหมายเสนอรัฐบาลใหม่***
นายสมบัติ ยังกล่าว อีกว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้เชิญภาคเอกชน มาร่วมหารือ เพื่อกำหนดนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยว ฯ เพื่อเตรียมเสนอต่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ พิจารณาโดยประเด็นการแก้กฎหมาย โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ควรจะต้องครอบคลุมถึงสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวด้วย ,พ.ร.บ.โรงแรม เป็นต้น ต้องการให้มีการแก้กฏหมายท้องถิ่นที่ตราเป็นเทศบัญญัติ ให้สอดคล้องกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย
