xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

สุภาพบุรุษหมายเลข 1 'อนุสรณ์ อมรฉัตร'

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ทันทีที่ 'ปู'- ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก้าวขึ้นรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ของประเทศไทย และกลายเป็น 'สุภาพสตรีหมายเลข 1' ผู้ที่เป็นสามีและมีฐานะเป็นพ่อของลูก อย่าง 'ป๊อบ' -อนุสรณ์ อมรฉัตร ซึ่งแม้ที่ผ่านมาจะแทบไม่ปรากฏตัวและปรากฏเป็นข่าว จนเกิดกระแสข่าวเลิกราจากกันในทางพฤตินัย ก็ต้องมาปรากฏกายเพื่อสร้างภาพ 'ครอบครัวตัวอย่าง' เดินเคียงข้างนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย พร้อมกับ 'น้องไปป์' ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร ลูกชายคนเดียว

ถี่ขึ้นและบ่อยครั้งขึ้นเป็นลำดับ

แน่นอน ถึงจะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมาย แต่ขณะนี้ 'อนุสรณ์ อมรฉัตร' ก็ได้ชื่อว่าเป็น 'สุภาพบุรุษหมายเลข 1' ผู้ที่ซึ่งจะต้องช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับนายกฯยิ่งลักษณ์ หลายคนถึงอยากรู้ว่า หนุ่มคนนี้เป็นใคร และมาพบรักกับนายกฯยิ่งลักษณ์ได้อย่างไร ?

ว่ากันว่า ป๊อบนั้นเป็นชายหนุ่มที่สุดแสนจะเพอร์เฟ็กต์ เพราะนอกจากเขาจะเป็นนักธุรกิจอนาคตไกล มีดีกรีปริญญาโทจากสหรัฐอเมริกา เคยเป็นถึงผู้บริหารใหญ่ในบริษัท เอ็มบิท จำกัด บริษัทในเครือซีพีที่ทำธุรกิจจำหน่ายเครื่องมือสื่อสาร และเป็นอาจารย์สอนพิเศษที่มหาวิทยาลัยหอการค้าแล้ว ที่สำคัญเขายังเป็นหนุ่มหล่อเจ้าคารม 'ลิ้นเสน่ห์' มากลีลา เป็นที่หลงใหลใฝ่ฝันของบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ เขาจึงมีโอกาสสานสัมพันธ์กับสาวๆ มากหน้าหลายตา ตั้งแต่นักศึกษาไปจนถึงสาวออฟฟิศ ดังนั้นสาวที่จะครอบครองหัวใจชายหนุ่มอย่างเขาได้นั้น จึงมิใช่แค่ขาว สวย หมวย อึ๋ม เท่านั้น แต่ต้องเป็นหญิงสาวที่ไม่ธรรมดา ต้องเพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติ ซึ่งบุตรสาวคนสุดท้องของตระกูลชินวัตรก็ดูจะมีคุณสมบัติดังกล่าวครบถ้วน

ด้วยเหตุดังกล่าว แม้หนุ่มป๊อบจะมีทางเลือกชนิดที่ต้องกล่าวว่า ไม่หวาดไม่ไหว แต่ท้ายที่สุดเขาก็ตัดสินใจลงเอยกับหญิงสาวที่เขาได้พบเจอเพราะหน้าที่การงานทางธุรกิจ นั่นก็คือ 'ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร'

"ช่วงที่เจอคุณปู ผมทำงานบริษัทในเครือซีพี ส่วนคุณปูทำงานที่ Yellow Pages ผมรู้จักพี่สาวคุณปู เพราะเขาส่งสินค้ามาขายในแม็คโคร คุณปูอยากเอา Yellow Pages มาวางในแม็คโครเลยนัดให้เราคุยกัน ตอนเจอกันรู้สึกว่าคุยกับถูกคอ จำไม่ได้ว่าเริ่มจีบตอนไหน ตอนนั้นคุณปูฮอต ส่วนผมก็เนื้อหอมเหมือนกัน (ยิ้ม) ผมเพิ่งเรียนจบปริญญาโทจากอเมริกา กลับมาทำงานบริษัทและไปสอนหนังสือในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ถือว่าหน้าที่การงานมั่นคง เลยมีคนเข้าหาเยอะแต่ผมถูกใจคุณปูที่สุด เพราะเขาสวย ทำงานเก่ง เวลาคุยสามารถปรึกษาเรื่องธุรกิจได้ เพราะเขาไม่แข็งเกินไป บางครั้งเขาแนะนำเราบางครั้งเราแนะนำเขา”

“ผมชอบที่คุณปูมาจากสังคมต่างจังหวัด ดังนั้น การสื่อสารระหว่างเราจึงเป็นแบบง่ายๆ คุยกันรู้เรื่อง เพราะผมเองก็เป็นคนง่ายๆ สบายๆ ถ้าเทียบกับนักธุรกิจคนอื่นๆ ที่มาจีบคุณปู ผมคงสู้ไม่ได้แต่คุณปูไม่ใช่คนที่สนใจตรงนี้ คิดว่าเหตุผลที่คุณปูเลือกผมคงเพราะมองว่าขยันทำงาน ผมประทับใจคุณปูที่เป็นคนอ่อนโยนแต่เข้มแข็ง เราทั้งคู่งานยุ่งมากเหมือนกัน แต่เขาแกร่งและขยันมาก เวลาผมโทรศัพท์ไปจีบเขาสามารถนั่งเซ็นเอกสารไปด้วยคุยไปด้วยได้ หรือบางทีผมไปพักผ่อนกับเพื่อนแล้วโทร.ไปหา เขายังนั่งทำงานอยู่เลย” อนุสรณ์เล่าถึงช่วงเวลาที่พบรักกับคุณปู ยิ่งลักษณ์ในหนังสือ "ปรากฏการณ์ยิ่งลักษณ์"

ขณะเดียวกันช่วงที่เริ่มคบหากันนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่คุณปู สาวสวยวัยเพียง 27 ปี ต้องตัดสินใจเช่นกันว่าจะสานสัมพันธ์กับหนุ่มนักธุรกิจอนาคตไกลอย่างอนุสรณ์ หรือจะเลือกคนรักที่คบหากันมาหลายปีตั้งแต่ครั้งที่คุณปูยังเป็นนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่ในที่สุดเมื่อผู้บริหารหนุ่มจากซีพีอย่างอนุสรณ์ก็โทร.จีบเช้าจีบเย็น ทำให้คุณปูเริ่มหวั่นไหวและเทใจให้กับหนุ่มป๊อบในที่สุด

แม้ช่วงแรกจะมีข่าวเมาท์ว่าเดิมนั้นหนุ่มป๊อบพยายามเป็นพ่อสื่อให้กับ ศุภกิจ เจียรวนนท์ ลูกชายคนโตของเจ้าสัวธนินท์ ซึ่งเป็นเจ้านายของตนเอง แต่ในที่สุดความใกล้ชิดและกามเทพก็ชักพาให้ทั้งสองคบหากัน ความรักของทั้งคู่นั้นหอมหวานราวช็อกโกแลตเคลือบคาราเมล และราบรื่นรวดเร็วดังรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ เพียงสองปีผ่านไปทั้งคู่จึงตัดสินใจแต่งงานกัน ซึ่งการแต่งงานซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมไฮแอท โดยมีเจ้าสัวธนินท์แห่งซีพีเป็นเจ้าภาพฝ่ายเจ้าบ่าว และมี 'ทักษิณ ชินวัตร' ซึ่งขณะนั้นมีตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลนายชวน หลีกภัย และเจ้าของชินคอร์ป บริษัทสื่อสารยักษ์ใหญ่ของไทย เป็นเจ้าภาพฝ่ายเจ้าสาว จึงถือได้ว่านอกจากจะเป็นงานระดับบิ๊กแล้วยังเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ของสองกลุ่มธุรกิจผู้ทรงอิทธิพลในเมืองไทยอีกด้วย

"ผมตัดสินใจขอแต่งงานกับคุณปู เพราะอยู่ด้วยแล้วมีความสุขเขาเป็นทั้งเพื่อน ที่ปรึกษา ช่วยเติมเต็มส่วนที่เราไม่มี คอยดูแลเอาใจใส่จนทำให้ชีวิตผมดีขึ้น แม้จะแต่งงานกันแล้วเราก็ยังให้เวลาส่วนตัวซึ่งกันและกัน บางวันผมไปตีกอล์ฟ คุณปูไปร้านเสริมสวยบางครั้งผมไปสังสรรค์กับเพื่อน ส่วนเขาไปช็อปปิ้ง ทุกอย่างเลยลงตัว ผมอยู่กับคุณปูมาเกือบ 20 ปีไม่เคยทะเลาะกันรุนแรง ถ้างอนก็ไม่นาน เพราะเรามีกฎว่าถ้าผมงอนห้ามออกจากบ้าน และภายในครึ่งชั่วโมงต้องง้อเขา (หัวเราะ) ส่วนคุณปูถ้างอนแล้วออกไปไหน เขาจะโทร.บอกว่าอยู่ไหน แล้วให้ผมตามไปง้อเลยทำให้ผมคิดว่างั้นจะทะเลาะกันทำไม ดีกันไว้ดีกว่า”

“ก่อนมีน้องไปป์ ผมกับคุณปูมีกิจกรรมที่ชอบทำของแต่ละคน แต่พอมีลูกก็เปลี่ยนไปเราสองคนหันมาทุ่มเทเวลาให้ลูกหมด ถ้าไม่มีน้องไปป์ คุณปูอาจจะเห็นว่าผมเป็นลูกไปแล้วก็ได้ เพราะก่อนมีลูกชาย เขาเคยมาลูบคอล้อเล่นแล้วเรียกว่า ลูกป๊อปๆ (หัวเราะ) พอมีน้องไปป์แล้ว เราสองคนยิ่งผูกพันขึ้นเรื่อยๆ คุณปูเคยบอกว่าลูกชายกับพ่อเหมือนกันมากถึง 90% เขาบอกว่าเมื่อก่อนเวลาผมไม่อยู่เขาจะเหงา แต่ตอนนี้ผมจะไปไหนก็ได้ เพราะเขามีน้องไปป์เป็นตัวแทนผม (ยิ้ม)"อนุสรณ์บรรยายความรักของทั้งสองคน

แต่หลังจากนั้นเพียงปีเศษ ก็เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นกับอนุสรณ์ เนื่องจากบริษัท เอ็มบิส ที่หนุ่มป๊อบรับหน้าที่บริหารมานานเกือบสิบปีเกิดปัญหาบางประการ จากนั้นก็เกิดเรื่องราวใหญ่โตจนในที่สุด เรื่องก็ยุติลงด้วยการที่อนุสรณ์ย้ายมาทำงานเป็นผู้บริหารที่เอ็มลิงค์

ขณะที่ยิ่งลักษณ์นั้นนอกจากจะต้องบริหารงานที่เอไอเอสแล้วก็ยังต้องเริ่มเข้ามาช่วยงานการเมืองของ 'พี่แม้ว' และนี่เองคือสาเหตุที่ทำให้มีข่าวลือเรื่องสัมพันธ์รักระหว่างหนุ่มป๊อบและคุณปูเริ่มร้าวฉานถึงขั้นที่เป็นสามีภรรยากันเพียงในนาม รวมถึงข่าวลือเรื่องของคุณปูที่มีบรรดาหนุ่มน้อยใหญ่ ทั้งนักธุรกิจ นักการเมือง หรือข้าราชการ ต่างพาก็เข้าคิวขายขนมจีบไม่เว้นวัน

แต่ล่าสุดบรรดาหนุ่มๆ ทั้งหลายก็ดูจะเป็นได้เพียงแค่หมามองเครื่องบินเท่านั้น เพราะจนถึงบัดนี้คุณปูก็ยังยืนยันที่จะทำหน้าที่คุณแม่ของ 'น้องไปป์' ลูกชายคนเดียว โดยมี 'อนุสรณ์ อมรฉัตร' ทำหน้าที่คุณพ่อที่แสนดีเหมือนเดิม

และวันนี้เมื่อ 'ปู' ยิ่งลักษณ์ ขึ้นรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของประเทศไทย สามีอย่างอนุสรณ์จึงจำเป็นต้องรับบท 'สุภาพบุรุษหมายเลข 1' ด้วยเช่นกัน เพื่อช่วยค้ำยันเก้าอี้นายกรัฐมนตรีหญิง เพราะภาพของครอบครัวที่แสนอบอุ่น อยู่กันพร้อมหน้าทั้งลูกและสามีย่อมส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้นายกฯยิ่งลักษณ์

ดังนั้น จึงไม่แปลกที่หลังจากได้รับสภาผู้แทนราษฎรมีมติเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี เราจะเห็นนายกฯยิ่งลักษณ์ พร้อมด้วยสามีนาม 'อนุสรณ์ อมรฉัตร' ที่เดินตามต้อยๆ ออกงานและไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเวลา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีแม้เงาของอนุสรณ์ ตลอดช่วงหาเสียงเลือกตั้งมี 'น้องไปป์'ลูกชาย ที่ไปช่วยยิ่งลักษณ์หาเสียงเท่านั้น ไม่แม้กระทั่งจะเอ่ยถึงชื่อสามีหรือชีวิตครอบครัว

ล่าสุดอนุสรณ์ซึ่งต้องกลับมาเดินข้างภรรยา ได้ลาออกจากตำแหน่งประธานของ บมจ.เอ็มลิงค์ เอเชีย คอร์เปอเรชั่น จำกัด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาขัดแย้งที่ตามมาภายหลังจากที่คุณปู ซึ่งเป็นภรรยาก้าวเข้าทำงานการเมือง

และฉับพลันทันทีที่อนุสรณ์เปลี่ยนสถานะเป็นสามีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย อนุสรณ์ก็ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีแห่งประเทศจีน ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมว่า “แม้ว่าผมกับภรรยาจะได้ใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการและมีความสุขอยู่แล้ว แต่เราก็ตัดสินใจเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง”

นอกจากนี้ อนุสรณ์ยังเปิดใจถึงเรื่องความรักกับซีซีทีวีด้วยว่า ตอนที่เจอกันก็ติดใจในความสวยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์เมื่อแรกเห็น และหลังจากที่ได้แต่งงานกันก็พบว่าต้องมีบทบาทในการสร้างความกลมกลืนในครอบครัว

“ปกติจะเรียกภรรยาว่าคุณปูหรือบางครั้งจะเรียกแม่หรือที่รัก ส่วนเมื่อทะเลาะกันผมเป็นคนขอโทษเป็นปกติ คุณยิ่งลักษณ์เป็นคนตั้งกฎ ข้อแรก ฉันถูกต้องเสมอ และข้อที่สอง หากฉันผิดให้กลับไปอ่านข้อแรก”อนุสรณ์ตอบคำว่าเรื่องใครเป็นผู้เอ่ยคำขอโทษก่อนเมื่อเกิดทะเลาะกัน

และเมื่อถูกตั้งคำถามถึงบทบาทใหม่ของเขาในฐานะวสุภาพบุรุษหมายเลข 1ของไทย อนุสรณ์ก็ตอบว่า "ผมจะเป็นพ่อบ้าน เป็นที่ปรึกษาให้กับนายกรัฐมนตรีอยู่ที่บ้าน เฉพาะที่บ้านเท่านั้น ผมจะคอยสนับสนุนเธอเต็มที่อยู่เบื้องหลัง"

ส่วนนัยของถ้อยคำนี้จะมีความหมายว่าอย่างไร คงต้องไปตีความกันเอาเอง

และต่อไปนี้ก็คงต้องลุ้นกันต่อไปว่า กับสถานะใหม่ของอนุสรณ์ที่ก้าวไปเป็น “สุภาพบุรุษหมายเลข 1” ชีวิตของเขาจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่ ทั้งในฐานะสามี และฐานะพ่อของลูก


กำลังโหลดความคิดเห็น