นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือ ตลท. เปิดเผยว่า ตลท. ได้ปรับปรุงกระบวนการหลังการซื้อขายใบแสดงสิทธิประโยชน์ในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย หรือ NVDR (Non-voting depository receipts) เพื่อลดข้อจำกัดและอุปสรรคในกระบวนการหลังการซื้อขาย NVDR และลดต้นทุนในการดำเนินงานของผู้ลงทุนต่างชาติและบริษัทสมาชิก ทั้งบริษัทหลักทรัพย์ และธนาคารพาณิชย์ผู้ดูแลทรัพย์สิน (คัสโตเดียน) โดยขยายเวลาให้ทำรายการแก้ไขการซื้อขายระหว่างหุ้นและ NVDR หลังจากที่สมาชิกได้รับการส่งมอบหลักทรัพย์แล้วย้อนหลังได้ 3 เดือน จากเดิมที่ต้องแก้ไขภายใน 3 วันทำการหลังการซื้อขาย รวมทั้งยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับกรณีแก้ไขรายการซื้อขายระหว่างหุ้นและ NVDR จากเดิมที่เคยคิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 0.01 % ของมูลค่าหลักทรัพย์ที่ทำรายการ โดยมีขั้นต่ำไม่น้อยกว่ารายการละ 500 บาท ทั้งสองมาตรการจะมีผลตั้งแต่ 1 สิงหาคม 54 เป็นต้นไป
"การปรับปรุงกระบวนการหลังการซื้อขาย NVDR รวมทั้งการยกเว้นค่าธรรมเนียมนี้ จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการดำเนินงานหลังบ้านรวมทั้งช่วยลดต้นทุนแก่ผู้ลงทุนต่างชาติ และบริษัทสมาชิก โดยการปรับปรุงกระบวนการหลังการซื้อขาย NVDR นี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงเฉพาะกระบวนการหลังการส่งคำสั่งซื้อขาย NVDR ระหว่างบริษัทสมาชิกกับตลาดหลักทรัพย์ฯ เท่านั้น ผู้ลงทุนยังคงส่งคำสั่งผ่านบริษัทหลักทรัพย์และแจ้งความประสงค์ให้ซื้อขาย NVDR เช่นเดิม " นายจรัมพรกล่าว
ทั้งนี้ NVDR เป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนต่างประเทศที่สนใจลงทุนในบริษัทจดทะเบียนไทย แต่อาจลงทุนโดยตรงไม่ได้เนื่องจากติดข้อจำกัดการควบคุมสัดส่วนการถือครองหลักทรัพย์ของคนต่างด้าวที่ระบุไว้ตามกฎหมายไทย โดยผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเงิน
"การปรับปรุงกระบวนการหลังการซื้อขาย NVDR รวมทั้งการยกเว้นค่าธรรมเนียมนี้ จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการดำเนินงานหลังบ้านรวมทั้งช่วยลดต้นทุนแก่ผู้ลงทุนต่างชาติ และบริษัทสมาชิก โดยการปรับปรุงกระบวนการหลังการซื้อขาย NVDR นี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงเฉพาะกระบวนการหลังการส่งคำสั่งซื้อขาย NVDR ระหว่างบริษัทสมาชิกกับตลาดหลักทรัพย์ฯ เท่านั้น ผู้ลงทุนยังคงส่งคำสั่งผ่านบริษัทหลักทรัพย์และแจ้งความประสงค์ให้ซื้อขาย NVDR เช่นเดิม " นายจรัมพรกล่าว
ทั้งนี้ NVDR เป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนต่างประเทศที่สนใจลงทุนในบริษัทจดทะเบียนไทย แต่อาจลงทุนโดยตรงไม่ได้เนื่องจากติดข้อจำกัดการควบคุมสัดส่วนการถือครองหลักทรัพย์ของคนต่างด้าวที่ระบุไว้ตามกฎหมายไทย โดยผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเงิน
