นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาทองคำในวันนี้ ว่า ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลกยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้น และวันนี้ขึ้นสูงจนน่ากลัว สังเกตได้จากราคาทองคำตลาดนิวยอร์กสหรัฐฯ ปิดเมื่อเช้ามืดวันนี้ เพิ่มขึ้น22.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ หรือคิดเป็น 1.41 เปอร์เซ็นต์ มาปิดที่ 1,644.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ และในระหว่างทางราคาทองก็มีความผันผวนตลอด บางช่วงปรับขึ้นสูงถึง 1,661 ดอลลาร์ และหลังจากปิดตลาดนิวยอร์กไป จากนั้นราคาทองในตลาดเอเชีย ก็ได้ปรับขึ้นสูงมาก ส่วนหนึ่งมาจากเกาหลีที่ซื้อทองเก็บกว่า 20 ตัน แต่ทั้งนี้คิดว่าราคาทองน่าจะยืนอยู่ที่ 1,650ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ หรืออาจเพิ่มจากนี้บ้างแต่ไม่มากนัก
นายจิตติ กล่าวอีกว่า หลายคนรวมถึงนักวิชาการ มองว่าหลังสหรัฐฯ ผ่านแผนขยายเพดานหนี้ไปแล้ว อาจทำให้ราคาทองลดลง แต่ส่วนตัวมองว่า เกิดจากพฤติกรรมของคนที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป คนเริ่มที่จะไม่มั่นใจในเงินดอลลาร์ หรือเริ่มที่จะมองเห็นว่าความน่าเชื่อถือในการเก็บทองดีกว่าดอลลาร์ ดูจากเหตุการณ์วันนี้ ราคาทองโลกพุ่งสูงอย่างไม่เคยมีมาก่อน และในบ้านเราวันนี้ก็ทำนิวไฮอีก โดยราคาทองรูปพรรณวันนี้ รับซื้อบาทละ 22,861.28 บาท ขายออกบาทละ 23,700 บาท เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 400 บาท ส่วนทองแท่งซื้อบาทละ 23,200 บาท ขายออกบาทละ 23,300 บาท
ส่วนของบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (3 ส.ค.) หลังเปิดตลาดเมื่อเวลา 09.57 น. ดัชนีลดลงกว่า 13.11 จุด อยู่ที่ 1,126.50 จุด ลดลง 1.15 % มูลค่าการซื้อขาย 2,329.90 ล้านบาท ตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก ที่ทรุดตัวลงจากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว อันเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ และปัญหาหนี้ยุโรป
นายจิตติ กล่าวอีกว่า หลายคนรวมถึงนักวิชาการ มองว่าหลังสหรัฐฯ ผ่านแผนขยายเพดานหนี้ไปแล้ว อาจทำให้ราคาทองลดลง แต่ส่วนตัวมองว่า เกิดจากพฤติกรรมของคนที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป คนเริ่มที่จะไม่มั่นใจในเงินดอลลาร์ หรือเริ่มที่จะมองเห็นว่าความน่าเชื่อถือในการเก็บทองดีกว่าดอลลาร์ ดูจากเหตุการณ์วันนี้ ราคาทองโลกพุ่งสูงอย่างไม่เคยมีมาก่อน และในบ้านเราวันนี้ก็ทำนิวไฮอีก โดยราคาทองรูปพรรณวันนี้ รับซื้อบาทละ 22,861.28 บาท ขายออกบาทละ 23,700 บาท เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 400 บาท ส่วนทองแท่งซื้อบาทละ 23,200 บาท ขายออกบาทละ 23,300 บาท
ส่วนของบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (3 ส.ค.) หลังเปิดตลาดเมื่อเวลา 09.57 น. ดัชนีลดลงกว่า 13.11 จุด อยู่ที่ 1,126.50 จุด ลดลง 1.15 % มูลค่าการซื้อขาย 2,329.90 ล้านบาท ตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก ที่ทรุดตัวลงจากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว อันเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ และปัญหาหนี้ยุโรป