ASTVผู้จัดการรายวัน - กระทรรวมการท่องเที่ยว จ่อขอรัฐบาลปูแดง เพิ่ม กรอบวงเงินงบประมาณปี 2555 เป็น กว่า 2.7 หมื่นล้าน เพิ่มจากกรอบที่รัฐบาล มาร์ค อนุมัติไว้ถึงกว่า หมื่นล้านบาท อ้าง จำเป็นต้องใช้พัฒนาท่องเที่ยวและกีฬา ทันรับเปิดเสรีอาเซียน และสนองนโยบายรัฐที่ตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยว 30 ล้านคน โกยรายได้ 2 ล้านล้านบาท ในปี 2558
วานนี้(4 ส.ค.54) นายสมบัติ คุรุพันธ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประธานการประชุมการพิจารณาปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 เปิดเผยว่า ได้พิจารณาร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง ได้ข้อสรุปว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะเสนอขอกรอบวงเงินงบประมาณประจำปี 2555 ต่อรัฐบาลใหม่อีกครั้ง ในกรอบวงเงิน 27,217.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,612.34 ล้านบาท จากกรอบเดิมที่รัฐบาลชุดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี อนุมัติ เมื่อ 28 มี.ค.54 ให้ไว้ที่ 16,605.65 ล้านบาท จากวงเงินที่เสนอขอไป ทั้งของงานท่องเที่ยวและกีฬารวม 34,178 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การเสนอของเพิ่มวงเงินงบประมาณจากกรอบเดิมที่รัฐบาลชุดเก่าอนุมัติไว้นั้น กระทรวงฯจะให้เหตุผลว่า เพื่อให้ได้กรอบวงเงินที่ครอบคลุมการบริหารจัดการต่างๆให้ได้มากที่สุด เพราะ กระทรวงฯมีภาระกิจ ในการทำงานเพื่อสนับสนุนการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนต่างๆ ของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งประกอบไปด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงฯ กรมพลศึกษา กรมการท่องเที่ยว สถาบันการพลศึกษา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การกีฬาแห่งประเทศไทย รวมไปถึงกองทุนเพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กองทุนส่งเสริมกีฬาอาชีพไทย และกองทุนกีฬามวย ในการขับเคลื่อนนโยบายและกิจกรรม เพื่อบรรลุเป้าหมายที่จะส่งเสริมและพัฒนาการกีฬาและการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้มีมาตรฐาน เป็นศูนย์กลางของอาเซียน ทั้งด้านท่องเที่ยวและกีฬา ภายในปี 2558 ก่อนการเปิดเสรีอาเซียน (AEC) รวมถึงพัฒนาให้เป็นอันดับต้นๆในเอเชีย ตามแผนงานระยะ 5 ปี ของ กรทะรวง ที่ตั้งเป้าหมาย จะเพิ่มจำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศไทยภายในปี 2558 เป็น 30 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งจะทำให้ในปี 2558 กระทรวงฯอาจต้องพิจารณาเสนอขอกรอบวงเงินงบประมาณเป็นตัวเลข 1 แสนล้านบาท
“กรอบวงเงินที่จะเสนอขอครั้งใหม่นี้ พิจารณาตามความเหมาะสม เพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2558 โดยก่อนเสนอรัฐบาลชุดใหม่ กระทรวงฯจะประชุมพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ได้กรอบวงเงินที่ครอบคลุมการบริหารจัดการต่างๆให้ได้มากที่สุด “
**แจงทุกหน่วยงานต้องใช้เงินเพิ่ม****
นายสมบัติ กล่าวในรายละเอียด แบ่งเป็น ภาคส่วนของการท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยวมีกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่าย ปี 2555 เบื้องต้น จำนวน 3,645.91 ล้านบาท การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 8,400 ล้านบาท และกองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ขอปรับเพิ่มจาก 50 ล้านบาท เป็น 300 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อรองรับการเปิดเสรีอาเซียน ในปี 2558 และเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาลใหม่ ที่ตั้งเป้าไว้ จำนวน 30ล้านคน มีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 2 ล้านล้านบาทซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่ต้องมีการพัฒนาและส่งเสริมในด้านต่างๆ เช่นด้านการประชาสัมพันธ์ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวต่างๆให้ได้มาตรฐาน รวมทั้งงบประมาณจากรัฐบาลในการดำเนินงาน เพื่เป็นกลไก ที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว รวมถึงมูลค่าหรือรายได้ที่ได้การท่องเที่ยวให้มากขึ้น
ในส่วนงานด้านการกีฬา ภายในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมพลศึกษา มีกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่าย ปี 2555 เบื้องต้น จำนวน 1,776.85 ล้านบาท สถาบันการพลศึกษา 2,312.39 ล้านบาท และการกีฬาแห่งประเทศไทย 8,812.34 ล้านบาท ในส่วนของกองทุนด้านกีฬาซึ่งทางการกีฬาแห่งประเทศไทยได้ขอปรับเพิ่ม ดังนี้ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จาก 350 ล้านบาท เป็น 800 ล้านบาท กองทุนส่งเสริมกีฬาอาชีพ จาก 170 ล้านบาท เป็น 200 ล้านบาท และกองทุนกีฬามวย จาก 50ล้านบาท เป็น 184 ล้านบาท เพื่อนำไปพัฒนาการกีฬาของประเทศไทยในทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็นการจัดการแข่งขัน การเตรียมตัวนักกีฬาเพื่อส่งแข่งขันในรายการแข่งขันกีฬาระดับต่างๆ ตั้งแต่ระดับเยาวชน ถึงระดับกีฬาเพื่อการอาชีพ การพัฒนาบุคลากรด้านการกีฬา ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้พัฒนาการกีฬาของประเทศไทย ให้เป็นผู้นำด้านกีฬาอันดับต้นๆ ในทวีปเอเชีย จนถึงระดับโลก
วานนี้(4 ส.ค.54) นายสมบัติ คุรุพันธ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประธานการประชุมการพิจารณาปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 เปิดเผยว่า ได้พิจารณาร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง ได้ข้อสรุปว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะเสนอขอกรอบวงเงินงบประมาณประจำปี 2555 ต่อรัฐบาลใหม่อีกครั้ง ในกรอบวงเงิน 27,217.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,612.34 ล้านบาท จากกรอบเดิมที่รัฐบาลชุดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี อนุมัติ เมื่อ 28 มี.ค.54 ให้ไว้ที่ 16,605.65 ล้านบาท จากวงเงินที่เสนอขอไป ทั้งของงานท่องเที่ยวและกีฬารวม 34,178 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การเสนอของเพิ่มวงเงินงบประมาณจากกรอบเดิมที่รัฐบาลชุดเก่าอนุมัติไว้นั้น กระทรวงฯจะให้เหตุผลว่า เพื่อให้ได้กรอบวงเงินที่ครอบคลุมการบริหารจัดการต่างๆให้ได้มากที่สุด เพราะ กระทรวงฯมีภาระกิจ ในการทำงานเพื่อสนับสนุนการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนต่างๆ ของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งประกอบไปด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงฯ กรมพลศึกษา กรมการท่องเที่ยว สถาบันการพลศึกษา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การกีฬาแห่งประเทศไทย รวมไปถึงกองทุนเพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กองทุนส่งเสริมกีฬาอาชีพไทย และกองทุนกีฬามวย ในการขับเคลื่อนนโยบายและกิจกรรม เพื่อบรรลุเป้าหมายที่จะส่งเสริมและพัฒนาการกีฬาและการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้มีมาตรฐาน เป็นศูนย์กลางของอาเซียน ทั้งด้านท่องเที่ยวและกีฬา ภายในปี 2558 ก่อนการเปิดเสรีอาเซียน (AEC) รวมถึงพัฒนาให้เป็นอันดับต้นๆในเอเชีย ตามแผนงานระยะ 5 ปี ของ กรทะรวง ที่ตั้งเป้าหมาย จะเพิ่มจำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศไทยภายในปี 2558 เป็น 30 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งจะทำให้ในปี 2558 กระทรวงฯอาจต้องพิจารณาเสนอขอกรอบวงเงินงบประมาณเป็นตัวเลข 1 แสนล้านบาท
“กรอบวงเงินที่จะเสนอขอครั้งใหม่นี้ พิจารณาตามความเหมาะสม เพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2558 โดยก่อนเสนอรัฐบาลชุดใหม่ กระทรวงฯจะประชุมพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ได้กรอบวงเงินที่ครอบคลุมการบริหารจัดการต่างๆให้ได้มากที่สุด “
**แจงทุกหน่วยงานต้องใช้เงินเพิ่ม****
นายสมบัติ กล่าวในรายละเอียด แบ่งเป็น ภาคส่วนของการท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยวมีกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่าย ปี 2555 เบื้องต้น จำนวน 3,645.91 ล้านบาท การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 8,400 ล้านบาท และกองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ขอปรับเพิ่มจาก 50 ล้านบาท เป็น 300 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อรองรับการเปิดเสรีอาเซียน ในปี 2558 และเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาลใหม่ ที่ตั้งเป้าไว้ จำนวน 30ล้านคน มีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 2 ล้านล้านบาทซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่ต้องมีการพัฒนาและส่งเสริมในด้านต่างๆ เช่นด้านการประชาสัมพันธ์ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวต่างๆให้ได้มาตรฐาน รวมทั้งงบประมาณจากรัฐบาลในการดำเนินงาน เพื่เป็นกลไก ที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว รวมถึงมูลค่าหรือรายได้ที่ได้การท่องเที่ยวให้มากขึ้น
ในส่วนงานด้านการกีฬา ภายในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมพลศึกษา มีกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่าย ปี 2555 เบื้องต้น จำนวน 1,776.85 ล้านบาท สถาบันการพลศึกษา 2,312.39 ล้านบาท และการกีฬาแห่งประเทศไทย 8,812.34 ล้านบาท ในส่วนของกองทุนด้านกีฬาซึ่งทางการกีฬาแห่งประเทศไทยได้ขอปรับเพิ่ม ดังนี้ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จาก 350 ล้านบาท เป็น 800 ล้านบาท กองทุนส่งเสริมกีฬาอาชีพ จาก 170 ล้านบาท เป็น 200 ล้านบาท และกองทุนกีฬามวย จาก 50ล้านบาท เป็น 184 ล้านบาท เพื่อนำไปพัฒนาการกีฬาของประเทศไทยในทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็นการจัดการแข่งขัน การเตรียมตัวนักกีฬาเพื่อส่งแข่งขันในรายการแข่งขันกีฬาระดับต่างๆ ตั้งแต่ระดับเยาวชน ถึงระดับกีฬาเพื่อการอาชีพ การพัฒนาบุคลากรด้านการกีฬา ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้พัฒนาการกีฬาของประเทศไทย ให้เป็นผู้นำด้านกีฬาอันดับต้นๆ ในทวีปเอเชีย จนถึงระดับโลก