ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - กลายเป็นโศกนาฏกรรมซ้อนโศกนาฏกรรมที่สร้างความเศร้าสลดให้กับผู้คนทั้งประเทศ เมื่อเกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ UH-1H หรือ “ฮิวอี้” ของพล ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ค่ายทัพพระยาเสือ ชนหน้าผาสูงในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ขณะที่ขนเสบียงส่งทหารที่เข้าไปผลักดันชนกลุ่มน้อยในเขตพื้นที่บริเวณบ้านโป่งลึก-บางกลอย จนเป็นเหตุให้นายทหารเสียชีวิต 5 นาย
เพราะในขณะที่เฮลิคอปเตอร์รุ่น “แบล็กฮอว์ก” นำโดย “พล.ต.ตะวัน เรืองศรี” ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ออกปฏิบัติการบินเข้าไปกู้ศพทหารที่เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ลำแรก (ฮิวอี้) ตก ก็ประสบอุบัติเหตุตกและสูญหายไปในพื้นที่ป่าบริเวณชายแดนไทย-พม่า โดยมีรายงานว่า จุดที่เฮลิคอปเตอร์ตกอยู่ในฝั่งประเทศพม่า ห่างจากจุดเดิมที่เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกราว 2 กม. ทั้งนี้ เครื่องบินลำดังกล่าวขาดการติดต่อ หลังขึ้นบินไปเพียงไม่กี่นาที
กลายเป็นโศกนาฏกรรมซ้อนโศกนาฏกรรมที่ช็อกความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศ
ทั้งนี้ ปมเหตุของโศกนาฎกรรมครั้งนี้ เริ่มมาจากการสนธิกำลังของทหารหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ กองกำลังทหารพรานกองร้อยที่ 947 กองกำลังตำรวจตระเวนชายแดนกองร้อย ตชด.144 กองร้อยเคลื่อนที่เร็ว และเจ้าหน้าที่จากอุทยานแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี รวม 5ฝ่าย เพื่อเข้าปฏิบัติการภารกิจจับกุมผู้บุกรุก และลักลอบทำลายทรัพยากรธรรมชาติในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยทางทหารได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ รุน ฮ.ท.1 รุน UH 1H หรือฮิวอี้ เข้าไปช่วยเหลือชุดปฏิบัติการที่ยังหลงเหลืออยู่
ทว่าต่อมาการติดต่อของเฮลิคอปเตอร์ก็ได้ขาดหายไป จนมาได้รับรายงานว่าเฮลิคอปเตอร์ตก ที่บริเวณสันปันน้ำเทือกเขาตระนาวศรี บ้านห้วยแม่เหล็ก ต้นแม่น้ำเพชร อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ห่างแนวตะเข็บชายแดนไทย-พม่า 500 เมตร เครื่องอยู่ในสภาพแหลกละเอียด พบศพนายทหารทั้งหมดในสภาพไหม้เกรียม ทราบชื่อต่อมา ประกอบด้วย 1.พ.ต.กิติศักดิ์ จีนเอี่ยม นักบินที่ 1 2.ร.ท.ปรัชญา นวลศรี นักบินที่ 2 3.จ.ส.อ.รังสรรค์ พลสายบัว ช่างเครื่อง 4.จ.ส.อ.ณรงค์เดช พงษ์นุ่มกูล ช่างเครื่อง 5.พ.ต.กิติภูมิ เอกพันธ์ นายทหารยุทธการหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าเกิดเหตุเครื่องบินแบล็กฮอว์กตก ได้มีความพยายามที่จะเก็บกู้ศพ 5 กำลังพลของทหารทัพพระยาเสือที่ประสบอุบัติเหตุชนภูเขาระเบิดที่ ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยเมื่อเวลา 09.00 น.ของวันที่ 19 ก.ค.พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ห้องประชุมค่ายฝึกรบพิเศษที่ 1 แก่งกระจาน สรุปแผนปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยใช้ 3 แผนปฏิบัติการ โดยแผนการแรกเมื่อภูมิอากาศเปิด ท้องฟ้าโปร่งใสไม่มีเมฆหมอกจะใช้ “ฮ.แบล็กฮอว์ก” ยกตัวด้วยความสูงระดับ 4,500 เมตร บินเหนือเมฆตรงไปยังลานจอด ฮ.ชั่วคราวจุดต้นแม่น้ำเพชร ซึ่งเป็นจุดรวบรวมศพผู้เสียชีวิตและจะนำศพทั้งหมดขึ้นเครื่องก่อนทำการขนย้ายในทันที
ทั้งนี้ หากท้องฟ้าปิดจะใช้แผนสองโดยใช้ ฮ.ขนาดเล็กที่ได้สนับสนุนจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ฮ.ของ ตชด. ที่ได้เข้ามาสนับสนุนเพิ่มอีก 1 ลำ ฮ.จากโครงการ “ชั่งหัวมัน” ตามพระราชดำริ บินลัดเลาะกลุ่มเมฆไปยังลาดจอด ฮ.ชั่วคราวที่เหนือระดับน้ำทะเล 900 เมตร และใช้พลเดินเท้าลำเลียงศพโดยใช้การเดินเท้า ซึ่งจะใช้เวลาไม่เกิน 4-5 ชั่วโมง
ต่อมาภารกิจการกู้ศพจึงเกิดขึ้น เมื่อ พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1พร้อมด้วย พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี ได้สั่งการให้นำกำลังขึ้นเฮลิคอปเตอร์เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อรับศพทหารทั้ง 5นาย ที่นำมารวมไว้ที่บริเวณลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ต้นน้ำเพชร แต่ก็ติดปัญหาหลายประการเนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุเป็นเชิงเขาสูงและอากาศมีสภาพเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งทางทหารก็ได้มีการตระเตรียมแผนก่อนจะเริ่มปฏิบัติการในเวลา 06.30 น. ของวันที่ 19 กรกฎาคม นั้นเป็นแผนการที่ทางทหารเตรียมการมาเป็นอย่างดี
จนมาถึงเวลาเช้า วันที่ 19 กรกฎาคม สภาพอากาศก็ยังไม่ได้เป็นใจนัก จนเมื่อ เวลา 11.00น. พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผู้บัญชากองพลทหารราบที่ 9 พ.ต.ประพันธ์ เจียมสูงเนิน นักบินที่ 1 พ.ต.ชูพันธ์ พลวรรณ นักบินที่ 2 จ.ส.อ.สมคิด วงษ์ตาแสง ช่างเครื่อง ส.อ.อร่าม พงษ์สิงห์ ร้อยเอกเจษ สุดใจ ร้อยเอกจักรพันธ์ บำรุงพืช สิบตรีอิทธิศักดิ์ หิณะสุทธิ์ และนายศรวิชัย คงตันนิกูล ช่างภาพสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 รวม 9 ชีวิต ก็ได้ตัดสินใจนำเครื่องแบล็กฮอว์ก เพื่อไปรับศพนายทหารทั้ง 5 คน
แต่แล้วเมื่อเครื่องเฮลิคอปเตอร์ขึ้นไปไม่นานก็ขาดการติดต่อ จนกระทั่งได้รับการยืนยันมาจาก พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 ว่า “แบล็กฮอว์ก” ตกจริง โดยห่างจากจุดที่เฮลิคอปเตอร์ “ฮิวอี้” ลำแรกตกประมาณ 2 กิโลเมตร ในบริเวณบ้านเขาไม้แดง เมืองมะริด ฐานย่อยกองร้อยที่ 3 กองพันรบที่ 101 ของพม่า โดยขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมของผู้ที่อยู่ในเครื่องทั้ง 9 คน
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุได้มีคำถามจากหลายฝ่ายว่าเครื่องเฮลิคอปเตอร์ “แบล็กฮอว์ก” ที่นำไปช่วยกู้ศพนายทหารทั้ง 5 มีสมรรถภาพมากเพียงใด ทำไมจึงได้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นแบบนี้
"แบล็กฮอว์ก ที่กองทัพบกมีประจำการมีสมรรถนะที่ดี มีความพร้อมของยุทโธปกรณ์ ถือเป็นเครื่องเฮลิคอปเตอร์ที่ดีที่สุดที่เรามีอยู่ในขณะนี้ เข้าประจำการเมื่อปี 2545 รวม 9 ปี ซึ่งเครื่องบินแต่ละรุ่นมีความทันสมัยต่างกัน รุ่นที่เราประจำการนั้นใช้การเดินทางด้วยความชำนาญของนักบิน ประกอบด้วยอุปกรณ์กล้องตรวจการณ์กลางคืน แต่ไม่มีเรดาร์ ซึ่งถือว่าใช้งานได้ระดับหนึ่ง สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยความปลอดภัย สามารถเห็นฝนแต่ไม่สามารถมองทะลุเมฆ และนักบินก็มีความเชี่ยวชาญ" พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ให้ข้อมูล
ทั้งนี้ สำหรับมาตรการการช่วยเหลือเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กที่ตกนั้น ศูนย์ประสานงานกู้ภัยเฮลิคอปเตอร์ตก ซึ่งตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้รับแจ้งทางวิทยุสื่อสารจากพลเดินเท้าที่เข้าไปประสานและร่วมตรวจการณ์ค้นหาที่เกิดเหตุกับทหารพม่า ที่บริเวณจุดพิกัด 246/120 ในเขตประเทศพม่า ซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดที่แบล็คฮอกว์ตกว่าได้ทำการค้นหาที่บริเวณจุดพิกัดดังกล่าวแล้ว แต่ไม่พบซากเฮลิคอปเตอร์แต่อย่างใด ซึ่งชุดปฏิบัติการทหารไทย-เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า และ ตชด.จำนวน 13 นายและทหารพม่า 7 นาย รวมทั้งหมด 20 นายได้ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวโดยละเอียดแล้ว แต่ต้องประสบปัญหาการขาดเสบียงอาหาร และพลังงานแบตเตอรี่ของวิทยุสื่อสารใกล้จะหมด นอกจากนี้ยังมีฝนตกหนักทำให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปอย่างยากลำบาก จึงจำเป็นต้องกลับเข้าเขตประเทศไทย และเดินทางมายังบริเวณลานจอดเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราวระดับความสูง 1,100 เมตร จากน้ำทะเล โดยมีทหารพม่าติดตามเข้ามาจำนวน 7 นายเพื่อขอเสบียงอาหารด้วย ทั้งนี้สภาพอากาศช่วงนี้มีฝนตกหนัก และหมอกปกคลุมจัด ทำให้การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก อีกทั้งสถานการณ์และสภาพอากาศตอนนี้ทำให้ต้องพึ่งกำลังจากพลเดินเท้าอย่างเดียว
ส่วนโศกนาฏรรมเฮลิคอปเตอร์ฮิวอี้ตกลำแรกนั้น เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ปฏิบัติการกู้ศพทหารกล้าทั้ง 5 นายประสบความสำเร็จและสามารถกลับมาบำเพ็ญกุศลได้ตามประเพณี
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากจะสร้างความสะเทือนใจให้แก่คนไทยทั้งประเทศแล้ว ขณะเดียวกันอีกมุมหนึ่ง บุคคลที่ขึ้นชื่อว่าพ่อ แม่ พี่ น้อง ลูกแก้ว และเมียขวัญ ของบรรดาทหารหาญผู้เสียสละ คงมีความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย วันนี้พวกเขาคงตั้งความหวัง และรอคอยด้วยหัวใจแทบขาดรอนว่า เมื่อใดบุคคลอันเป็นที่รักจะกลับมาสู่อ้อมกอดด้วยความปลอดภัย...
