xs
xsm
sm
md
lg

ขู่!ใครคิดฟ้องต้องรอบคอบ ปธ.กกต.ชี้ส่วนตัว“คุณตู่”พ้นสมาชิกภาพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ ( 3 ส.ค.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีกกต.มีมติให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ว่า ตนได้มีความเห็นไปแล้วว่ากรณีนายจตุพรไม่จำเป็นต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะเห็นว่าขาดจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองในวันเลือกตั้ง 3 ก.ค.แล้วที่นายจตุพรไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ดังนั้นกกต.ก็น่าจะมีอำนาจที่จะพิจารณาได้ แต่กกต.เสียงข้างมากมองประเด็นว่ากกต.ไม่มีอำนาจที่จะไม่รับรอง เพราะไม่ได้เป็นการทุจริต จึงให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนในเรื่องคุณสมบัติขึ้นมาตรวจสอบหลังประกาศรับรองแล้ว และหากคณะกรรมการฯสอบสวนเสร็จก็คงเสนอต่อที่ประชุมกกต. พิจารณาว่าจะต้องเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ซึ่งตนก็คงร่วมกับพิจารณากับกกต.คนอื่น ๆ ในฐานะของกรรมการ ไม่ใช่ในฐานะของนายทะเบียนพรรคการเมือง เพราะไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องยุบพรรค

**ขู่!ใครคิดฟ้องกกต.ต้องรอบคอบ
นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต.ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวภายหลังการประชุมกกต.ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงมติกกต.ในบางประเด็นที่สาธารณชนยังไม่เข้าใจ และก่อให้เกิดความสับสน โดยเฉพาะกรณีการรับรองผลของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โดยที่ประชุมกกต.เห็นควรให้สำนักประชาสัมพันธ์จัดทำเอกสารชี้แจงเรื่องดังกล่าว รวมถึงมติอื่นของกกต. ในอนาคตด้วยทั้งประเด็นกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และประเด็นที่กกต.พิจารณา ส่วนความคืบหน้าในการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสมาชิกภาพของนายจตุพร ก็ได้เร่งดำเนินการอย่างเร็วที่สุด แต่จะต้องเป็นไปด้วยความรอบคอบ
ทั้งนี้นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวถึงการที่จะมีคนมาฟ้องกกต. ว่าสามารถทำได้ แต่ควรพิจารณาให้รอบคอบเสียก่อนเพราะกกต.ก็มีสิทธิที่จะป้องกันตัวเองเช่นกัน ซึ่งไม่ใช่ว่ากกต.อยากจะมีเรื่องกับใคร สำหรับการพิจารณาเรื่องร้องคัดค้าน ส.ส.ที่กกต.ประกาศรับรองไปแล้วนั้น ทุกคำร้องจะกลับไปที่อนุกรรมการเพื่อจะมีการรวบรวมหลักฐานอีกครั้ง เพราะกกต.ยังมีเวลาอีก 1 ปี ซึ่งกกต.ก็จะเร่งพิจารณาเพื่อไม่ให้กล่าวหาว่ายื้อเวลา

** มาร์คสวน“คุณตู่”ไม่หวั่นแก้แค้น
เวลา 11.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลถึงกรณีนายจตุพร ระบุหลังได้รับปล่อยตัวชั่วคราวว่าให้นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เตรียมสู้คดีสลายการชุมนุม ว่า ทั้งหมดมีกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว และการค้นหาความจริงก็เป็นกลไกที่เจ้าหน้าที่ทำอยู่ ทุกอย่างว่าไปตามความเป็นจริง ซึ่งตนและนายสุเทพ ไม่ได้มีความกังวลใดๆจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่านายจตุพรกล่าวเชิงท้าทายว่าไม่ต้องถามว่าจะนิรโทษกรรมให้พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ แต่ให้นิรโทษกรรมให้นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพจะดีกว่า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอบอกว่าคดีนายจตุพรไปไกลกว่ามากแล้ว ยืนยัน 100 เปอร์เซ็นต์ว่าทุกอย่างที่ทำงานมาเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย ภาระหน้าที่ และผู้บริหารงานทั้งหลายได้ใช้ความระมัดระวังสูงสุดเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียขึ้น

**เชื่อทั้งกองทัพ-DSI ต้องไม่ลำบาก
ส่วนท่าทีอย่างนี้ จะไปสู่การแก้ไข ไม่แก้แค้นอย่างที่น.ส.ยิ่งลักษณ์พูดได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงจะไม่ใช่ ฉะนั้นพรรคเพื่อไทย และรัฐบาล คงต้องดูว่า ตกลงนโยบาย คืออะไร เมื่อถามว่า ข้าราชการที่ลำบากที่สุด จะเป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิศษ หรือ ดีเอสไอ และกองทัพหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะไม่มีใครลำบาก ถ้าทุกคนยึดความจริง เพราะอันนั้น จะเป็นตัวคุ้มครองปกป้องได้ดีที่สุด
กรณีที่พรรคเพื่อไทย เตรียมล้างบางข้าราชการจำนวนมาก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องมีเหตุผล ถ้าจะพยายามให้คนเปลี่ยนความจริง และบิดเบือนคงจะไมได้
กรณีอำนาจอยู่ในเมือเขาสามารถเปลี่ยนความจริงได้หรือไม่ นาอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ได้หรอก ความจริงคือความจริง อำนาจมาแล้วก็ไป ทั้งนี้ถ้าข้าราชการพร้อมที่จะสนองตามนโยบาย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ข้าราชการก็ต้องเตรียมตัว เมื่อถามว่าเกรงพรรคประชาธิปัตย์ จะถูกเช็คบิลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนทราบดีว่า ความจริงเป็นอย่างไร ความยุติธรรมจะต้องเป็นอย่างไร ฉะนั้นเราพร้อมที่จะรักษาสิทธิ์ของเราอยู่แล้ว และไม่ได้กังวลอะไร

**กกต.เตรียมเล่นงานหน.ปธม.แจ้งเท็จ
นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. กล่าวถึงกรณีกกต.ให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทำความเห็นกรณีนายสุรทิน พิจารณ์ ตกเป็นบุคคลล้มละลาย และเป็นผู้ขอจดแจ้งจัดตั้งพรรคประชาธิปไตยใหม่ (ปธม.)ต่อกกต.โดยไม่สุจริตปกปิดข้อเท็จจริงทั้งที่รู้ว่าไม่มีคุณสมบัติเป็นกรรมก่ารบริหารพรรคจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ ว่า กฎหมายห้ามมิให้บุคคลล้มละลายมาดำเนินก่อตั้งพรรคการเมือง แต่กรณีนายสุรทินได้ก่อตั้งพรรคในฐานะหัวหน้าพรรค เมื่อนายสุรทินเป็นบุคคลล้มละลายมาขอจดแจ้งจัดตั้งพรรคการเมืองกับกกต. ตนในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองก็อาจจำเป็นที่จะต้องดำเนินคดีกับนายสุรทิน เพราะการตรวจสอบการเป็นบุคคลล้มละลายนั้นไม่ยาก
ที่ประชุมกกต.ก็เคยมีการมองกันว่าพรรคประชาธิปไตยใหม่เป็นพรรคการเมืองที่ได้รับการจดแจ้งจัดตั้งพรรคและได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว ส่วนกรณีนางพัชรินทร์ มั่นปาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งนั้นอาจจะไม่ทราบถึงกรณีดังกล่าวว่านายสุรทินเป็นบุคคลล้มละลายเพราะนางพัชรินทร์ไม่ได้เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรค แต่ถ้านางพัชรินทร์อยู่ในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคด้วยก็อาจกระทบต่อการเป็นส.ส.ของนางพัชรินทร์ได้ ดังนั้นกรณีพรรคประชาธิปไตยใหม่น่าจะเป็นเรื่องเฉพาะตัวของนายสุรทินเพียงคนเดียว ไม่น่าจะกระทบต่อพรรคประชาธิปไตยใหม่ แต่กรณีดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบอยู่เพราะจะต้องดูว่าจะถึงกระทบถึงยุบพรรคหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น