ASTVผู้จัดการรายวัน-มติส.ส.เลือก"ขุนค้อน" เป็นปธ.สภาฯ "เจริญ-วิสุทธิ์" รองปธ.สภาฯ คนที่ 1 และ 2 ไร้คู่แข่ง เตรียมเลือกนายกฯ 4-5 ส.ค.นี้ เผยโฉมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ "ยิ่งลักษณ์ 1" "วิชิต"นั่งว่าการคลังชัวร์แล้ว "ธีระชัย"ผงาดรมช.คลัง "กิตติรัตน์"มาแรงคว้ารมว.พาณิชย์ "ยุทธศักดิ์"กลาโหม 100% ส่วนตำแหน่งอื่นรอ"แม้ว"เคาะ ป้องกันแรงกระเพื่อม ตท.10 โดดขวาง"ยุทธศักดิ์"ทันควัน
เมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ (2 ส.ค.) ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 24 ปีที่ 1 ครั้งที่ 1 สมัยสามัญทั่วไป มีสมาชิกมาเซ็นต์ชื่อเข้าประชุม 441 คน จากสมาชิกทั้งหมด 500 คน จึงถือว่ามีสมาชิกเกินกึ่งหนึ่ง สามารถเปิดประชุมสภาฯ ได้ โดยมีนายชัย ชิดชอบ ในฐานะที่มีอาวุโสสูงสุด และเป็นอดีตประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะหมดวาระ โดยการประชุมครั้งนี้จะเป็นการเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ อีก 2 คน
นายชัยกล่าวว่า ในนามของประธานชั่วคราว ขอยินดีต้อนรับส.ส.ทั้ง 2 ส่วน จากเขตเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อ ตนรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาทำหน้าที่ประธานชั่วคราวอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี พระราชธิดาเพียงพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวสิ้นพระชนม์ จึงขอเชิญท่านสมาชิกโปรดยืนแสดงความไว้อาลัย เป็นเวลา 1 นาที
จากนั้นได้มีการเข้าสู่ระเบียบวาระ ที่ประธานแจ้งต่อที่ประชุม คือ การปฏิญาณตนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 123 ที่กำหนดให้ ส.ส.ต้องปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ ต่อมาเข้าสู่วาระการ เลือกประธานสภาฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 124 วรรค 1 กำหนดให้มีประธานสภาฯ คนหนึ่ง และการเลือกประธานสภาฯ สมาชิกแต่ละคนมีสิทธิเสนอชื่อได้ 1 ชื่อ และต้องมีสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่า 20 คน กรณีที่เสนอเพียงชื่อเดียว ถือว่าผู้ถูกเสนอชื่อเป็นผู้ได้รับเลือกเป็นประธานสภาฯ กรณีที่มีการเสนอหลายชื่อ ให้ลงคะแนนเป็นการลับ และผู้ได้รับเลือกคะแนนสูงสุดจึงถือเป็นประธานสภาฯ
จากนั้น นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรชาติไทยพัฒนา ได้เสนอชื่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เป็นประธานสภาฯ โดยไม่มีใครเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานสภาฯ และขอให้สมาชิกปรบมือเป็นเกียรติ ที่ไม่มีคนแข่ง เราจึงถือว่าได้ประธานสภาฯ และประธานรัฐสภาแล้ว
จากนั้น เป็นการเลือกรองประธานสภาฯ โดย นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน เสนอชื่อ นายเจริญ จรรย์โกมล ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 โดยไม่มีการเสนอชื่อบุคคลอื่น และนายสรรศักดิ์ จรูญงามพิเชษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังชล เสนอชื่อนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 2 โดยไม่มีสมาชิกเสนอชื่อเข้าชิง
ดังนั้น จึงถือว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เป็นประธานสภาฯ โดยมีนายเจริญ จรรย์โกมล เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 และ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 2 จากนั้นนายชัย ได้สั่งปิดการประชุม ไปเมื่อเวลา 09.55 น.
หลังจากได้รายชื่อประธานและรองประธานสภาแล้ว ทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อให้รักษาการนายกรัฐมนตรี นำรายชื่อขึ้นกราบบังคมทูลฯ เพื่อทรงโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง โดยล่าสุดเวลา 15.30 น. สำนักประชาสัมพันธ์กลุ่มงานสื่อมวลชน สำนักงานเลขาธิการสภาฯแจ้งกับสื่อมวลชนว่า วันที่ 3 ส.ค. ในช่วงบ่าย จะมีการเตรียมสถานที่บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา 1 เพื่อทำพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภา และรองประธานสภาฯ ตามลำดับ
** "ชูวิทย์"ออกลายป่วนขอเลือกที่นั่งเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มการประชุมสภาฯ ได้มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นเล็กน้อย โดยระหว่างที่ ส.ส.เดินเข้ามายังห้องประชุม นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย ได้เดินไปย้ายป้ายของพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งอยู่ตรงด้านหน้า โซนพรรคร่วมรัฐบาล แล้วเอาป้ายของพรรครักประเทศไทย มาตั้งแทน ขณะที่เจ้าหน้าที่สภา พยายามชี้แจงว่า พรรคที่ได้จำนวนส.ส.มากกว่า และเป็นพรรครัฐบาล จะอยู่ด้านหน้าในโซนเดียวกัน แต่นายชูวิทย์ อ้างว่า ที่นั่ง ส.ส.ของพรรครักประเทศไทย ฮวงจุ้ยไม่ดี จึงขอย้ายมานั่งแทนพรรคชาติไทยพัฒนา แม้จะมีการทัดทานจากเจ้าหน้าที่ แต่นายชูวิทย์ ก็ไม่ยอม ทำให้แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ทั้งนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา แสดงความไม่พอใจ แต่ก็ยอมที่จะนั่งด้านหลังแทนเพื่อตัดปัญหา
**โหวตเลือกนายกฯ 4-5 ส.ค.
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ กล่าวถึงการได้รับเลือกเป็นประสภาฯ คนใหม่โดยไม่มีคู่แข่งว่า เป็นนิมิตหมายที่ดีที่แสดงถึงความปรองดอง แม้แต่ในพรรคเพื่อไทย บรรยากาศก็เป็นไปด้วยความปรองดอง ส่วนการกำหนดวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ขึ้นอยู่กับว่า จะทรงโปรดเกล้าฯตำแหน่งประธานสภาฯ ลงมาเมื่อใด แต่จากการประสานระหว่างสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และสำนักราชเลขาธิการ ทราบเป็นการภายในว่า อาจจะมีการโปรดเกล้าฯ ตำแหน่งประธานสภาฯ ลงมาในวันที่ 3 ส.ค.
ทั้งนี้ หากมีการโปรดเกล้าฯ ลงมาในช่วงเช้าวันที่ 3 ส.ค. ก็จะเรียกประชุม เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในเช้าวันที่ 4 ส.ค. แต่หากมีการโปรดเกล้าฯ ลงมาในช่วงบ่ายวันที่ 3 ส.ค. ก็จะเรียกประชุมเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในเช้าวันที่ 5 ส.ค.
ส่วนแนวทางการทำงานของตน และรองประธานสภาฯอีก 2 คนนั้น จะแจ้งให้ทราบภายหลังจากที่มีการโปรดเกล้าฯ ตำแหน่งประธานสภาฯ ลงมาแล้ว มั่นใจว่า จะคุมเกมการทำงานในสภาได้ ไม่มีปัญหา และไม่มีอะไรน่าห่วง ตั้งใจไว้ว่าจะแก้ปัญหาสภาล่มซ้ำซาก ซึ่งมีปัญหาสำคัญมาจากเรื่ององค์ประชุม ที่จะต้องมีการแก้ปัญหาอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องใช้ค้อนมาคอยควบคุมการประชุมสภาเหมือนในอดีตหรือไม่ นายสมศักดิ์ ตอบว่า คงไม่จำเป็นแล้ว
**เผยโฉมรมต.เศรษฐกิจ"ปู 1"
รายงานข่าวแจ้งว่า การจัดตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย (พท.) คืบหน้าไปกว่า 80% แล้ว โดยตำแหน่งสำคัญๆ พบว่า มีทั้งคนใน และคนนอก ซึ่งเป็นไปตามที่เคยมีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ โดยเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า บุคคลที่จะนั่งตำแหน่งรมว.คลัง ได้แก่ ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร (ซีอีโอ) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) คนปัจจุบัน และอาจได้รับการพิจารณาให้ควบรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับการหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้ดร.โอฬาร ไชยประวัติ ทีมเศรษฐกิจสำคัญอีกคนหนึ่งของพรรค
รายงานข่าวระบุว่า ผู้ที่ดึง ดร.วิชิต เข้ามาในครั้งนี้ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นอกจากความรู้ความสามารถ มีบารมีทางการเงินการธนาคารมายาวนาน และมีภาพลักษณ์ที่ดี ไม่มีกระแสต้านแล้ว ดร.วิชิต ยังสนิทสนมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ และผู้ที่ทั้ง 2 คน ให้ความไว้วางใจเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ดร.วิชิต เคยรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระหว่างปี 2537-2538 ในโควตาพรรคพลังธรรม หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลประชาธิปัตย์ ในสมัยรัฐบาลชวน 1 โควตาของพรรคพลังธรรม ก่อนจะพ้นจากตำแหน่ง เมื่อมีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่
ขณะที่นายบัณฑูร สุภัควณิช อดีตผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เป็นอีกผู้หนึ่งที่ถูกวางตัวให้อยู่ในกลุ่มรัฐมนตรีเศรษฐกิจ โควตาคนนอกแน่นอนแล้ว โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะวางตัวให้นั่งรมช.คลัง หรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยภารกิจหลักที่ทางพรรคต้องการให้นายบัณฑูร ดูแล คือ เรื่องงบประมาณโดยตรง ซึ่งที่ผ่านมานายบัณฑูรได้เข้าร่วมประชุม และทำงานกับทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยมาอย่างต่อเนื่อง ระยะหนึ่งแล้ว
ส่วนนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่กำลังจะครบวาระตำแหน่งในเร็วๆ นี้ และมีกระแสข่าวลือสะพัดมาเป็นระลอก ก็ถูกวางตัวเป็นรมช.คลัง เรียบร้อยแล้ว
สำหรับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) ก็ชัดเจนแล้วว่า จะเข้ารับตำแหน่งในรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน โดยแกนนำพรรคอยู่ระหว่างพิจารณาตำแหน่งรมว.พาณิชย์ให้ ส่วนนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็นคนใน ถูกวางตัวเป็นรมช.พาณิชย์
***"โอฬาร"ยังไม่ชัดนั่งเก้าอี้ไหน
ส่วน ดร.โอฬาร ไชยประวัติ ซึ่งเป็นแกนนำสำคัญในทีมเศรษฐกิจของพรรคในช่วงหาเสียงเลือกตั้งนั้น ยังไม่มีข้อสรุป โดยแหล่งข่าวใกล้ชิดนายโอฬาร เปิดเผยว่า ขณะนี้พรรคยังไม่ได้แจ้งว่า ดร.โอฬาร จะได้ไปนั่งกระทรวงใด โดยที่ผ่านมา ดร.โอฬาร ได้ทำงานในส่วนของนโยบายเศรษฐกิจ ภาพรวม และไม่เคยแสดงท่าทีว่าอยากเป็นรัฐมนตรีกระทรวงใด และก็ยังไม่ได้แจ้งขอสละสิทธิ์ตำแหน่งรัฐมนตรี
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงของพรรคเพื่อไทย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ในการหารือของแกนนำพรรค เบื้องต้นเห็นว่า ดร.โอฬาร น่าจะนั่งรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ดูแลในภาพรวม เพราะแนวคิดของนายโอฬาร บางประเด็นไม่เห็นด้วยกับนโยบายสำคัญด้านเศรษฐกิจของพรรค ที่ใช้ในการหาเสียง จึงอาจมีปัญหาในการทำงาน จึงมีแกนนำบางส่วนเห็นว่า ดร.โอฬาร ควรไปนั่งเก้าอี้ รมว.ศึกษาธิการ
ขณะเดียวกัน ก็มีอีกกระแสข่าวระบุว่า ดร.โอฬาร อาจปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งใน ครม.โดยอ้างว่ามีปัญหาด้านสุขภาพ และอาจจะยอมรับเพียงฐานะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เท่านั้น และขอทำงานอยู่เบื้องหลังมากกว่า
ส่วนทีมเศรษฐกิจที่เป็นคนในพรรคเพื่อไทยคนอื่นๆ อาทิ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรมช.คลัง จะมีตำแหน่งใน ครม.ชุดนี้อย่างแน่นอน โดยอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะให้ไปนั่งรองนายกรัฐมนตรี ดูแลเศรษฐกิจในระดับรากหญ้า หรือ นั่งรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเกรดบี
**"ยุทธศักดิ์"กลาโหม"วิชิต"คลังชัวร์
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ตำแหน่งที่ชัดเจนแล้ว "ยิ่งลักษณ์ 1" คือ นายวิชิต จะนั่ง รมว.คลัง ส่วน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา จะนั่ง รมว.กลาโหม 100% ส่วนตำแหน่งอื่นที่มีโผมีตำแหน่งอื่น บางกระทรวงมีชื่ออยู่ 3-5 ชื่อ รวมแล้วกว่า 60 คน แม้ ครม.จะมี่ทั้งหมด 35 ตำแหน่ง โดยรายชื่อ 35 ตำแหน่ง จะต้องรอ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินสัตว์ เคาะเป็นคนสุดท้าย เพื่อป้องกันแรงกระเพื่อมต่อรองจากกลุ่มต่างๆ ภายในพรรค
**รายชื่อ ครม. "ปู1" ที่เหลือ
สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงอื่นๆ นั้น คาดว่า พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะนั่งรองนายกฝ่ายความมั่นคง
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็น รมว.มหาดไทย
นายวิกรม คุ้มไพโรจน์ อดีตรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นั่งรมว.ต่างประเทศ
พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี เป็น รมว.คมนาคม
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เป็น รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา
นายธีระ วงศ์สมุทร ส.ส. พรรคชาติไทยพัฒนา เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์
นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เป็น รมว.พัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์
นางสุกุมล คุณปลื้ม ส.ส. พรรคพลังชล เป็น รมว.แรงงาน
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธาน และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด ( มหาชน ) เป็น รมว.พลังงาน รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน
พลตำรวจโทชัจจ์ กุลดิลก เป็น รมว.ยุติธรรม
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธาน ส.ส.ภาค กทม. พรรรคเพื่อไทย เป็น รมว.สาธารณสุข
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล เป็น รมว.ศึกษาธิการ
นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยเป็น รมว.ไอซีที
**"วิทยา"ประธานวิปรัฐบาล
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานในด้านการประชุมต่างๆ กับพรรคร่วมรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นเพื่อให้การประชุมมีศักยภาพ โดยมีนายวิทยา บูรณศิริ เป็นประธาน คณะกรรมการประสานงาน นายไพจิต ศรีวรขาน นายนพคุณ รัฐผไท และนายพีรพันธุ์ พาลุสุข เป็นรองประธาน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นกรรมการ และโฆษก และนายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ เป็นกรรมการและเลขานุการ
** ป้อง"วิสุทธิ์"ถูกโยงบึ้มแมนชั่น
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย ยืนยันถึงกรณีการคัดเลือก และเสนอชื่อนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 2 โดยพิจารณาจากคุณสมบัติ และความสามารถ และเป็นผู้มีประสบการณ์ในการเป็น ส.ส. มาแล้วหลายสมัย ส่วนที่นายวิสุทธิ์ ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้มีความเชื่อมโยงกับกรณีการระเบิด ที่สมานเมตตาแมนชั่น จ.นนทบุรีนั้น เห็นว่าเป็นรายละเอียดส่วนตัว ที่ถือเป็นเรื่องในอดีต ไม่ส่งผลกระทบต่อปัจจุบัน จึงไม่รู้สึกกังวลใจ
ส่วนการจัดตั้ง ครม.ยิ่งลักษณ์ 1 นั้น ยังไม่สามารถระบุได้ว่า แล้วเสร็จไปกี่เปอร์เซ็นต์ แม้จะมีบางส่วนที่อยู่ในใจแล้ว แต่ยังไม่นิ่ง และยืนยันว่าจะเปิดโอกาสให้คนนอกด้วย อย่างไรก็ตาม ความชัดเจนในการตั้งครม.ขณะนี้ ประเมินว่าได้ดำเนินการมาครึ่งทางแล้ว ส่วนจะมีบุคคลภายนอกเข้ามารับกี่ตำแหน่งนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ ขอให้ติดตามความชัดเจน ภายหลังที่ทุกอย่างเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการแล้ว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งครม. ในครั้งนี้อย่างแน่นอน โดยกระบวนการจะเหมือนกับการเลือกประธาน และรองประธานสภา ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายยงยุทธ ได้ร่วมกันคัดเลือกอย่างที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ปฏิเสธที่จะระบุว่า ส่วนตัวจะนั่งควบในหลายตำแหน่งหรือไม่
**"ขุนค้อน"ต้องทำหน้าที่เป็นกลาง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ได้มีการเลือก นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ ว่า สมาชิกทุกคนต้องการได้ประธานที่มีความเป็นกลาง แม่นในข้อบังคับ ควบคุมการประชุม ให้สมาชิกได้แสดงออกได้อย่างเต็มที่ แต่ว่าอยู่ในกรอบที่เหมาะสม เพราะว่าประชาชน จะจับตาดูการทำงานของสภาผู้แทนราษฎร ทุกนัดก็ถ่ายทอดผ่านทางวิทยุ บางนัดถ่ายทอดทางโทรทัศน์ เพราะฉะนั้น ก็สามารถที่จะทำให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของการเมืองในภาพรวม
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกฎหมายอะไรที่รัฐบาลค้างไว้ และอยากให้รัฐบาลชุดนี้มายืนยันเพื่อที่จะให้เป็นประโยชน์กับประชาชน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีเยอะเลย แต่ว่าเป็นดุลพินิจของรัฐบาลใหม่ ว่าสอดคล้องกับนโยบายของเขาหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับที่ทำกิน กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับภาษี รวมทั้งภาษีที่ดินด้วย กฏหมายที่จะปรับปรุงระบบสวัสดิการต่างๆ ก็อยากให้รัฐบาลชุดใหม่มาสานต่อ
** รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาปากท้อง
เมื่อถามว่า วันนี้อยากให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี จัดลำดับความสำคัญให้กับประเทศอย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ในเชิงนโยบายที่จะจัดลำดับความสำคัญ แต่ตนอยากจะย้ำว่ายังมีเรื่องเร่งด่วนในใจของประชาชน ซึ่งคงมองไม่ต่างกันในเรื่องของเศรษฐกิจ ซึ่ง 1.ต้องดูในแง่ของปัญหาปากท้อง ควบคู่กับการระมัดระวังเศรษฐกิจภาพรวม เนื่องจากมีวิกฤติที่ยุโรปกับสหรัฐฯ ที่ยังไม่เรียบร้อย 2.เรื่องของการเมืองที่จะต้องลดความขัดแย้ง และ3.เรื่องคดีกัมพูชา
** “ปู่ชัย”หวังเสื้อแดงใช้สภาแก้ปัญหา
นายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงประธานสภาคนใหม่ว่า จะต้องวางตัวเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ว่าจะอยู่พรรคใดก็ตาม จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งฝ่ายค้าน และรัฐบาล ทั้งนี้ ตนไม่เป็นห่วงเรื่ององค์ประชุมที่ไม่ครบ เพราะรัฐบาลชุดนี้มีจำนวนเสียงเกินจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ตนยังคาดหวังงานด้านนิติบัญญัติ จะทำหน้าที่ได้มากกว่ายุคก่อนๆ เพราะขณะนี้มี ร่าง พ.ร.บที่สำคัญที่ค้างอยู่หลายฉบับ อาทิ ร่าง พ.ร.บ ที่ทำกิน และพ.ร.บ.การยาง ส่วนประธานสภาผู้แทนคนใหม่นั้น ตนไม่บังอาจไปแนะนำท่าน เพราะท่านทราบบทบาทการทำงานดีอยู่แล้ว
"ไม่กังวลที่กลุ่มคนเสื้อแดงหลายคน เข้ามาเป็นส.ส.ในสภา หลังจากนี้ไปนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และพวก จะได้แสดงบทบาทในสภาฯ หากมีปัญหาคับข้องใจเรื่องอะไร ให้มาแก้ไขกันที่สภาผู้แทนราษฎร"
** "เหลิม"เชื่อปชป.เป็นฝ่ายค้านได้ดี
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่ชำนาญทางด้านการเมือง งานสภาแม่นยำ และถนัดในบทฝ่ายค้าน อีกทั้งฝ่ายค้านในสมัยนี้ ก็ไม่ใช่มีแต่พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังมีพรรคภูมิใจไทย พรรครักษ์สันติ พรรครักประเทศไทย ร่วมเป็นฝ่ายค้าน ถือว่าสภามีสีสัน ในเมื่อรัฐบาลทำงานดี ฝ่ายค้านตรวจสอบเก่ง เชื่อว่าประชาชน และประเทศชาติจะได้ประโยชน์
เมื่อถามถึงกรณีจัดโผครม.ว่ามีการติดต่อจากทางพรรคเพื่อไทยให้ ร.ต.อ.เฉลิม ดำรงตำแหน่งใด ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ขณะนี้ในพรรคยังไม่ใครทราบว่าบุคคลใดจะดำรงตำแหน่งใด คงต้องรอให้มีการโปรดเกล้าฯนายกรัฐมนตรีก่อนถึงจะมาพูดในเรื่องนี้
เมื่อถามต่อว่า หากพรรคให้ดำรงแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง จะพร้อมที่รับตำแหน่งหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า สมัยนี้ตนยังไม่พร้อม เพราะไม่ทราบว่าจะได้ดำรงตำแหน่งใด หรือไม่ อาจจะเป็น ส.ส.ธรรมดาก็ได้ ไม่เป็นไร
** "บิ๊กบัง"หนุน"บิ๊กอ๊อด"คุมกลาโหม
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ กล่าวถึงคุณสมบัติตำแหน่ง รมว.กลาโหมคนใหม่ ว่า จะต้องเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ สร้างความสามัคคีระหว่างกองทัพกับประชาชนได้ ซึ่งชื่อของพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยนั้น ก็ถือว่ามีความเหมาะสม เพราะพล.อ.ยุทธศักดิ์ เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีอัธยาศัยที่ดี น่าจะช่วยสร้างความปรองดองและประสานรอยร้าวระหว่างกองทัพ กับประชาชนให้เกิดขึ้นได้
ส่วนการทำหน้าที่ฝ่ายค้านของพรรคมาตุภูมิว่า จะไม่มีการเข้าข้างฝ่ายใด หากรัฐบาลมีข้อเสนอที่ดี ก็พร้อมที่จะเห็นด้วย แต่หากมีความผิดปกติ ก็จะต้องดำเนินการตรวจสอบ
**ตท.10 ขวาง"ยุทธศักดิ์-ประวิตร"
พล.อ.อำนวย ถิระชุณหะ ที่ปรึกษาพิเศษพรรคเพื่อไทย และเตรียมทหารรุ่น 10 กล่าวถึง กรณีปรากฏชื่อ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานโอลิมปิก และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เป็นแคนดิเดต รมว.กลาโหม ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1 ว่า ตท.10 หลายคนที่มาทำงานให้กับพรรคเพื่อไทย ไม่เห็นด้วย เพราะอยากให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย มีหน้าตาออกมาดูดีที่สุด เนื่องจากพล.อ.ประวิตร ถือเป็นรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลที่สั่งฆ่าประชาชน ซึ่งหากได้รับเลือกให้มาเป็น รมว.กลาโหมอีกครั้ง อาจทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงเกิดความไม่พอใจ และอาจแปรพักต์จากพรรคได้ ขณะที่พล.อ.ยุทธศักดิ์ ไม่มีความสามารถในด้านความมั่นคง วิสัยทัศน์ไม่ดีพอ และไม่เคยช่วยเหลืองานในพรรค หากเปรียบเทียบกับนายทหาร ตท.10 หลายคนที่เข้ามาทำงานให้พรรคเพื่อไทย ตั้งแต่เกิดวิกฤติ ทั้งการหาข่าว การติดตามสถานการณ์ด้วยการตั้งศูนย์กรกฎ ทำให้ทราบความคิด และความเคลื่อนไหวของประชาชนที่มีต่อพรรค ซึ่งตนไม่ได้พูดเพราะเรียกร้องตำแหน่งให้กับกลุ่ม ตท.10 แต่อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ
อย่างไรก็ตาม หากพรรคเพื่อไทยยังดึงดันที่จะแต่งตั้งบุคคลดังกล่าว แล้วมีกลุ่มคนออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน ตนก็พร้อมจะออกมาต่อต้านด้วยเช่นกัน และเชื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้นสิ่งที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำมัชฌิมาฯ ออกมาระบุว่ารัฐบาลชุดนี้จะอยู่ได้ไม่นาน ก็ไม่น่าจะไกลเกินจริง
เมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ (2 ส.ค.) ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 24 ปีที่ 1 ครั้งที่ 1 สมัยสามัญทั่วไป มีสมาชิกมาเซ็นต์ชื่อเข้าประชุม 441 คน จากสมาชิกทั้งหมด 500 คน จึงถือว่ามีสมาชิกเกินกึ่งหนึ่ง สามารถเปิดประชุมสภาฯ ได้ โดยมีนายชัย ชิดชอบ ในฐานะที่มีอาวุโสสูงสุด และเป็นอดีตประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะหมดวาระ โดยการประชุมครั้งนี้จะเป็นการเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ อีก 2 คน
นายชัยกล่าวว่า ในนามของประธานชั่วคราว ขอยินดีต้อนรับส.ส.ทั้ง 2 ส่วน จากเขตเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อ ตนรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาทำหน้าที่ประธานชั่วคราวอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี พระราชธิดาเพียงพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวสิ้นพระชนม์ จึงขอเชิญท่านสมาชิกโปรดยืนแสดงความไว้อาลัย เป็นเวลา 1 นาที
จากนั้นได้มีการเข้าสู่ระเบียบวาระ ที่ประธานแจ้งต่อที่ประชุม คือ การปฏิญาณตนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 123 ที่กำหนดให้ ส.ส.ต้องปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ ต่อมาเข้าสู่วาระการ เลือกประธานสภาฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 124 วรรค 1 กำหนดให้มีประธานสภาฯ คนหนึ่ง และการเลือกประธานสภาฯ สมาชิกแต่ละคนมีสิทธิเสนอชื่อได้ 1 ชื่อ และต้องมีสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่า 20 คน กรณีที่เสนอเพียงชื่อเดียว ถือว่าผู้ถูกเสนอชื่อเป็นผู้ได้รับเลือกเป็นประธานสภาฯ กรณีที่มีการเสนอหลายชื่อ ให้ลงคะแนนเป็นการลับ และผู้ได้รับเลือกคะแนนสูงสุดจึงถือเป็นประธานสภาฯ
จากนั้น นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรชาติไทยพัฒนา ได้เสนอชื่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เป็นประธานสภาฯ โดยไม่มีใครเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานสภาฯ และขอให้สมาชิกปรบมือเป็นเกียรติ ที่ไม่มีคนแข่ง เราจึงถือว่าได้ประธานสภาฯ และประธานรัฐสภาแล้ว
จากนั้น เป็นการเลือกรองประธานสภาฯ โดย นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน เสนอชื่อ นายเจริญ จรรย์โกมล ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 โดยไม่มีการเสนอชื่อบุคคลอื่น และนายสรรศักดิ์ จรูญงามพิเชษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังชล เสนอชื่อนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 2 โดยไม่มีสมาชิกเสนอชื่อเข้าชิง
ดังนั้น จึงถือว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เป็นประธานสภาฯ โดยมีนายเจริญ จรรย์โกมล เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 และ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 2 จากนั้นนายชัย ได้สั่งปิดการประชุม ไปเมื่อเวลา 09.55 น.
หลังจากได้รายชื่อประธานและรองประธานสภาแล้ว ทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อให้รักษาการนายกรัฐมนตรี นำรายชื่อขึ้นกราบบังคมทูลฯ เพื่อทรงโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง โดยล่าสุดเวลา 15.30 น. สำนักประชาสัมพันธ์กลุ่มงานสื่อมวลชน สำนักงานเลขาธิการสภาฯแจ้งกับสื่อมวลชนว่า วันที่ 3 ส.ค. ในช่วงบ่าย จะมีการเตรียมสถานที่บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา 1 เพื่อทำพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภา และรองประธานสภาฯ ตามลำดับ
** "ชูวิทย์"ออกลายป่วนขอเลือกที่นั่งเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มการประชุมสภาฯ ได้มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นเล็กน้อย โดยระหว่างที่ ส.ส.เดินเข้ามายังห้องประชุม นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย ได้เดินไปย้ายป้ายของพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งอยู่ตรงด้านหน้า โซนพรรคร่วมรัฐบาล แล้วเอาป้ายของพรรครักประเทศไทย มาตั้งแทน ขณะที่เจ้าหน้าที่สภา พยายามชี้แจงว่า พรรคที่ได้จำนวนส.ส.มากกว่า และเป็นพรรครัฐบาล จะอยู่ด้านหน้าในโซนเดียวกัน แต่นายชูวิทย์ อ้างว่า ที่นั่ง ส.ส.ของพรรครักประเทศไทย ฮวงจุ้ยไม่ดี จึงขอย้ายมานั่งแทนพรรคชาติไทยพัฒนา แม้จะมีการทัดทานจากเจ้าหน้าที่ แต่นายชูวิทย์ ก็ไม่ยอม ทำให้แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ทั้งนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา แสดงความไม่พอใจ แต่ก็ยอมที่จะนั่งด้านหลังแทนเพื่อตัดปัญหา
**โหวตเลือกนายกฯ 4-5 ส.ค.
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ กล่าวถึงการได้รับเลือกเป็นประสภาฯ คนใหม่โดยไม่มีคู่แข่งว่า เป็นนิมิตหมายที่ดีที่แสดงถึงความปรองดอง แม้แต่ในพรรคเพื่อไทย บรรยากาศก็เป็นไปด้วยความปรองดอง ส่วนการกำหนดวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ขึ้นอยู่กับว่า จะทรงโปรดเกล้าฯตำแหน่งประธานสภาฯ ลงมาเมื่อใด แต่จากการประสานระหว่างสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และสำนักราชเลขาธิการ ทราบเป็นการภายในว่า อาจจะมีการโปรดเกล้าฯ ตำแหน่งประธานสภาฯ ลงมาในวันที่ 3 ส.ค.
ทั้งนี้ หากมีการโปรดเกล้าฯ ลงมาในช่วงเช้าวันที่ 3 ส.ค. ก็จะเรียกประชุม เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในเช้าวันที่ 4 ส.ค. แต่หากมีการโปรดเกล้าฯ ลงมาในช่วงบ่ายวันที่ 3 ส.ค. ก็จะเรียกประชุมเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในเช้าวันที่ 5 ส.ค.
ส่วนแนวทางการทำงานของตน และรองประธานสภาฯอีก 2 คนนั้น จะแจ้งให้ทราบภายหลังจากที่มีการโปรดเกล้าฯ ตำแหน่งประธานสภาฯ ลงมาแล้ว มั่นใจว่า จะคุมเกมการทำงานในสภาได้ ไม่มีปัญหา และไม่มีอะไรน่าห่วง ตั้งใจไว้ว่าจะแก้ปัญหาสภาล่มซ้ำซาก ซึ่งมีปัญหาสำคัญมาจากเรื่ององค์ประชุม ที่จะต้องมีการแก้ปัญหาอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องใช้ค้อนมาคอยควบคุมการประชุมสภาเหมือนในอดีตหรือไม่ นายสมศักดิ์ ตอบว่า คงไม่จำเป็นแล้ว
**เผยโฉมรมต.เศรษฐกิจ"ปู 1"
รายงานข่าวแจ้งว่า การจัดตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย (พท.) คืบหน้าไปกว่า 80% แล้ว โดยตำแหน่งสำคัญๆ พบว่า มีทั้งคนใน และคนนอก ซึ่งเป็นไปตามที่เคยมีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ โดยเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า บุคคลที่จะนั่งตำแหน่งรมว.คลัง ได้แก่ ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร (ซีอีโอ) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) คนปัจจุบัน และอาจได้รับการพิจารณาให้ควบรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับการหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้ดร.โอฬาร ไชยประวัติ ทีมเศรษฐกิจสำคัญอีกคนหนึ่งของพรรค
รายงานข่าวระบุว่า ผู้ที่ดึง ดร.วิชิต เข้ามาในครั้งนี้ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นอกจากความรู้ความสามารถ มีบารมีทางการเงินการธนาคารมายาวนาน และมีภาพลักษณ์ที่ดี ไม่มีกระแสต้านแล้ว ดร.วิชิต ยังสนิทสนมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ และผู้ที่ทั้ง 2 คน ให้ความไว้วางใจเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ดร.วิชิต เคยรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระหว่างปี 2537-2538 ในโควตาพรรคพลังธรรม หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลประชาธิปัตย์ ในสมัยรัฐบาลชวน 1 โควตาของพรรคพลังธรรม ก่อนจะพ้นจากตำแหน่ง เมื่อมีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่
ขณะที่นายบัณฑูร สุภัควณิช อดีตผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เป็นอีกผู้หนึ่งที่ถูกวางตัวให้อยู่ในกลุ่มรัฐมนตรีเศรษฐกิจ โควตาคนนอกแน่นอนแล้ว โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะวางตัวให้นั่งรมช.คลัง หรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยภารกิจหลักที่ทางพรรคต้องการให้นายบัณฑูร ดูแล คือ เรื่องงบประมาณโดยตรง ซึ่งที่ผ่านมานายบัณฑูรได้เข้าร่วมประชุม และทำงานกับทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยมาอย่างต่อเนื่อง ระยะหนึ่งแล้ว
ส่วนนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่กำลังจะครบวาระตำแหน่งในเร็วๆ นี้ และมีกระแสข่าวลือสะพัดมาเป็นระลอก ก็ถูกวางตัวเป็นรมช.คลัง เรียบร้อยแล้ว
สำหรับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) ก็ชัดเจนแล้วว่า จะเข้ารับตำแหน่งในรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน โดยแกนนำพรรคอยู่ระหว่างพิจารณาตำแหน่งรมว.พาณิชย์ให้ ส่วนนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็นคนใน ถูกวางตัวเป็นรมช.พาณิชย์
***"โอฬาร"ยังไม่ชัดนั่งเก้าอี้ไหน
ส่วน ดร.โอฬาร ไชยประวัติ ซึ่งเป็นแกนนำสำคัญในทีมเศรษฐกิจของพรรคในช่วงหาเสียงเลือกตั้งนั้น ยังไม่มีข้อสรุป โดยแหล่งข่าวใกล้ชิดนายโอฬาร เปิดเผยว่า ขณะนี้พรรคยังไม่ได้แจ้งว่า ดร.โอฬาร จะได้ไปนั่งกระทรวงใด โดยที่ผ่านมา ดร.โอฬาร ได้ทำงานในส่วนของนโยบายเศรษฐกิจ ภาพรวม และไม่เคยแสดงท่าทีว่าอยากเป็นรัฐมนตรีกระทรวงใด และก็ยังไม่ได้แจ้งขอสละสิทธิ์ตำแหน่งรัฐมนตรี
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงของพรรคเพื่อไทย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ในการหารือของแกนนำพรรค เบื้องต้นเห็นว่า ดร.โอฬาร น่าจะนั่งรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ดูแลในภาพรวม เพราะแนวคิดของนายโอฬาร บางประเด็นไม่เห็นด้วยกับนโยบายสำคัญด้านเศรษฐกิจของพรรค ที่ใช้ในการหาเสียง จึงอาจมีปัญหาในการทำงาน จึงมีแกนนำบางส่วนเห็นว่า ดร.โอฬาร ควรไปนั่งเก้าอี้ รมว.ศึกษาธิการ
ขณะเดียวกัน ก็มีอีกกระแสข่าวระบุว่า ดร.โอฬาร อาจปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งใน ครม.โดยอ้างว่ามีปัญหาด้านสุขภาพ และอาจจะยอมรับเพียงฐานะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เท่านั้น และขอทำงานอยู่เบื้องหลังมากกว่า
ส่วนทีมเศรษฐกิจที่เป็นคนในพรรคเพื่อไทยคนอื่นๆ อาทิ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรมช.คลัง จะมีตำแหน่งใน ครม.ชุดนี้อย่างแน่นอน โดยอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะให้ไปนั่งรองนายกรัฐมนตรี ดูแลเศรษฐกิจในระดับรากหญ้า หรือ นั่งรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเกรดบี
**"ยุทธศักดิ์"กลาโหม"วิชิต"คลังชัวร์
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ตำแหน่งที่ชัดเจนแล้ว "ยิ่งลักษณ์ 1" คือ นายวิชิต จะนั่ง รมว.คลัง ส่วน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา จะนั่ง รมว.กลาโหม 100% ส่วนตำแหน่งอื่นที่มีโผมีตำแหน่งอื่น บางกระทรวงมีชื่ออยู่ 3-5 ชื่อ รวมแล้วกว่า 60 คน แม้ ครม.จะมี่ทั้งหมด 35 ตำแหน่ง โดยรายชื่อ 35 ตำแหน่ง จะต้องรอ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินสัตว์ เคาะเป็นคนสุดท้าย เพื่อป้องกันแรงกระเพื่อมต่อรองจากกลุ่มต่างๆ ภายในพรรค
**รายชื่อ ครม. "ปู1" ที่เหลือ
สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงอื่นๆ นั้น คาดว่า พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะนั่งรองนายกฝ่ายความมั่นคง
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็น รมว.มหาดไทย
นายวิกรม คุ้มไพโรจน์ อดีตรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นั่งรมว.ต่างประเทศ
พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี เป็น รมว.คมนาคม
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เป็น รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา
นายธีระ วงศ์สมุทร ส.ส. พรรคชาติไทยพัฒนา เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์
นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เป็น รมว.พัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์
นางสุกุมล คุณปลื้ม ส.ส. พรรคพลังชล เป็น รมว.แรงงาน
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธาน และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด ( มหาชน ) เป็น รมว.พลังงาน รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน
พลตำรวจโทชัจจ์ กุลดิลก เป็น รมว.ยุติธรรม
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธาน ส.ส.ภาค กทม. พรรรคเพื่อไทย เป็น รมว.สาธารณสุข
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล เป็น รมว.ศึกษาธิการ
นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยเป็น รมว.ไอซีที
**"วิทยา"ประธานวิปรัฐบาล
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานในด้านการประชุมต่างๆ กับพรรคร่วมรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นเพื่อให้การประชุมมีศักยภาพ โดยมีนายวิทยา บูรณศิริ เป็นประธาน คณะกรรมการประสานงาน นายไพจิต ศรีวรขาน นายนพคุณ รัฐผไท และนายพีรพันธุ์ พาลุสุข เป็นรองประธาน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นกรรมการ และโฆษก และนายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ เป็นกรรมการและเลขานุการ
** ป้อง"วิสุทธิ์"ถูกโยงบึ้มแมนชั่น
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย ยืนยันถึงกรณีการคัดเลือก และเสนอชื่อนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 2 โดยพิจารณาจากคุณสมบัติ และความสามารถ และเป็นผู้มีประสบการณ์ในการเป็น ส.ส. มาแล้วหลายสมัย ส่วนที่นายวิสุทธิ์ ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้มีความเชื่อมโยงกับกรณีการระเบิด ที่สมานเมตตาแมนชั่น จ.นนทบุรีนั้น เห็นว่าเป็นรายละเอียดส่วนตัว ที่ถือเป็นเรื่องในอดีต ไม่ส่งผลกระทบต่อปัจจุบัน จึงไม่รู้สึกกังวลใจ
ส่วนการจัดตั้ง ครม.ยิ่งลักษณ์ 1 นั้น ยังไม่สามารถระบุได้ว่า แล้วเสร็จไปกี่เปอร์เซ็นต์ แม้จะมีบางส่วนที่อยู่ในใจแล้ว แต่ยังไม่นิ่ง และยืนยันว่าจะเปิดโอกาสให้คนนอกด้วย อย่างไรก็ตาม ความชัดเจนในการตั้งครม.ขณะนี้ ประเมินว่าได้ดำเนินการมาครึ่งทางแล้ว ส่วนจะมีบุคคลภายนอกเข้ามารับกี่ตำแหน่งนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ ขอให้ติดตามความชัดเจน ภายหลังที่ทุกอย่างเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการแล้ว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งครม. ในครั้งนี้อย่างแน่นอน โดยกระบวนการจะเหมือนกับการเลือกประธาน และรองประธานสภา ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายยงยุทธ ได้ร่วมกันคัดเลือกอย่างที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ปฏิเสธที่จะระบุว่า ส่วนตัวจะนั่งควบในหลายตำแหน่งหรือไม่
**"ขุนค้อน"ต้องทำหน้าที่เป็นกลาง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ได้มีการเลือก นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ ว่า สมาชิกทุกคนต้องการได้ประธานที่มีความเป็นกลาง แม่นในข้อบังคับ ควบคุมการประชุม ให้สมาชิกได้แสดงออกได้อย่างเต็มที่ แต่ว่าอยู่ในกรอบที่เหมาะสม เพราะว่าประชาชน จะจับตาดูการทำงานของสภาผู้แทนราษฎร ทุกนัดก็ถ่ายทอดผ่านทางวิทยุ บางนัดถ่ายทอดทางโทรทัศน์ เพราะฉะนั้น ก็สามารถที่จะทำให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของการเมืองในภาพรวม
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกฎหมายอะไรที่รัฐบาลค้างไว้ และอยากให้รัฐบาลชุดนี้มายืนยันเพื่อที่จะให้เป็นประโยชน์กับประชาชน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีเยอะเลย แต่ว่าเป็นดุลพินิจของรัฐบาลใหม่ ว่าสอดคล้องกับนโยบายของเขาหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับที่ทำกิน กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับภาษี รวมทั้งภาษีที่ดินด้วย กฏหมายที่จะปรับปรุงระบบสวัสดิการต่างๆ ก็อยากให้รัฐบาลชุดใหม่มาสานต่อ
** รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาปากท้อง
เมื่อถามว่า วันนี้อยากให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี จัดลำดับความสำคัญให้กับประเทศอย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ในเชิงนโยบายที่จะจัดลำดับความสำคัญ แต่ตนอยากจะย้ำว่ายังมีเรื่องเร่งด่วนในใจของประชาชน ซึ่งคงมองไม่ต่างกันในเรื่องของเศรษฐกิจ ซึ่ง 1.ต้องดูในแง่ของปัญหาปากท้อง ควบคู่กับการระมัดระวังเศรษฐกิจภาพรวม เนื่องจากมีวิกฤติที่ยุโรปกับสหรัฐฯ ที่ยังไม่เรียบร้อย 2.เรื่องของการเมืองที่จะต้องลดความขัดแย้ง และ3.เรื่องคดีกัมพูชา
** “ปู่ชัย”หวังเสื้อแดงใช้สภาแก้ปัญหา
นายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงประธานสภาคนใหม่ว่า จะต้องวางตัวเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ว่าจะอยู่พรรคใดก็ตาม จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งฝ่ายค้าน และรัฐบาล ทั้งนี้ ตนไม่เป็นห่วงเรื่ององค์ประชุมที่ไม่ครบ เพราะรัฐบาลชุดนี้มีจำนวนเสียงเกินจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ตนยังคาดหวังงานด้านนิติบัญญัติ จะทำหน้าที่ได้มากกว่ายุคก่อนๆ เพราะขณะนี้มี ร่าง พ.ร.บที่สำคัญที่ค้างอยู่หลายฉบับ อาทิ ร่าง พ.ร.บ ที่ทำกิน และพ.ร.บ.การยาง ส่วนประธานสภาผู้แทนคนใหม่นั้น ตนไม่บังอาจไปแนะนำท่าน เพราะท่านทราบบทบาทการทำงานดีอยู่แล้ว
"ไม่กังวลที่กลุ่มคนเสื้อแดงหลายคน เข้ามาเป็นส.ส.ในสภา หลังจากนี้ไปนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และพวก จะได้แสดงบทบาทในสภาฯ หากมีปัญหาคับข้องใจเรื่องอะไร ให้มาแก้ไขกันที่สภาผู้แทนราษฎร"
** "เหลิม"เชื่อปชป.เป็นฝ่ายค้านได้ดี
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่ชำนาญทางด้านการเมือง งานสภาแม่นยำ และถนัดในบทฝ่ายค้าน อีกทั้งฝ่ายค้านในสมัยนี้ ก็ไม่ใช่มีแต่พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังมีพรรคภูมิใจไทย พรรครักษ์สันติ พรรครักประเทศไทย ร่วมเป็นฝ่ายค้าน ถือว่าสภามีสีสัน ในเมื่อรัฐบาลทำงานดี ฝ่ายค้านตรวจสอบเก่ง เชื่อว่าประชาชน และประเทศชาติจะได้ประโยชน์
เมื่อถามถึงกรณีจัดโผครม.ว่ามีการติดต่อจากทางพรรคเพื่อไทยให้ ร.ต.อ.เฉลิม ดำรงตำแหน่งใด ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ขณะนี้ในพรรคยังไม่ใครทราบว่าบุคคลใดจะดำรงตำแหน่งใด คงต้องรอให้มีการโปรดเกล้าฯนายกรัฐมนตรีก่อนถึงจะมาพูดในเรื่องนี้
เมื่อถามต่อว่า หากพรรคให้ดำรงแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง จะพร้อมที่รับตำแหน่งหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า สมัยนี้ตนยังไม่พร้อม เพราะไม่ทราบว่าจะได้ดำรงตำแหน่งใด หรือไม่ อาจจะเป็น ส.ส.ธรรมดาก็ได้ ไม่เป็นไร
** "บิ๊กบัง"หนุน"บิ๊กอ๊อด"คุมกลาโหม
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ กล่าวถึงคุณสมบัติตำแหน่ง รมว.กลาโหมคนใหม่ ว่า จะต้องเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ สร้างความสามัคคีระหว่างกองทัพกับประชาชนได้ ซึ่งชื่อของพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยนั้น ก็ถือว่ามีความเหมาะสม เพราะพล.อ.ยุทธศักดิ์ เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีอัธยาศัยที่ดี น่าจะช่วยสร้างความปรองดองและประสานรอยร้าวระหว่างกองทัพ กับประชาชนให้เกิดขึ้นได้
ส่วนการทำหน้าที่ฝ่ายค้านของพรรคมาตุภูมิว่า จะไม่มีการเข้าข้างฝ่ายใด หากรัฐบาลมีข้อเสนอที่ดี ก็พร้อมที่จะเห็นด้วย แต่หากมีความผิดปกติ ก็จะต้องดำเนินการตรวจสอบ
**ตท.10 ขวาง"ยุทธศักดิ์-ประวิตร"
พล.อ.อำนวย ถิระชุณหะ ที่ปรึกษาพิเศษพรรคเพื่อไทย และเตรียมทหารรุ่น 10 กล่าวถึง กรณีปรากฏชื่อ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานโอลิมปิก และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เป็นแคนดิเดต รมว.กลาโหม ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1 ว่า ตท.10 หลายคนที่มาทำงานให้กับพรรคเพื่อไทย ไม่เห็นด้วย เพราะอยากให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย มีหน้าตาออกมาดูดีที่สุด เนื่องจากพล.อ.ประวิตร ถือเป็นรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลที่สั่งฆ่าประชาชน ซึ่งหากได้รับเลือกให้มาเป็น รมว.กลาโหมอีกครั้ง อาจทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงเกิดความไม่พอใจ และอาจแปรพักต์จากพรรคได้ ขณะที่พล.อ.ยุทธศักดิ์ ไม่มีความสามารถในด้านความมั่นคง วิสัยทัศน์ไม่ดีพอ และไม่เคยช่วยเหลืองานในพรรค หากเปรียบเทียบกับนายทหาร ตท.10 หลายคนที่เข้ามาทำงานให้พรรคเพื่อไทย ตั้งแต่เกิดวิกฤติ ทั้งการหาข่าว การติดตามสถานการณ์ด้วยการตั้งศูนย์กรกฎ ทำให้ทราบความคิด และความเคลื่อนไหวของประชาชนที่มีต่อพรรค ซึ่งตนไม่ได้พูดเพราะเรียกร้องตำแหน่งให้กับกลุ่ม ตท.10 แต่อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ
อย่างไรก็ตาม หากพรรคเพื่อไทยยังดึงดันที่จะแต่งตั้งบุคคลดังกล่าว แล้วมีกลุ่มคนออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน ตนก็พร้อมจะออกมาต่อต้านด้วยเช่นกัน และเชื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้นสิ่งที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำมัชฌิมาฯ ออกมาระบุว่ารัฐบาลชุดนี้จะอยู่ได้ไม่นาน ก็ไม่น่าจะไกลเกินจริง