กรมการท่องเที่ยว คลอดสถิติ คนไทยเที่ยวในประเทศ ครั้งแรก หลังรับโอนจาก ททท.มาหลายปี ระบุปี 2553 คนไทยเที่ยว 101.33 ล้านคนครั้ง โตกว่า 17% ทะลุเป้าหมายของ ททท.ที่วางไว้ ชี้ ปายขึ้นแท่นอันดับ 1 คนไทยแห่เที่ยว เชียงใหม่ รั้งอันดับ 5 ด้านผู้ว่า ททท.พร้อมปรับเพิ่มเป้าคนไทยเที่ยวปีนี้ พร้อมปรับแผนเพิ่มการใช้จ่ายต่อคนต่อทริป
นายสุพล ศรีพันธุ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ทางกรมฯได้จัดทำสถิตินักท่องเที่ยวคนไทยเที่ยวในประเทศ ประจำปี 2553 เสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งถือเป็นการประกาศตัวเลขสถิตินักท่องเที่ยวคนไทย อย่างเป็นทางการครั้งแรกตั้งแต่ได้รับโอนงานมาจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยพบว่า คนไทยเดินทางเที่ยวในประเทศ มีจำนวนรวม 101.33 ล้านคนครั้ง( 1 คน อาจเที่ยวมากกว่า 1 ครั้งต่อปี) เพิ่มจากปี 2552 ซึ่งเดินทางอยู่ที่ 86.4 ล้านคนครั้ง หรือเพิ่มขึ้น 17.29% สร้างรายได้เป็นเงินหมุนเวียนภายในประทเศ 4.02 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.04% จากปี 2552 ที่มีเงินหมุนเวียนอยู่ที่ 2.64 แสนล้านบาท การจัดเก็บยังพบว่า จำนวนวันพักค้างคืนเฉลี่ยของคนไทยเที่ยวในประเทศ ในปี 2553 อยู่ที่ 2.59 วัน เพิ่มจากปี 2552 ซึ่งพักเฉลี่ยอยู่ที่ 2.35 วัน มีการใช้จ่ายที่ 1,736.38 บาทต่อคนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ราว 12.72%
สถิติดังกล่าวเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการคาดการณ์ของ ททท.ที่ประเมินว่า ปี 2553 จะมีคนไทยเดินทางเที่ยวในประเทศ อยู่ที่ 90 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้ 4 แสนล้านบาท ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวคนไทยเที่ยวในประเทศไตรมาสแรกปี 2554 (ม.ค.-มี.ค.) จัดทำเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบอีกครั้ง จึงยังไม่สามารถเปิดเผยได้
สาเหตุคนไทยเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นผลจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ททท.ซึ่งเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีอย่างนี้แล้ว ทางกรมฯ และ ททท.จะยิ่งร่วมมือกันช่วยส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวในประเทศกันให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนภายในประเทศซึ่งเป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ โดยจะเน้นสร้างกิจกรรม เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทาง ปรับปรุงมาตรฐานบริการ มาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างความประทับใจ ส่วนกิจกรรมที่จะใช้ส่งเสริม ได้แก่ กิจกรรมประเภท วัฒนธรรม และงานประเพณี เป็นต้น
การจัดเก็บสถิติยังเจาะลึก โดยแยกรายจังหวัด ซึ่งพบว่า ปี 2553 จังหวัด 5 อันดับที่คนไทยเที่ยวสูงสุด คือ กรุงเทพฯ มีจำนวน 38.22 ล้านคน เพิ่มจากปีก่อนหน้า 27.25% โดยอาจเป็นเพราะคนต่างจังหวัดเข้ามาทำธุระในกรุงเทพฯ และแวะเที่ยวด้วย ส่วนจังหวัดอันดับสอง คือ เมืองพัทยา 8.31 ล้านคน เพิ่มขึ้น 93.07% อันดับสาม คือ พระนครศรีอยุธยา 6.53 ล้านคน เพิ่มขึ้น 82.37% อันดับสี กาญจนบุรี 5.74 ล้านคน เพิ่มขึ้น 25.25% และอันดับห้า ภูเก็ต 5.47 ล้านคน เพิ่มขึ้น 62.07%
***ปาย ติดอันดับหนึ่งคนไทยแห่เที่ยว***
สำหรับจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม 5 อันดับแรก ที่คนไทยชื่นชอบเดินทางไปเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว ได้แก่ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีคนไทยไปเที่ยว 219,325 คน เพิ่มขึ้น 8.09%, อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา มีคนไทยไปเที่ยว 1.53 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.51%, อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 2.44 ล้านคน เพิ่มขึ้น 9.93%, อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี 4.54 ล้านคน เพิ่มขึ้น 15.91% และจังหวัดเชียงใหม่ 5.04 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16.07% เป็นต้น
ในส่วนของตัวเลขคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ พบว่า เดือนกรกฎาคม 54 มีคนไทยไปต่างประเทศ 606,744 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดี่ยวกันของปีก่อน 3.41% โดยเดินทางผ่านด่านสุวรรณภูมิมากสุด 231,972 คน เพิ่มขึ้น 8.13% รองลงมาคือ ด่านอรัญประเทศ 126,949 คน ลดลง 15.77% ด่านสะเดา 54,305 คน เพิ่มขึ้น 115.11% ด่านหนองคาย 35,569 คน ลดลง 19% และด่านปาดังเบซาร์ 29,157 คน ลดลง 66.73% ซึ่งตัวเลขทั้งหมดที่รายงานมีความแม่นยำสูง เพราะมีคณะกรรมการตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งกีรมฯจะนำขอมูลขึ้นในเว็บไซต์ www.tourism.go.th เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปใช้ประโยชน์
อย่างไรก็ตาม กรมจะให้ความสำคัญ ต่อการจัดเก็บสถิติคนไทยเที่ยวในประเทศ และ ไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะมีผลต่อการวางแผนนโยบายทางเศรษฐกิจ ในหลายภาคส่วน และยังชี้วัดได้ว่า ไทยขาดดุลหรือไม่ เมื่อเทียบกับรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาไทย ซึ่งปี 2553 พบว่า มีคนไทยไปต่างประเทศ 5.34 ล้านคน นำเงินออกนอกประเทศ 121,479.98 ล้านบาท พักเฉลี่ย 5.06 วันต่อคน ขณะที่ต่างชาติมาไทยปี 2553 อยู่ที่ 15.93 ล้านคน นำรายได้เข้าประเทศ 592,794 ล้านบาท พักเฉลี่ย 9.12 วันต่อคน
***ททท.เล็งเพิ่มเป้าวางแผนเพิ่มการใช้เงิน****
ทางด้าน นายสุรพล เศวตรเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า จากตัวเลขสถิติดังกล่าว มีความเป็นไปได้ ที่ ททท.จะพิจารณาปรับเป้าหมายนักท่องเที่ยวคนไทยเที่ยวในประเทศสำหรับปี 2554 จากปัจจุบันที่วางไว้ที่ 91 ล้านคนครั้ง รายได้ 4.32 แสนล้านบาท และปี 2555 อยู่ที่ 93 ล้านคนครั้ง รายได้ 4.53 แสนล้านบาท โดยใช้ฐานการคำนวนจากปี 2550 โดยการปรับใหม่ จะยังใช้อัตราการเติบโตที่ 3% จากฐานตัวเลขใหม่ของกรมการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ตามตัวเลขการรายงานของกรมการท่องเที่ยว ยังสะท้อนอีกว่า ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยในการเที่ยวแต่ละครั้งลดน้อยลง เพราะกรมฯรายงานว่า เงินสะพัดเฉพาะตลาดในประเทศปี 2553 อยู่ที่ 4.02 แสนล้านบาท แต่ ททท.คาดการณ์ที่ 4.3 แสนล้านบาท ซึ่งสูงกว่าและสวนทางกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น ททท.คง คิดวางแผนกระตุ้นความถี่ของการท่องเที่ยวอย่างเดียวคงไม่ได้ แต่จะต้องมุ่งให้นักท่องเที่ยวเพิ่มการใช้จ่ายต่อการเที่ยวหนึ่งครั้งด้วย
***การเมืองนิ่งคนไทยออกเที่ยว****
นายเจริญ วังอนานนท์ นายมสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว หรือ ทีทีเอเอ กล่าวว่า กรณีคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพราะเริ่มมีความมั่นใจต่อสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศ ประกอบกับ ความถี่ของการจัดงานส่งเสริมการขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว ซึ่งมีหลายหน่วยงานให้ความสนใจในการจัดงานอย่างต่อเนื่องตลอดปี กระตุ้นคนไทยเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดปีในทุกช่วงเทศกาล ล่าสุด สมาคมฯร่วมกับ บัตรเครดิตเคทีซี จัด เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก ครั้งที่ 9 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มาจัดงานในช่วงโลว์ซีซัน จากปกติจะจัดปีละ 1 ครั้งช่วงต้นปี โดยการขยายครั้งนี้เพราะเห็นช่องทางการขายแพกเกจสำหรับคนเที่ยวปิดเทอมเล็ก และช่วงฤดูหนาว เชื่อว่างานนี้ จะ คาดกระตุ้นยอดขายช่วงไฮซีซั่นสำหรับตลาดไทยได้ไม่ตำกว่า 40% โดยงานนี้ใช้งบจัด 30 ล้านบาท คาดว่าจะมีรายได้สะพัด 400 ล้านบาท
นายสุพล ศรีพันธุ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ทางกรมฯได้จัดทำสถิตินักท่องเที่ยวคนไทยเที่ยวในประเทศ ประจำปี 2553 เสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งถือเป็นการประกาศตัวเลขสถิตินักท่องเที่ยวคนไทย อย่างเป็นทางการครั้งแรกตั้งแต่ได้รับโอนงานมาจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยพบว่า คนไทยเดินทางเที่ยวในประเทศ มีจำนวนรวม 101.33 ล้านคนครั้ง( 1 คน อาจเที่ยวมากกว่า 1 ครั้งต่อปี) เพิ่มจากปี 2552 ซึ่งเดินทางอยู่ที่ 86.4 ล้านคนครั้ง หรือเพิ่มขึ้น 17.29% สร้างรายได้เป็นเงินหมุนเวียนภายในประทเศ 4.02 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.04% จากปี 2552 ที่มีเงินหมุนเวียนอยู่ที่ 2.64 แสนล้านบาท การจัดเก็บยังพบว่า จำนวนวันพักค้างคืนเฉลี่ยของคนไทยเที่ยวในประเทศ ในปี 2553 อยู่ที่ 2.59 วัน เพิ่มจากปี 2552 ซึ่งพักเฉลี่ยอยู่ที่ 2.35 วัน มีการใช้จ่ายที่ 1,736.38 บาทต่อคนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ราว 12.72%
สถิติดังกล่าวเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการคาดการณ์ของ ททท.ที่ประเมินว่า ปี 2553 จะมีคนไทยเดินทางเที่ยวในประเทศ อยู่ที่ 90 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้ 4 แสนล้านบาท ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวคนไทยเที่ยวในประเทศไตรมาสแรกปี 2554 (ม.ค.-มี.ค.) จัดทำเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบอีกครั้ง จึงยังไม่สามารถเปิดเผยได้
สาเหตุคนไทยเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นผลจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ททท.ซึ่งเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีอย่างนี้แล้ว ทางกรมฯ และ ททท.จะยิ่งร่วมมือกันช่วยส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวในประเทศกันให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนภายในประเทศซึ่งเป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ โดยจะเน้นสร้างกิจกรรม เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทาง ปรับปรุงมาตรฐานบริการ มาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างความประทับใจ ส่วนกิจกรรมที่จะใช้ส่งเสริม ได้แก่ กิจกรรมประเภท วัฒนธรรม และงานประเพณี เป็นต้น
การจัดเก็บสถิติยังเจาะลึก โดยแยกรายจังหวัด ซึ่งพบว่า ปี 2553 จังหวัด 5 อันดับที่คนไทยเที่ยวสูงสุด คือ กรุงเทพฯ มีจำนวน 38.22 ล้านคน เพิ่มจากปีก่อนหน้า 27.25% โดยอาจเป็นเพราะคนต่างจังหวัดเข้ามาทำธุระในกรุงเทพฯ และแวะเที่ยวด้วย ส่วนจังหวัดอันดับสอง คือ เมืองพัทยา 8.31 ล้านคน เพิ่มขึ้น 93.07% อันดับสาม คือ พระนครศรีอยุธยา 6.53 ล้านคน เพิ่มขึ้น 82.37% อันดับสี กาญจนบุรี 5.74 ล้านคน เพิ่มขึ้น 25.25% และอันดับห้า ภูเก็ต 5.47 ล้านคน เพิ่มขึ้น 62.07%
***ปาย ติดอันดับหนึ่งคนไทยแห่เที่ยว***
สำหรับจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม 5 อันดับแรก ที่คนไทยชื่นชอบเดินทางไปเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว ได้แก่ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีคนไทยไปเที่ยว 219,325 คน เพิ่มขึ้น 8.09%, อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา มีคนไทยไปเที่ยว 1.53 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.51%, อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 2.44 ล้านคน เพิ่มขึ้น 9.93%, อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี 4.54 ล้านคน เพิ่มขึ้น 15.91% และจังหวัดเชียงใหม่ 5.04 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16.07% เป็นต้น
ในส่วนของตัวเลขคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ พบว่า เดือนกรกฎาคม 54 มีคนไทยไปต่างประเทศ 606,744 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดี่ยวกันของปีก่อน 3.41% โดยเดินทางผ่านด่านสุวรรณภูมิมากสุด 231,972 คน เพิ่มขึ้น 8.13% รองลงมาคือ ด่านอรัญประเทศ 126,949 คน ลดลง 15.77% ด่านสะเดา 54,305 คน เพิ่มขึ้น 115.11% ด่านหนองคาย 35,569 คน ลดลง 19% และด่านปาดังเบซาร์ 29,157 คน ลดลง 66.73% ซึ่งตัวเลขทั้งหมดที่รายงานมีความแม่นยำสูง เพราะมีคณะกรรมการตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งกีรมฯจะนำขอมูลขึ้นในเว็บไซต์ www.tourism.go.th เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปใช้ประโยชน์
อย่างไรก็ตาม กรมจะให้ความสำคัญ ต่อการจัดเก็บสถิติคนไทยเที่ยวในประเทศ และ ไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะมีผลต่อการวางแผนนโยบายทางเศรษฐกิจ ในหลายภาคส่วน และยังชี้วัดได้ว่า ไทยขาดดุลหรือไม่ เมื่อเทียบกับรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาไทย ซึ่งปี 2553 พบว่า มีคนไทยไปต่างประเทศ 5.34 ล้านคน นำเงินออกนอกประเทศ 121,479.98 ล้านบาท พักเฉลี่ย 5.06 วันต่อคน ขณะที่ต่างชาติมาไทยปี 2553 อยู่ที่ 15.93 ล้านคน นำรายได้เข้าประเทศ 592,794 ล้านบาท พักเฉลี่ย 9.12 วันต่อคน
***ททท.เล็งเพิ่มเป้าวางแผนเพิ่มการใช้เงิน****
ทางด้าน นายสุรพล เศวตรเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า จากตัวเลขสถิติดังกล่าว มีความเป็นไปได้ ที่ ททท.จะพิจารณาปรับเป้าหมายนักท่องเที่ยวคนไทยเที่ยวในประเทศสำหรับปี 2554 จากปัจจุบันที่วางไว้ที่ 91 ล้านคนครั้ง รายได้ 4.32 แสนล้านบาท และปี 2555 อยู่ที่ 93 ล้านคนครั้ง รายได้ 4.53 แสนล้านบาท โดยใช้ฐานการคำนวนจากปี 2550 โดยการปรับใหม่ จะยังใช้อัตราการเติบโตที่ 3% จากฐานตัวเลขใหม่ของกรมการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ตามตัวเลขการรายงานของกรมการท่องเที่ยว ยังสะท้อนอีกว่า ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยในการเที่ยวแต่ละครั้งลดน้อยลง เพราะกรมฯรายงานว่า เงินสะพัดเฉพาะตลาดในประเทศปี 2553 อยู่ที่ 4.02 แสนล้านบาท แต่ ททท.คาดการณ์ที่ 4.3 แสนล้านบาท ซึ่งสูงกว่าและสวนทางกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น ททท.คง คิดวางแผนกระตุ้นความถี่ของการท่องเที่ยวอย่างเดียวคงไม่ได้ แต่จะต้องมุ่งให้นักท่องเที่ยวเพิ่มการใช้จ่ายต่อการเที่ยวหนึ่งครั้งด้วย
***การเมืองนิ่งคนไทยออกเที่ยว****
นายเจริญ วังอนานนท์ นายมสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว หรือ ทีทีเอเอ กล่าวว่า กรณีคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพราะเริ่มมีความมั่นใจต่อสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศ ประกอบกับ ความถี่ของการจัดงานส่งเสริมการขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว ซึ่งมีหลายหน่วยงานให้ความสนใจในการจัดงานอย่างต่อเนื่องตลอดปี กระตุ้นคนไทยเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดปีในทุกช่วงเทศกาล ล่าสุด สมาคมฯร่วมกับ บัตรเครดิตเคทีซี จัด เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก ครั้งที่ 9 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มาจัดงานในช่วงโลว์ซีซัน จากปกติจะจัดปีละ 1 ครั้งช่วงต้นปี โดยการขยายครั้งนี้เพราะเห็นช่องทางการขายแพกเกจสำหรับคนเที่ยวปิดเทอมเล็ก และช่วงฤดูหนาว เชื่อว่างานนี้ จะ คาดกระตุ้นยอดขายช่วงไฮซีซั่นสำหรับตลาดไทยได้ไม่ตำกว่า 40% โดยงานนี้ใช้งบจัด 30 ล้านบาท คาดว่าจะมีรายได้สะพัด 400 ล้านบาท
