กรมการท่องเที่ยวเดินหน้ามอบมาตรฐานโฮมสเตย์ บูมเศรษฐกิจชุมชน ปีหน้าตั้งเป้า 70 แห่ง ขณะที่ชุมชนปลื้ม รัฐหนุนโฮมสเตย์สร้างรายได้ต่อครัวเรือนโต5-7เท่าตัว ด้านปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวคุยปั้นมาตรฐานดันไทยสู่เวิลด์คลาสเดสติเนชั่น
นายสุพล ศรีพันธ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กรมฯ ได้มอบมาตรฐานโฮมสเตย์ ให้แก่ชุมชนในแต่ละจังหวัด ที่เสนอขอ โดยตั้งเป้าหมายในปีงบประมาณ 2555 จะมอบตราสัญลักษณ์มาตรฐานโฮมสเตย์ ให้แก่ชุมชนอีกราว 70 แห่ง ขณะที่ในปี 2554 กำหนดเป้าหมายมอบมาตรฐานโฮมสเตย์ให้แก่ชุมชนไว้ที่ 50 แห่ง จากผู้สมัครเข้ามาปีนี้ 71 แห่ง ใน 37
จังหวัด ทั่วประเทศ ล่าสุด ผ่านการคัดเลือกรอบแรกไปแล้ว 59 แห่ง รอคัดกรองรอบที่สอง ก่อนจะประกาศผลพร้อมมอบตราสัญลักษณ์ในเดือนสิงหาคม 54 โดยการพักโฮมสเตย์ นักท่องเที่ยวจะมีกิจกรรมเรียรู้วิถีชีวิตชุมชน บ้างก็มีกิจกรรมเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ สอดคล้องกับเทรนการท่องเที่ยวแนวใหม่และคนรุ่นใหม่
ทั้งนี้ เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวของประเทศไทยขึ้นสู่ระดับสากล จึงต้องสร้างมาตรฐานให้แก่สินค้าทางการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งกรมฯต้องเร่งผลักดันให้เกิดขึ้น ปัจจุบันกรมฯจัดทำตรามาตรฐานแล้ว 3 เครื่องหมาย ประกอบด้วย เครื่องหมายรูปช้างชูงวงเริงร่าประกอบลายประจำยามสำหรับมอบให้แก่ สินค้าประเภท แหล่งท่องเที่ยวและบริการ , เครื่องหมายโฮมสเตย์ เป็นรูปหลังคาบ้านหน้าจั่วทรงไทย มอบให้แก่ ชุมชน ที่เปิดบ้านเป็นที่พักแบบโฮมสเตย์ และ เครื่องหมายอาหารฮาลาลเพื่อการท่องเที่ยว โดยทั้ง 3 เครื่องหมายดังกล่าว จะทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเลือกใช้บริการสินค้าทางการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน ทั้งด้านบริการ ความสะอาด ความปลอดภัย
และความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน
****ปลื้มโฮมสเตย์สร้างรายได้ครัวเรือนโต 5 เท่าตัว***
นางสุรัตนา ภูมิมาโนช ประธานการท่องเที่ยว บ้านน้ำเชี่ยว จังหวัดตราด กล่าวว่า ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว ได้รับตรามาตรฐานโฮมสเตย์ จากกรมการท่องเที่ยวมาตั้งแต่ปี 2553 ปัจจุบัน มีบ้านในชุมชน ที่เปิดเป็นโฮมสเตย์ รวม 10 หลัง จากเดิมมีเพียง 6 หลัง สามารถสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชนได้เพิ่มจากเดิมอีกกว่าเท่าตัว จากเดิมจะมีรายได้ 1 พันบาทต่อครัวเรือนต่อเดือนเพิ่มเป็น 5-7 พันบาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน เพราะรายได้จากค่าที่พัก รายได้จากการขายของที่ระลึก รายได้จากการเป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่น
สำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยมมาใช้บริการโฮมสเตย์ ปัจจุบัน 95% เป็นคนไทย ทั้งกลุ่มนักเรียนนักศึกษา วัยทำงาน บ้างครั้งก็มีกรุ๊ปสัมมนา ส่วนอีก 5% เป็นต่างชาติ
**หนุนมาตรฐานดันไทยเวิลด์คลาสเดสติเนชั่น****
นายสมบัติ คุรุพันธ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า นโยบายกระทรวงฯ มุ่งภาพลักษณ์ของการมาเที่ยวเมืองไทยว่า “ไทยแลนด์ แดนสวรรค์” โดยสร้างแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยให้มีระบบการบริหารจัดการอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน( เวิลด์ คลาส เดสติเนชั่น) โดยเน้นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมุ่งเน้นสร้างภาพลักษณ์ให้กับนักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจในเรื่องมาตรฐานด้านความปลอดภัย คุณภาพด้านบริการเทียบเท่าระดับสากล ภาระกิจด้านพัฒนาและจัดทำมาตรฐาน การพัฒนาผู้ประกอบการและผู้ให้บริการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสาขาต่างๆ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายทุกหน่วยงาน เพื่อผลักดันท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน
*** ททท.สบช่องใช้แกงมัสมั่นโปรโมทท่องเที่ยว***
นางจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.จะใช้กระแสข่าวแกงมัสมั่นของประเทศไทย ได้รับเลือกเป็นเมนูยอดฮิตอันดับ 1 ของคนทั่วโลก และเป็นราชาของอาหาร มาเป็นส่วนหนึ่งของการประชาสมัพันธ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยตามงานเทรดโชว์ในต่างประเทศ
ส่วนกรณีที่กรุงเทพฯได้รับการจัดอันดับเป็นเมืองน่าท่องเที่ยวอันดับ 1 ติดกันเป็นปีที่ 3 จากนิตยสารเทรเวล แอนด์ เลชเชอร์นั้น ททท. คงจะใช้กรุงเทพฯ โปรโมทให้คนต่างชาติที่ไม่เคยมาไทย อยากมาเที่ยวไทยมากขึ้น โดยล่าสุด เพิ่งจับมือกับมาสเตอร์การ์ด จัดทำแคมเปญพิเศษ สต็อป โอเวอร์ บางกอก ร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยวในออสเตรเลีย จัดแพ็กเกจให้คนออสเตรเลีย
นิวซีแลนด์ ที่จะไปเที่ยวอังกฤษ หรือคนอังกฤษ ที่จะมาเที่ยวออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ แวะผ่านมาเที่ยวกรุงเทพฯ ก่อน ระหว่างต่อเครื่อง
นายสุพล ศรีพันธ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กรมฯ ได้มอบมาตรฐานโฮมสเตย์ ให้แก่ชุมชนในแต่ละจังหวัด ที่เสนอขอ โดยตั้งเป้าหมายในปีงบประมาณ 2555 จะมอบตราสัญลักษณ์มาตรฐานโฮมสเตย์ ให้แก่ชุมชนอีกราว 70 แห่ง ขณะที่ในปี 2554 กำหนดเป้าหมายมอบมาตรฐานโฮมสเตย์ให้แก่ชุมชนไว้ที่ 50 แห่ง จากผู้สมัครเข้ามาปีนี้ 71 แห่ง ใน 37
จังหวัด ทั่วประเทศ ล่าสุด ผ่านการคัดเลือกรอบแรกไปแล้ว 59 แห่ง รอคัดกรองรอบที่สอง ก่อนจะประกาศผลพร้อมมอบตราสัญลักษณ์ในเดือนสิงหาคม 54 โดยการพักโฮมสเตย์ นักท่องเที่ยวจะมีกิจกรรมเรียรู้วิถีชีวิตชุมชน บ้างก็มีกิจกรรมเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ สอดคล้องกับเทรนการท่องเที่ยวแนวใหม่และคนรุ่นใหม่
ทั้งนี้ เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวของประเทศไทยขึ้นสู่ระดับสากล จึงต้องสร้างมาตรฐานให้แก่สินค้าทางการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งกรมฯต้องเร่งผลักดันให้เกิดขึ้น ปัจจุบันกรมฯจัดทำตรามาตรฐานแล้ว 3 เครื่องหมาย ประกอบด้วย เครื่องหมายรูปช้างชูงวงเริงร่าประกอบลายประจำยามสำหรับมอบให้แก่ สินค้าประเภท แหล่งท่องเที่ยวและบริการ , เครื่องหมายโฮมสเตย์ เป็นรูปหลังคาบ้านหน้าจั่วทรงไทย มอบให้แก่ ชุมชน ที่เปิดบ้านเป็นที่พักแบบโฮมสเตย์ และ เครื่องหมายอาหารฮาลาลเพื่อการท่องเที่ยว โดยทั้ง 3 เครื่องหมายดังกล่าว จะทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเลือกใช้บริการสินค้าทางการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน ทั้งด้านบริการ ความสะอาด ความปลอดภัย
และความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน
****ปลื้มโฮมสเตย์สร้างรายได้ครัวเรือนโต 5 เท่าตัว***
นางสุรัตนา ภูมิมาโนช ประธานการท่องเที่ยว บ้านน้ำเชี่ยว จังหวัดตราด กล่าวว่า ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว ได้รับตรามาตรฐานโฮมสเตย์ จากกรมการท่องเที่ยวมาตั้งแต่ปี 2553 ปัจจุบัน มีบ้านในชุมชน ที่เปิดเป็นโฮมสเตย์ รวม 10 หลัง จากเดิมมีเพียง 6 หลัง สามารถสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชนได้เพิ่มจากเดิมอีกกว่าเท่าตัว จากเดิมจะมีรายได้ 1 พันบาทต่อครัวเรือนต่อเดือนเพิ่มเป็น 5-7 พันบาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน เพราะรายได้จากค่าที่พัก รายได้จากการขายของที่ระลึก รายได้จากการเป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่น
สำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยมมาใช้บริการโฮมสเตย์ ปัจจุบัน 95% เป็นคนไทย ทั้งกลุ่มนักเรียนนักศึกษา วัยทำงาน บ้างครั้งก็มีกรุ๊ปสัมมนา ส่วนอีก 5% เป็นต่างชาติ
**หนุนมาตรฐานดันไทยเวิลด์คลาสเดสติเนชั่น****
นายสมบัติ คุรุพันธ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า นโยบายกระทรวงฯ มุ่งภาพลักษณ์ของการมาเที่ยวเมืองไทยว่า “ไทยแลนด์ แดนสวรรค์” โดยสร้างแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยให้มีระบบการบริหารจัดการอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน( เวิลด์ คลาส เดสติเนชั่น) โดยเน้นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมุ่งเน้นสร้างภาพลักษณ์ให้กับนักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจในเรื่องมาตรฐานด้านความปลอดภัย คุณภาพด้านบริการเทียบเท่าระดับสากล ภาระกิจด้านพัฒนาและจัดทำมาตรฐาน การพัฒนาผู้ประกอบการและผู้ให้บริการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสาขาต่างๆ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายทุกหน่วยงาน เพื่อผลักดันท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน
*** ททท.สบช่องใช้แกงมัสมั่นโปรโมทท่องเที่ยว***
นางจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.จะใช้กระแสข่าวแกงมัสมั่นของประเทศไทย ได้รับเลือกเป็นเมนูยอดฮิตอันดับ 1 ของคนทั่วโลก และเป็นราชาของอาหาร มาเป็นส่วนหนึ่งของการประชาสมัพันธ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยตามงานเทรดโชว์ในต่างประเทศ
ส่วนกรณีที่กรุงเทพฯได้รับการจัดอันดับเป็นเมืองน่าท่องเที่ยวอันดับ 1 ติดกันเป็นปีที่ 3 จากนิตยสารเทรเวล แอนด์ เลชเชอร์นั้น ททท. คงจะใช้กรุงเทพฯ โปรโมทให้คนต่างชาติที่ไม่เคยมาไทย อยากมาเที่ยวไทยมากขึ้น โดยล่าสุด เพิ่งจับมือกับมาสเตอร์การ์ด จัดทำแคมเปญพิเศษ สต็อป โอเวอร์ บางกอก ร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยวในออสเตรเลีย จัดแพ็กเกจให้คนออสเตรเลีย
นิวซีแลนด์ ที่จะไปเที่ยวอังกฤษ หรือคนอังกฤษ ที่จะมาเที่ยวออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ แวะผ่านมาเที่ยวกรุงเทพฯ ก่อน ระหว่างต่อเครื่อง