“วอลลารา” ขายตรงอันดับที่39 จากเมืองลุงแซม บุกไทย ได้มือดี “ยุวดี บุญครอง” เสริมแกร่ง ชูประกันรายได้ดึงสมาชิกร่วมธุรกิจ ประเดิมสินค้านวัตกรรมระดับนาซ่าโกยรายได้ หวังขึ้นแท่นอันดับ5 ในเอเชียและไทยในอนาคต ดันสู่อันดับ1ในระดับโลกต่อไป
นายคาร์ล เครก คริสตอฟฟ์ ประธานกรรมการ บริษัท วอลลารา (สหรัฐอเมริกา) จำกัด ในเครือของ Aerus Holding เปิดเผยว่า วอลลารา (Vollara) ได้เริ่มดำเนินธุรกิจแบบขายตรงมาได้ปีกว่าที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันทางสถาบันขายตรงในสหรัฐอเมริกา ได้จัดอันดับให้ วอลลารา เป็นบริษัทขายตรงอยู่ในอันดับที่39 ทั้งนี้ในอนาคตบริษัทต้องการก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งดังนั้นจากเดิมที่จำหน่ายสินค้าเฉพาะในแถบอเมริกาเหนือ จึงมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ พบว่า เอเชียเป็นทวีปที่ธุรกิจขายตรงมีอัตราการเติบโตมากสุดในโลก
ปีนี้จึงตัดสินใจรุกตลาดในเอเชีย เลือกไทยเป็นประเทศแรกในการทำตลาด เพราะธุรกิจขายตรงในประเทศไทย มีอัตราการเติบโตอยู่ในอันดับที่ 13 ของโลก และคนไทยคุ้นเคยกับธุรกิจขายตรงเป็นอย่างดี อีกทั้งแนวทางการวางแผนดำเนินธุรกิจขายตรงของวอลลารา ใกล้เคียกับธุรกิจขายตรงที่ดำเนินการกันอยู่ก่อนแล้วมั่นใจว่าจะผลักดันให้วอลลารา ก้าวขึ้นเป็น1 ใน5 ของธุรกิจขายตรงไทยและในเอเชียได้ต่อไป
เบื้องต้นจัดตั้ง บริษัท วอลลารา ประเทศไทย จำกัด ขึ้นมา ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิ.ย.54 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ขณะที่การลงทุนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท (เฉพาะสินค้าที่นำมาจำหน่าย) พบว่าในช่วง6 อาทิตย์ที่ผ่านมา ผลตอบรับดี สินค้าที่นำมาจำหน่ายเบื้องต้นเป็น กลุ่มสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ระดับองค์การนาซ่า ได้แก่ เครื่อฟอกอากาศเทคโนโลยีนาซ่า ราคาเริ่มต้นที่ 24,967 บาท เครื่องปรับสภาพน้ำ สำหรับซักผ้าด้วยน้ำเปล่า ราคา36,633 บาท เป็นต้น โดยในอนาคตจะมีสินค้าเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจ จะเน้นจำหน่ายสินค้ามากกว่าหาสมาชิก โดยผู้ที่สนใจสมัครเป็นสมาชิก มีแพกเกจแบบปีต่อปี ตั้งแต่ระดับ 100- 5,000 เหรียญสหรัฐ เงื่อนไขสอบถามได้กับทางบริษัท โดยขณะนี้ได้ยื่นขออนุญาตจาก สคบ. อย่างถูกต้องเรียบร้อยแล้ว
ด้านนางยุวดี บุญครอง นักธุรกิจระดับไดมอนด์ บริษัท วอลลาร่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า หลังจากที่คร่ำหวอดอยู่ในธุรกิจสื่อสารมวลชนมากกว่า 30 ปี และปัจจุบันมีช่องรายการเพื่อสุขภาพ เฮลท์ พลัส แชนแนล สถานีสุขภาพบันเทิง 24 ชั่วโมง มองว่าวอลลารา เป็นธุรกิจขายตรงที่มีโอกาสและศักยภาพในการสร้างรายได้สูง อีกทั้งยังช่วยต่อยอดธุรกิจเดิม คือ ช่องเฮลท์ พลัสได้ จึงได้เข้าร่วมดำเนินธุรกิจกับทางวอลลารา พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายว่า ภายใน 3 เดือนนี้ จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 60-70 ล้านบาท
นายคาร์ล เครก คริสตอฟฟ์ ประธานกรรมการ บริษัท วอลลารา (สหรัฐอเมริกา) จำกัด ในเครือของ Aerus Holding เปิดเผยว่า วอลลารา (Vollara) ได้เริ่มดำเนินธุรกิจแบบขายตรงมาได้ปีกว่าที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันทางสถาบันขายตรงในสหรัฐอเมริกา ได้จัดอันดับให้ วอลลารา เป็นบริษัทขายตรงอยู่ในอันดับที่39 ทั้งนี้ในอนาคตบริษัทต้องการก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งดังนั้นจากเดิมที่จำหน่ายสินค้าเฉพาะในแถบอเมริกาเหนือ จึงมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ พบว่า เอเชียเป็นทวีปที่ธุรกิจขายตรงมีอัตราการเติบโตมากสุดในโลก
ปีนี้จึงตัดสินใจรุกตลาดในเอเชีย เลือกไทยเป็นประเทศแรกในการทำตลาด เพราะธุรกิจขายตรงในประเทศไทย มีอัตราการเติบโตอยู่ในอันดับที่ 13 ของโลก และคนไทยคุ้นเคยกับธุรกิจขายตรงเป็นอย่างดี อีกทั้งแนวทางการวางแผนดำเนินธุรกิจขายตรงของวอลลารา ใกล้เคียกับธุรกิจขายตรงที่ดำเนินการกันอยู่ก่อนแล้วมั่นใจว่าจะผลักดันให้วอลลารา ก้าวขึ้นเป็น1 ใน5 ของธุรกิจขายตรงไทยและในเอเชียได้ต่อไป
เบื้องต้นจัดตั้ง บริษัท วอลลารา ประเทศไทย จำกัด ขึ้นมา ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิ.ย.54 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ขณะที่การลงทุนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท (เฉพาะสินค้าที่นำมาจำหน่าย) พบว่าในช่วง6 อาทิตย์ที่ผ่านมา ผลตอบรับดี สินค้าที่นำมาจำหน่ายเบื้องต้นเป็น กลุ่มสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ระดับองค์การนาซ่า ได้แก่ เครื่อฟอกอากาศเทคโนโลยีนาซ่า ราคาเริ่มต้นที่ 24,967 บาท เครื่องปรับสภาพน้ำ สำหรับซักผ้าด้วยน้ำเปล่า ราคา36,633 บาท เป็นต้น โดยในอนาคตจะมีสินค้าเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจ จะเน้นจำหน่ายสินค้ามากกว่าหาสมาชิก โดยผู้ที่สนใจสมัครเป็นสมาชิก มีแพกเกจแบบปีต่อปี ตั้งแต่ระดับ 100- 5,000 เหรียญสหรัฐ เงื่อนไขสอบถามได้กับทางบริษัท โดยขณะนี้ได้ยื่นขออนุญาตจาก สคบ. อย่างถูกต้องเรียบร้อยแล้ว
ด้านนางยุวดี บุญครอง นักธุรกิจระดับไดมอนด์ บริษัท วอลลาร่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า หลังจากที่คร่ำหวอดอยู่ในธุรกิจสื่อสารมวลชนมากกว่า 30 ปี และปัจจุบันมีช่องรายการเพื่อสุขภาพ เฮลท์ พลัส แชนแนล สถานีสุขภาพบันเทิง 24 ชั่วโมง มองว่าวอลลารา เป็นธุรกิจขายตรงที่มีโอกาสและศักยภาพในการสร้างรายได้สูง อีกทั้งยังช่วยต่อยอดธุรกิจเดิม คือ ช่องเฮลท์ พลัสได้ จึงได้เข้าร่วมดำเนินธุรกิจกับทางวอลลารา พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายว่า ภายใน 3 เดือนนี้ จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 60-70 ล้านบาท