"มีเดีย" จีนรุกคืบเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทย ปักหลักร่วมจอยท์เวนเจอร์ดิสทริบิวเตอร์ เตรียมขยายพอร์ตโฟลิโอจากแอร์ สู่ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น ลั่นปีนี้ยอดขายรวม 500 ล้านบาท ดันแอร์ทะลุ 30,000 ยูนิต
นายสมชาย พิศิษฐ์จริง ประธาน บริษัท มีเดีย อีเล็คทริค เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ "มีเดีย" จากจีน เปิดเผยว่า บริษัท มีเดีย อีเล็คทริค จากจีน ตัดสินใจเข้ามาถือหุ้นในบริษัท จำนวน 49% จากทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท ขณะที่ฝ่ายไทยลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 51% จากเดิม 100%
เนื่องจากมีเดียประเทศจีนมองเห็นศักยภาพและการทำตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทย หลังจากที่บริษัทฯทำตลาดเครื่องปรับอากาศมีเดียในไทยมาประมาณ 4 ปี ได้รับความสำเร็จมียอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งไทยเป็นประเทศล่าสุดที่มีเดียเข้าร่วมถือหุ้นด้วย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เข้าลงทุนไปเล้วที่มีเดียประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ขณะที่ในตลาดกัมพูชาและเวียดนาม ยังไม่ได้ร่วมลงทุน
อย่างไรก็ตามโอกาสที่มีเดียจากจีนจะลงทุนตั้งโรงงานผลิตในไทยคงน้อยแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาเพิ่งลงทุนสร้างฐานผลิตใหม่ที่เวียดนาม ซึ่งเป็นแห่งที่ 3 จากทั้งหมดที่มี 3 ที่คือที่ จีน อียิปต์ และเวียดนาม ซึ่งแอร์ที่จำหน่ายในไทย ผลิตจากโรงงานที่กวางเจา 70% แล้วนำมาผลิตต่อที่เวียดนามอีก 30% ก่อนส่งเข้ามาขายในไทย
นอกจากแอร์ที่ทำตลาดอยู่แล้ว ปีหน้ามีแผนขยายตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหญ่เช่น เครื่องซักผ้า ตู้เย็น ตู้แช่ เป็นต้น คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเริ่มนำสินค้าเข้ามาทดลองตลาดได้ ส่วนสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ขายในจัดจำหน่ายโดยอีกบริษัทคือ เอ็มดีเอ เทรด จำกัด แยกออกจากกัน ไม่เกี่ยวกันเช่น หม้อหุงข้าว เครื่องทำน้ำร้อนน้ำเย็น หม้อตุ๋น เตาแม่เหล็ก กาน้ำ เป็นต้น
สำหรับแผนทำตลาดแอร์ ปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายรวมไว้ที่ 400-500 ล้านบาท หรือประมาณ 30,000 ยูนิต เพิ่มจากปีที่แล้วที่ทำได้ประมาณ 20,000 ยูนิตหรือมียอดขายรวม 300 ล้านบาท จะใช้งบตลาดปีนี้ 30 ล้านบาเพิ่มจากปีที่แล้วใช้ 20 ล้านบาท ผ่านดีลเลอร์วกว่า 200 รายและขายเข้าโครงการ
นายสมชาย ยอมรับว่า ครึ่งปีแรก ยอดขายยังต่ำเป้าอยู่ 30% ขณะที่ตลาดแอร์รวมนั้นตกลงประมาณ 50% เนื่องมาจากสาเหตุหลักในครึ่งปีแรกคือ สภาพอากาศที่แปรปรวนและยังมีฝนตกในช่วงไตรมาสแรก สภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่กระตื้อง รวมทั้งปัญหาขาดควมเชื่อมั่นของผู้บริโภคด้วย แต่ครึ่งปีหลังนี้ตลาดกลับมาดีขึ้นแล้ว และมั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะทำยอดขายได้ตามเป้าหมาย
ล่าสุดเปิดตัวสินค้าใหม่ 2 รุ่นคือ คาสเซ็ทไทป์ ที่มี 8 ทิศทางลมแอร์ จากทั่วไปที่มี 4 ช่องทาง และ ซีลลิ่งไทป์ ที่มีจุดเด่นเรื่องประหยัดไฟ ติดตั้งง่าย ราคาตั้งแต่ 18,000 - 60,000 บาท ต่อยูนิตไม่รวมค่าติดตั้ง หรือเฉลี่ยราคา 1 บาทต่อบีทียู ใช้งบตลาด 10 ล้านบาท ทำครบวงจร ทั้งบีโลว์เดอะไลน์ อะโบฟเดอะไลน์ มั่นใจยอดขายเฉพาะสินค้ารุ่นใหม่ปีน้ประมาณ 50 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 100 ล้านบาท
"ราคาของมีเดียจากจีนถูกกว่าแบรนด์ญีปุ่น 30% เมื่อก่อนนี้แอร์แบบคาสเซ็ทไม่ค่อยนิยมเพราะท้องตลาดขายแพง เราใช้ราคาเฉลี่ยแล้ว 1 บาท - 1.25 บาทต่อบีทียู จากอดีตที่สูงถึง 4 บาทต่อบีทียู และก็จะใช้โมเดลราคาต่ำกว่า 30% ของแบรนด์ญี่ปุ่นในการรุกตลาดสินค้ากลุ่มใหม่ " นายสมชายกล่าว
นายสมชาย พิศิษฐ์จริง ประธาน บริษัท มีเดีย อีเล็คทริค เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ "มีเดีย" จากจีน เปิดเผยว่า บริษัท มีเดีย อีเล็คทริค จากจีน ตัดสินใจเข้ามาถือหุ้นในบริษัท จำนวน 49% จากทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท ขณะที่ฝ่ายไทยลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 51% จากเดิม 100%
เนื่องจากมีเดียประเทศจีนมองเห็นศักยภาพและการทำตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทย หลังจากที่บริษัทฯทำตลาดเครื่องปรับอากาศมีเดียในไทยมาประมาณ 4 ปี ได้รับความสำเร็จมียอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งไทยเป็นประเทศล่าสุดที่มีเดียเข้าร่วมถือหุ้นด้วย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เข้าลงทุนไปเล้วที่มีเดียประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ขณะที่ในตลาดกัมพูชาและเวียดนาม ยังไม่ได้ร่วมลงทุน
อย่างไรก็ตามโอกาสที่มีเดียจากจีนจะลงทุนตั้งโรงงานผลิตในไทยคงน้อยแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาเพิ่งลงทุนสร้างฐานผลิตใหม่ที่เวียดนาม ซึ่งเป็นแห่งที่ 3 จากทั้งหมดที่มี 3 ที่คือที่ จีน อียิปต์ และเวียดนาม ซึ่งแอร์ที่จำหน่ายในไทย ผลิตจากโรงงานที่กวางเจา 70% แล้วนำมาผลิตต่อที่เวียดนามอีก 30% ก่อนส่งเข้ามาขายในไทย
นอกจากแอร์ที่ทำตลาดอยู่แล้ว ปีหน้ามีแผนขยายตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหญ่เช่น เครื่องซักผ้า ตู้เย็น ตู้แช่ เป็นต้น คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเริ่มนำสินค้าเข้ามาทดลองตลาดได้ ส่วนสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ขายในจัดจำหน่ายโดยอีกบริษัทคือ เอ็มดีเอ เทรด จำกัด แยกออกจากกัน ไม่เกี่ยวกันเช่น หม้อหุงข้าว เครื่องทำน้ำร้อนน้ำเย็น หม้อตุ๋น เตาแม่เหล็ก กาน้ำ เป็นต้น
สำหรับแผนทำตลาดแอร์ ปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายรวมไว้ที่ 400-500 ล้านบาท หรือประมาณ 30,000 ยูนิต เพิ่มจากปีที่แล้วที่ทำได้ประมาณ 20,000 ยูนิตหรือมียอดขายรวม 300 ล้านบาท จะใช้งบตลาดปีนี้ 30 ล้านบาเพิ่มจากปีที่แล้วใช้ 20 ล้านบาท ผ่านดีลเลอร์วกว่า 200 รายและขายเข้าโครงการ
นายสมชาย ยอมรับว่า ครึ่งปีแรก ยอดขายยังต่ำเป้าอยู่ 30% ขณะที่ตลาดแอร์รวมนั้นตกลงประมาณ 50% เนื่องมาจากสาเหตุหลักในครึ่งปีแรกคือ สภาพอากาศที่แปรปรวนและยังมีฝนตกในช่วงไตรมาสแรก สภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่กระตื้อง รวมทั้งปัญหาขาดควมเชื่อมั่นของผู้บริโภคด้วย แต่ครึ่งปีหลังนี้ตลาดกลับมาดีขึ้นแล้ว และมั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะทำยอดขายได้ตามเป้าหมาย
ล่าสุดเปิดตัวสินค้าใหม่ 2 รุ่นคือ คาสเซ็ทไทป์ ที่มี 8 ทิศทางลมแอร์ จากทั่วไปที่มี 4 ช่องทาง และ ซีลลิ่งไทป์ ที่มีจุดเด่นเรื่องประหยัดไฟ ติดตั้งง่าย ราคาตั้งแต่ 18,000 - 60,000 บาท ต่อยูนิตไม่รวมค่าติดตั้ง หรือเฉลี่ยราคา 1 บาทต่อบีทียู ใช้งบตลาด 10 ล้านบาท ทำครบวงจร ทั้งบีโลว์เดอะไลน์ อะโบฟเดอะไลน์ มั่นใจยอดขายเฉพาะสินค้ารุ่นใหม่ปีน้ประมาณ 50 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 100 ล้านบาท
"ราคาของมีเดียจากจีนถูกกว่าแบรนด์ญีปุ่น 30% เมื่อก่อนนี้แอร์แบบคาสเซ็ทไม่ค่อยนิยมเพราะท้องตลาดขายแพง เราใช้ราคาเฉลี่ยแล้ว 1 บาท - 1.25 บาทต่อบีทียู จากอดีตที่สูงถึง 4 บาทต่อบีทียู และก็จะใช้โมเดลราคาต่ำกว่า 30% ของแบรนด์ญี่ปุ่นในการรุกตลาดสินค้ากลุ่มใหม่ " นายสมชายกล่าว