ASTVผู้จัดการรายวัน - แบงก์ชาติห่วงส่งออกไทยอาจได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกและสหรัฐ เหตุไทยส่งออกไปยังสหรัฐคิดเป็น 11% ส่วนตอนนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบชัดเจน หนุนปรับตัวส่งออกไปยังประเทศเกิดใหม่ในเอเชียมากขึ้น
นายทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการ สำนักเศรษฐกิจมหภาค ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับสหรัฐและเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ แม้ยังไม่เห็นผลกระทบที่ชัดเจนต่อภาคการส่งออกไทย แต่เชื่อว่าในอนาคตจะมีผลต่อภาคการส่งออกไทยบ้าง ซึ่งปัจจุบันไทยมีการส่งออกไปยังสหรัฐคิดเป็นสัดส่วน 11%ของการส่งออกรวม สาเหตุสำคัญที่ผลกระทบยังไม่ปรากฎออกมาชัดเจน เนื่องจากไทยมีการกระจายตลาดการส่งออกไปยังประเทศเกิดใหม่ในเอเชียมากขึ้น อาทิ จีน ทำให้ขณะนี้อัตราการขยายตัวส่งออกโดยรวมของไทยยังคงดีอยู่
สำหรับการขยายเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐที่ผ่านไปด้วยดีมองว่าเป็นการช่วยผ่อนคลายความกังวลต่อตลาดการเงินระยะสั้นได้บ้าง เนื่องจากทุกฝ่ายต่างคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ แต่อาจจะช้าไปหน่อย แต่ปัญหาระยะยาวด้านโครงสร้างเดิมๆยังคงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอสังหาริมทรัพย์ ปัญหาแรงงานระดับล่าง ปัญหาการว่างงาน เป็นต้น
จึงต้องใช้เวลาในการแก้ไข ทำให้อาจจะต้องมีการตัดรายจ่ายบางรายการออกไปส่งผลให้ความสามารถในการใช้เงินและนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจน้อยลง อย่างไรก็ตามมองว่าสิ่งสำคัญในขณะนี้สหรัฐอาจต้องมีการเพิ่มผลิตภาพการผลิตด้านแรงงานและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของภาคเศรษฐกิจในแต่ด้านเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายงานแนวโน้มเงินเฟ้อฉบับล่าสุดเดือน ก.ค.ของปีนี้ ธปท.ได้ประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของปีนี้ไว้ โดยในส่วนของมูลค่าการส่งออกประเมินไว้ที่ระดับ 22.4% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ประเมินไว้ที่ระดับ 20.4%
นายทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการ สำนักเศรษฐกิจมหภาค ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับสหรัฐและเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ แม้ยังไม่เห็นผลกระทบที่ชัดเจนต่อภาคการส่งออกไทย แต่เชื่อว่าในอนาคตจะมีผลต่อภาคการส่งออกไทยบ้าง ซึ่งปัจจุบันไทยมีการส่งออกไปยังสหรัฐคิดเป็นสัดส่วน 11%ของการส่งออกรวม สาเหตุสำคัญที่ผลกระทบยังไม่ปรากฎออกมาชัดเจน เนื่องจากไทยมีการกระจายตลาดการส่งออกไปยังประเทศเกิดใหม่ในเอเชียมากขึ้น อาทิ จีน ทำให้ขณะนี้อัตราการขยายตัวส่งออกโดยรวมของไทยยังคงดีอยู่
สำหรับการขยายเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐที่ผ่านไปด้วยดีมองว่าเป็นการช่วยผ่อนคลายความกังวลต่อตลาดการเงินระยะสั้นได้บ้าง เนื่องจากทุกฝ่ายต่างคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ แต่อาจจะช้าไปหน่อย แต่ปัญหาระยะยาวด้านโครงสร้างเดิมๆยังคงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอสังหาริมทรัพย์ ปัญหาแรงงานระดับล่าง ปัญหาการว่างงาน เป็นต้น
จึงต้องใช้เวลาในการแก้ไข ทำให้อาจจะต้องมีการตัดรายจ่ายบางรายการออกไปส่งผลให้ความสามารถในการใช้เงินและนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจน้อยลง อย่างไรก็ตามมองว่าสิ่งสำคัญในขณะนี้สหรัฐอาจต้องมีการเพิ่มผลิตภาพการผลิตด้านแรงงานและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของภาคเศรษฐกิจในแต่ด้านเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายงานแนวโน้มเงินเฟ้อฉบับล่าสุดเดือน ก.ค.ของปีนี้ ธปท.ได้ประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของปีนี้ไว้ โดยในส่วนของมูลค่าการส่งออกประเมินไว้ที่ระดับ 22.4% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ประเมินไว้ที่ระดับ 20.4%