ASTVผู้จัดการรายวัน-"อนุดิษฐ์"เตรียมหย่าศึกดีแทค กสท หลังฝ่ายแรกเปิดให้บริการ 3G ชี้จะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย กสท ส่งหนังสือเตือนดีแทคมีเวลา 30 วันหยุดให้บริการ ไม่งั้นเข้ากระบวนอนุญาโตตุลาการแน่ ยันคำพูดเดิมต้องรอความเห็นอัยการสูงสุดก่อน ด้านดีแทคไม่สน สั่งลุย มั่นใจไม่ผิดกฎหมาย
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า ในประเด็นปัญหาระหว่างบริษัท กสท โทรคมนาคม กับดีแทคในการเปิดให้บริการ dtac 3G บนคลื่นความถี่ 850 MHz ในเขตกทม.และปริมณฑล เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น ได้รับทราบกรณีดังกล่าวแล้ว แต่เนื่องจากยังไม่ได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จึงยังไม่สามารถสั่งการใดๆ ได้ แต่ถือเป็นประเด็นเร่งด่วนในการเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยจะให้ความเป็นธรรมกับรัฐวิสาหกิจ และเอกชน ซึ่งแต่ละฝ่ายต่างมีความเข้าใจ และตีความสัญญาที่แตกต่างกัน ซึ่งคงจะขอเวลาดูรายละเอียด และศึกษาก่อนให้เกิดความแน่ชัด
นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท กล่าวภายหลังเดินทางเข้าแสดงความยินดีรมว.ไอซีที ว่า กรณีดีแทคยังคงเดินหน้าเปิดให้บริการ dtac 3G บนคลื่นความถี่ 850 MHz ในกทม.และปริมณฑลนั้น ถือเป็นการเข้าข่ายการกระทำผิดเงื่อนไขสัญญาสัมปทานระหว่างกสทและดีแทค ซึ่งกสท อาจจะส่งหนังสือเตือนดีแทคอีกครั้ง เพื่อให้ดีแทคชี้แจงรายละเอียดของการเปิดให้บริการ 3G ดังกล่าว ซึ่งภายใน 90 วันหรือ 3 เดือน ถ้าดีแทคยังเพิกเฉย และไม่แก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้องตามเงื่อนไข ก็จะเข้าสู่กระบวนการระงับข้อพิพาทตามสัญญาสัมปทาน คือ เข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการ แต่หากในระหว่างนี้อัยการสูงสุดได้ทำหนังสือตอบกลับมาก่อนว่า กสท สามารถอนุมัติให้ดีแทคเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ ดีแทคก็เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้เช่นกัน
ทั้งนี้ กสท ได้เคยส่งหนังสือแจ้งเตือนไปแล้วเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา เรื่องการปรับปรุงโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยใช้เทคโนโลยี HSPA ไปแล้วครั้งหนึ่ง โดยระบุว่า กสท อยู่ระหว่างการหารือสำนักงานอัยการสูงสุดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่าอยู่ภายใต้สัญญาให้ดำเนินการให้บริการวิทยุคมนาคมระบบเซลลูล่าร์ ระหว่าง กสท กับดีแทคหรือไม่ ซึ่ง กสท ได้เคยมีหนังสือแจ้งให้ดีแทคทราบแล้วเมื่อวันที่ 30 พ.ค.2554 ดังนั้น กสท จึงเห็นควรให้รอผลการหารือสำนักงานอัยการสูงสุดก่อนพิจารณาดำเนินการใดๆ
นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์ ดีแทค กล่าวว่า ดีแทค และผู้บริหารทุกคน ไม่ได้แบ่งว่าการให้บริการ 3G มีคำว่าเชิงพาณิชย์ หรือไม่ใช่เชิงพาณิชย์ ซึ่งการที่ดีแทคเปิดให้บริการ 3Gแก่ลูกค้าทั่วประเทศฟรีนั้น คือ การอัปสปีดหรือเพิ่มความเร็วให้แก่ลูกค้าที่สมัครใช้แพคเก็จดาต้า เอดจ์เดิมอยู่ ซึ่งการเก็บเงินก็เป็นไปตามโปรโมชั่นที่ลูกค้าสมัครใช้บริการไว้ โดยขณะนี้มีลูกค้าที่ใช้บริการ 3Gแล้ว 2.5 แสนรายทั่วประเทศ และดีแทค ขอยืนยันว่าการปฏิบัติทุกอย่างเป็นไปตามใบอนุญาต การใช้อุปกรณ์โทรคมนาคมที่ได้รับจากคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
ขณะที่ กสท ในฐานะคู่สัญญาสัมปทาน สั่งระงับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3Gนั้น ดีแทคขอยืนยันว่า บริษัทดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายตามสัญญาสัมปทานทุกอย่าง และก่อนหน้านี้ บอร์ดกสท มีมติให้นำเรื่องดังกล่าวไปหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาและได้ให้ความเห็นว่า เรื่องดังกล่าวคู่สัญญาจะต้องไปตกลงกันเอง และไม่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายในสัญญาสัมปทาน ซึ่งต่อมาบอร์ดกสท ได้นำเรื่องเสนอแก่คณะกรรมการตามมาตรา 22 (ตามพ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2535) รับทราบ ซึ่งคณะกรรมการมาตรา 22 มีมติให้ ดีแทค สามารถเปิดให้บริการ 3Gเชิงพาณิชย์ได้
ก่อนหน้านี้ ดีแทคได้ขอให้กสท ดำเนินการแจ้งไปยังกสทช.ให้รับทราบ แต่ กสท ไม่ดำเนินการดังกล่าว แต่นำเรื่องนี้ส่งไปให้สำนักงานอัยการสูงสุด และบอกให้ดีแทครอการตีความจากอัยการสูงสุดก่อน ดังนั้น หากดีแทคไม่มั่นใจในข้อกฎหมาย ดีแทคคงไม่กล้าที่จะเปิดให้บริการ 3G อย่างแน่นอน โดยเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารก็ได้ไปเจรจาและรับรู้กันแล้วว่าจะเปิดให้บริการ
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า ในประเด็นปัญหาระหว่างบริษัท กสท โทรคมนาคม กับดีแทคในการเปิดให้บริการ dtac 3G บนคลื่นความถี่ 850 MHz ในเขตกทม.และปริมณฑล เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น ได้รับทราบกรณีดังกล่าวแล้ว แต่เนื่องจากยังไม่ได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จึงยังไม่สามารถสั่งการใดๆ ได้ แต่ถือเป็นประเด็นเร่งด่วนในการเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยจะให้ความเป็นธรรมกับรัฐวิสาหกิจ และเอกชน ซึ่งแต่ละฝ่ายต่างมีความเข้าใจ และตีความสัญญาที่แตกต่างกัน ซึ่งคงจะขอเวลาดูรายละเอียด และศึกษาก่อนให้เกิดความแน่ชัด
นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท กล่าวภายหลังเดินทางเข้าแสดงความยินดีรมว.ไอซีที ว่า กรณีดีแทคยังคงเดินหน้าเปิดให้บริการ dtac 3G บนคลื่นความถี่ 850 MHz ในกทม.และปริมณฑลนั้น ถือเป็นการเข้าข่ายการกระทำผิดเงื่อนไขสัญญาสัมปทานระหว่างกสทและดีแทค ซึ่งกสท อาจจะส่งหนังสือเตือนดีแทคอีกครั้ง เพื่อให้ดีแทคชี้แจงรายละเอียดของการเปิดให้บริการ 3G ดังกล่าว ซึ่งภายใน 90 วันหรือ 3 เดือน ถ้าดีแทคยังเพิกเฉย และไม่แก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้องตามเงื่อนไข ก็จะเข้าสู่กระบวนการระงับข้อพิพาทตามสัญญาสัมปทาน คือ เข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการ แต่หากในระหว่างนี้อัยการสูงสุดได้ทำหนังสือตอบกลับมาก่อนว่า กสท สามารถอนุมัติให้ดีแทคเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ ดีแทคก็เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้เช่นกัน
ทั้งนี้ กสท ได้เคยส่งหนังสือแจ้งเตือนไปแล้วเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา เรื่องการปรับปรุงโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยใช้เทคโนโลยี HSPA ไปแล้วครั้งหนึ่ง โดยระบุว่า กสท อยู่ระหว่างการหารือสำนักงานอัยการสูงสุดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่าอยู่ภายใต้สัญญาให้ดำเนินการให้บริการวิทยุคมนาคมระบบเซลลูล่าร์ ระหว่าง กสท กับดีแทคหรือไม่ ซึ่ง กสท ได้เคยมีหนังสือแจ้งให้ดีแทคทราบแล้วเมื่อวันที่ 30 พ.ค.2554 ดังนั้น กสท จึงเห็นควรให้รอผลการหารือสำนักงานอัยการสูงสุดก่อนพิจารณาดำเนินการใดๆ
นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์ ดีแทค กล่าวว่า ดีแทค และผู้บริหารทุกคน ไม่ได้แบ่งว่าการให้บริการ 3G มีคำว่าเชิงพาณิชย์ หรือไม่ใช่เชิงพาณิชย์ ซึ่งการที่ดีแทคเปิดให้บริการ 3Gแก่ลูกค้าทั่วประเทศฟรีนั้น คือ การอัปสปีดหรือเพิ่มความเร็วให้แก่ลูกค้าที่สมัครใช้แพคเก็จดาต้า เอดจ์เดิมอยู่ ซึ่งการเก็บเงินก็เป็นไปตามโปรโมชั่นที่ลูกค้าสมัครใช้บริการไว้ โดยขณะนี้มีลูกค้าที่ใช้บริการ 3Gแล้ว 2.5 แสนรายทั่วประเทศ และดีแทค ขอยืนยันว่าการปฏิบัติทุกอย่างเป็นไปตามใบอนุญาต การใช้อุปกรณ์โทรคมนาคมที่ได้รับจากคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
ขณะที่ กสท ในฐานะคู่สัญญาสัมปทาน สั่งระงับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3Gนั้น ดีแทคขอยืนยันว่า บริษัทดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายตามสัญญาสัมปทานทุกอย่าง และก่อนหน้านี้ บอร์ดกสท มีมติให้นำเรื่องดังกล่าวไปหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาและได้ให้ความเห็นว่า เรื่องดังกล่าวคู่สัญญาจะต้องไปตกลงกันเอง และไม่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายในสัญญาสัมปทาน ซึ่งต่อมาบอร์ดกสท ได้นำเรื่องเสนอแก่คณะกรรมการตามมาตรา 22 (ตามพ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2535) รับทราบ ซึ่งคณะกรรมการมาตรา 22 มีมติให้ ดีแทค สามารถเปิดให้บริการ 3Gเชิงพาณิชย์ได้
ก่อนหน้านี้ ดีแทคได้ขอให้กสท ดำเนินการแจ้งไปยังกสทช.ให้รับทราบ แต่ กสท ไม่ดำเนินการดังกล่าว แต่นำเรื่องนี้ส่งไปให้สำนักงานอัยการสูงสุด และบอกให้ดีแทครอการตีความจากอัยการสูงสุดก่อน ดังนั้น หากดีแทคไม่มั่นใจในข้อกฎหมาย ดีแทคคงไม่กล้าที่จะเปิดให้บริการ 3G อย่างแน่นอน โดยเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารก็ได้ไปเจรจาและรับรู้กันแล้วว่าจะเปิดให้บริการ