นางสุชาดา ธีรวชิรกุล กรรมการผู้จัดการ อาวียองซ์ ภาคธุรกิจผลิตภัณฑ์ชั้นสูง บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้อาวียองซ์ก้าวสู่ปีที่11 หรือก้าวสู่ทศวรรษที่ 2 โดยในประเทศไทยปัจจุบันอาวียองซ์ ถือเป็นแบรนด์สินค้าพรีเมี่ยมของทางยูนิลีเวอร์ ที่จำหน่ายในช่องทางขายตรง เริ่มทำตลาดใน 3 ประเทศ คือ ไทย อินเดีย และอาฟริกา
โดยในอินเดียยังคงดำเนินการอยู่ แต่อาฟริกาได้ยกเลิกไปทำอย่างอื่นแทน ดังนั้นอาวียองซ์ ประเทศไทย จึงถือเป็นเฮดออฟฟิศของอาวียองซ์ ที่ในอนาคตเชื่อว่าจะมีการรวมกันของอาวียองซ์ไทยแลนด์และอินเดีย
สำหรับแผนการดำเนินงานของอาวียองซ์ ประเทศไทยนั้น ปีนี้จะรุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง เริ่มจากประเทศ มาเลเซีย เป็นประเทศแรก เนื่องจากมองว่า มาเลเซีย มีอัตราการเติบโตของตลาดขายตรงใกล้เคียงกับไทย และมีมูลค่าถึง 1.1 พันล้านยูเอส ประชากรกว่า 28 ล้านคน กว่า 75% ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายของอาวียองซ์ และประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจและรู้จักธุรกิจขายตรงเป็นอย่างดี
ล่าสุดได้เตรียมเปิดสำนักงานที่มาเลเซียแล้ว จากปัจจุบันเริ่มทดลองทำตลาด คาดว่าในเดือนมี.ค.ปีหน้า จะเปิดธุรกิจอย่างเป็นทางการได้ มั่นใจว่าภายใน 1 ปีแรก จะมีฐานสมาชิกกว่า 2 แสนรหัส จากปัจจุบัน อาวียองซ์ในประเทศไทย มีฐานสมาชิก 4.5 แสนรหัส แบ่งเป็นสมาชิกอภิสิทธิ์ และผู้ร่วมธุรกิจอาวียองซ์ในอัตราส่วน 50% เท่าๆกัน และมีผู้บริโภคที่ไม่ใช่สมาชิกกว่า 1 ล้านคน
นอกจากนี้บริษัทยังได้ปรับแผนปันผลตอบแทนไร้พรมแดน “ไอ-ทเวล์ฟ การันตี” ซึ่งมีการจ่ายเงินเพิ่มอีก 13% หน้าแผน และเพิ่มสูงสุด 20% สำหรับยอดสั่งซื้อจากสมาชิกใหม่ใน 2 เดือนแรก พร้อมประกันรายได้ให้ผู้ร่วมธุรกิจใหม่ตลอดระยะเวลา 1 ปี รวมถึงการทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ในการสร้างซอฟท์แวร์ใหม่ เพิ่มศักยภาพในการทำงานและความสะดวกให้กับผู้ร่วมธุรกิจอาวียองซ์
โดยเฟสแรกเปิดตัว 1.อาวียองซ์ ไซเบอร์ ออฟฟิศ เป็นเว็บไซต์ ช่วยเช็คคะแนน ดูยอดองค์กร จำนวนสมาชิกใหม่ และโปรแกรมต่างๆ 2.อาวียองซ์ ไซเบอร์ ชอป เป็นหน้าร้านออนไลน์ของตัวเอง เพิ่มความสะดวกเข้าถึงลูกค้า รวมถึงการเปิดตัวแอพพลิเคชั่นบนไอแพด เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างความสะดวกสบายในการทำธุรกิจมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน อาวียองซ์ไทยแลนด์ ครึ่งปีแรกมีรายได้เติบโตมากกว่าตลาดเล็กน้อย ส่วนภาพรวมตลาดขายตรงมูลค่า 10,000 ล้านบาทนั้น ครึ่งปีแรกโตประมาณ 10%
โดยในอินเดียยังคงดำเนินการอยู่ แต่อาฟริกาได้ยกเลิกไปทำอย่างอื่นแทน ดังนั้นอาวียองซ์ ประเทศไทย จึงถือเป็นเฮดออฟฟิศของอาวียองซ์ ที่ในอนาคตเชื่อว่าจะมีการรวมกันของอาวียองซ์ไทยแลนด์และอินเดีย
สำหรับแผนการดำเนินงานของอาวียองซ์ ประเทศไทยนั้น ปีนี้จะรุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง เริ่มจากประเทศ มาเลเซีย เป็นประเทศแรก เนื่องจากมองว่า มาเลเซีย มีอัตราการเติบโตของตลาดขายตรงใกล้เคียงกับไทย และมีมูลค่าถึง 1.1 พันล้านยูเอส ประชากรกว่า 28 ล้านคน กว่า 75% ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายของอาวียองซ์ และประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจและรู้จักธุรกิจขายตรงเป็นอย่างดี
ล่าสุดได้เตรียมเปิดสำนักงานที่มาเลเซียแล้ว จากปัจจุบันเริ่มทดลองทำตลาด คาดว่าในเดือนมี.ค.ปีหน้า จะเปิดธุรกิจอย่างเป็นทางการได้ มั่นใจว่าภายใน 1 ปีแรก จะมีฐานสมาชิกกว่า 2 แสนรหัส จากปัจจุบัน อาวียองซ์ในประเทศไทย มีฐานสมาชิก 4.5 แสนรหัส แบ่งเป็นสมาชิกอภิสิทธิ์ และผู้ร่วมธุรกิจอาวียองซ์ในอัตราส่วน 50% เท่าๆกัน และมีผู้บริโภคที่ไม่ใช่สมาชิกกว่า 1 ล้านคน
นอกจากนี้บริษัทยังได้ปรับแผนปันผลตอบแทนไร้พรมแดน “ไอ-ทเวล์ฟ การันตี” ซึ่งมีการจ่ายเงินเพิ่มอีก 13% หน้าแผน และเพิ่มสูงสุด 20% สำหรับยอดสั่งซื้อจากสมาชิกใหม่ใน 2 เดือนแรก พร้อมประกันรายได้ให้ผู้ร่วมธุรกิจใหม่ตลอดระยะเวลา 1 ปี รวมถึงการทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ในการสร้างซอฟท์แวร์ใหม่ เพิ่มศักยภาพในการทำงานและความสะดวกให้กับผู้ร่วมธุรกิจอาวียองซ์
โดยเฟสแรกเปิดตัว 1.อาวียองซ์ ไซเบอร์ ออฟฟิศ เป็นเว็บไซต์ ช่วยเช็คคะแนน ดูยอดองค์กร จำนวนสมาชิกใหม่ และโปรแกรมต่างๆ 2.อาวียองซ์ ไซเบอร์ ชอป เป็นหน้าร้านออนไลน์ของตัวเอง เพิ่มความสะดวกเข้าถึงลูกค้า รวมถึงการเปิดตัวแอพพลิเคชั่นบนไอแพด เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างความสะดวกสบายในการทำธุรกิจมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน อาวียองซ์ไทยแลนด์ ครึ่งปีแรกมีรายได้เติบโตมากกว่าตลาดเล็กน้อย ส่วนภาพรวมตลาดขายตรงมูลค่า 10,000 ล้านบาทนั้น ครึ่งปีแรกโตประมาณ 10%
