00 ท่าจะหนักหนาสาหัสตั้งแต่ไม่ทันได้เริ่มทำงาน นาทีนี้จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก “น้องปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตอนแรก “พี่แม้ว” คิดฝันอยากจะกลับมาควบคุมอำนาจรัฐอีกรอบ เพื่อให้ทุกอย่างดูง่ายขึ้น ทั้งในเรื่องนิรโทษกรรมลบล้างความผิด หวังจะได้เงิน 4.6 หมื่นล้านบาทคืนมา เลยต้องออกนโยบายขายฝันมักง่ายแบบ “จัดหนัก” ครบวงจรถ้วนหน้า ทั้งค่าแรงวันละ 300 บาท จบปริญญาตรีเข้าทำงานรับไปเลยเดือนละ 15,000 บาท เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 1,000 บาท จำนำข้าวเกวียนละ 15,000 บาท ฯลฯ จำกันไม่หวาดไม่ไหว จนสามารถทำให้พรรคเพื่อไทย ชนะถล่มทลาย น้องสาวกำลังจ่อเป็นนายกฯหญิงคนแรก แต่ปัญหาก็คือ เมื่อจะต้องทำตามฝันนี่สิมันยากแสนเข็ญ
00 เพราะไหนจะต้องถูกขัดขวางจากฝ่ายที่ได้รับผลกระทบโดยตรง อย่างเช่น เจ้าของภาคธุรกิจเอกชนจากนโยบายเพิ่มค่าแรงพรวดพราดถึง 30-40 เปอร์เซ็นต์ เพราะที่ผ่านมาขนาดจะเพิ่มให้วันละ 4-5 บาท ยังยื้อกันแทบตาย ที่สำคัญภาคเอกชนมันจะไปบังคับให้จ่ายก็ไม่ได้เสียด้วยสิ ที่สำคัญมันแบกรับภาระไม่ไหว เมื่อไม่ไหวก็ต้องเจ๊ง และเชื่อว่าในบริษัทเหล่านั้นต้องรวมถึง “บริษัทเสื้อแดง” ที่เคยสนับสนุนพรรคเพื่อไทยอยู่จำนวนไม่น้อยแน่นอน นี่ว่ากันเฉพาะเรื่องเดียวโดดๆ ก่อน ล่าสุดกลุ่มธุรกิจเอกชนยักษ์ใหญ่ 3 องค์กร ในนามคณะกรรมการร่วมภาคเอกชนสามสถาบัน (กกร.) ก็ได้ออกโรงต้านตั้งแต่ “ไก่โห่” แถลงนำโดย ประธานสภาอุตฯ พยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล เล่นกันแบบไม่ไว้หน้าแบบนี้ สนุกแน่ พี่น้องเสื้อแดง เอ้ย !!
00 แม้ว่ามองอีกมุมหนึ่งมันก็น่าเห็นใจเหมือนกัน ในฐานะลูกจ้างด้วยกันก็อยากให้มีการปรับขึ้นค่าแรงสูงๆ เพื่อจะได้ “ชักหน้าถึงหลัง” กันบ้าง แต่ขณะเดียวกันมันก็ต้องมองความเป็นจริง ต้องมองไปถึงสภาพเศรษฐกิจ การแข่งขัน และที่สำคัญต้องพิจารณาถึงความ “เห็นแก่ตัว” ของเจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ ที่แน่นอนว่าต้องลดต้นทุนให้มากที่สุด เอาเป็นว่าแม้แต่บริษัท แอทซี แอสเสท ของว่าที่นายกฯนั้น บริษัทที่รับสร้างบ้านจัดสรรจ่ายค่าแรงขั้นต่ำให้กับคนงานถึงวันละ 300 บาทหรือเปล่า นี่ว่ากันเฉพาะเรื่องค่าแรงเพียวๆ ยังไม่นับคำสัญญาเรื่องข้าวของราคาถูกลง โดยเฉพาะการไปแตะเรื่องกองทุนน้ำมัน หิน โหดทั้งนั้น “น้องปู” จะรับไหวหรือเปล่าไม่รู้ เพราะเหมือนกับว่าเที่ยวนี้ “พี่แม้ว” จัดหนักเพื่อเอาใจแฟนเก่าๆ แต่เอาเข้าจริงๆ มันต้องไปเกี่ยวกับนายทุนภาคเอกชน ก็รู้อยู่แล้วว่า “เขี้ยว” แค่ไหน ประเภทอยู่ดีๆ ให้เสียสละนั้น ยากกก !!
00 เผลอแพล็บเดียว “เหลี่ยมจัด” ทักษิณ ชินวัตร ก็อายุครบ 62 ปีเข้าไปแล้ว ตอนแรกมีข่าวว่าจะจัดงานฉลองกับลิ่วล้อใหญ่โตที่ “บาหลี” อินโดฯ วันที่ 26 ก.ค. แต่ก็เจอกับลูกขยันแบบทุเรศของพวก “บัวแก้ว” ลูกน้องของ กษิต ภิรมย์ ในตอนจบ ที่ต้องบอกว่าทุเรศ ก็คือ ทำไมเพิ่งมาทำเป็นตาลีตาเหลือกไล่จับนักโทษหนีคุกกันเอาตอนนี้ ทำไมเวลาผ่านไปตั้งสองปีหกเดือน ทำได้แค่ยึด “พาสปอร์ตแดง” เท่านั้น อย่างอื่นไม่เห็นมี “น้ำยา” อะไร
00 เพราะไหนจะต้องถูกขัดขวางจากฝ่ายที่ได้รับผลกระทบโดยตรง อย่างเช่น เจ้าของภาคธุรกิจเอกชนจากนโยบายเพิ่มค่าแรงพรวดพราดถึง 30-40 เปอร์เซ็นต์ เพราะที่ผ่านมาขนาดจะเพิ่มให้วันละ 4-5 บาท ยังยื้อกันแทบตาย ที่สำคัญภาคเอกชนมันจะไปบังคับให้จ่ายก็ไม่ได้เสียด้วยสิ ที่สำคัญมันแบกรับภาระไม่ไหว เมื่อไม่ไหวก็ต้องเจ๊ง และเชื่อว่าในบริษัทเหล่านั้นต้องรวมถึง “บริษัทเสื้อแดง” ที่เคยสนับสนุนพรรคเพื่อไทยอยู่จำนวนไม่น้อยแน่นอน นี่ว่ากันเฉพาะเรื่องเดียวโดดๆ ก่อน ล่าสุดกลุ่มธุรกิจเอกชนยักษ์ใหญ่ 3 องค์กร ในนามคณะกรรมการร่วมภาคเอกชนสามสถาบัน (กกร.) ก็ได้ออกโรงต้านตั้งแต่ “ไก่โห่” แถลงนำโดย ประธานสภาอุตฯ พยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล เล่นกันแบบไม่ไว้หน้าแบบนี้ สนุกแน่ พี่น้องเสื้อแดง เอ้ย !!
00 แม้ว่ามองอีกมุมหนึ่งมันก็น่าเห็นใจเหมือนกัน ในฐานะลูกจ้างด้วยกันก็อยากให้มีการปรับขึ้นค่าแรงสูงๆ เพื่อจะได้ “ชักหน้าถึงหลัง” กันบ้าง แต่ขณะเดียวกันมันก็ต้องมองความเป็นจริง ต้องมองไปถึงสภาพเศรษฐกิจ การแข่งขัน และที่สำคัญต้องพิจารณาถึงความ “เห็นแก่ตัว” ของเจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ ที่แน่นอนว่าต้องลดต้นทุนให้มากที่สุด เอาเป็นว่าแม้แต่บริษัท แอทซี แอสเสท ของว่าที่นายกฯนั้น บริษัทที่รับสร้างบ้านจัดสรรจ่ายค่าแรงขั้นต่ำให้กับคนงานถึงวันละ 300 บาทหรือเปล่า นี่ว่ากันเฉพาะเรื่องค่าแรงเพียวๆ ยังไม่นับคำสัญญาเรื่องข้าวของราคาถูกลง โดยเฉพาะการไปแตะเรื่องกองทุนน้ำมัน หิน โหดทั้งนั้น “น้องปู” จะรับไหวหรือเปล่าไม่รู้ เพราะเหมือนกับว่าเที่ยวนี้ “พี่แม้ว” จัดหนักเพื่อเอาใจแฟนเก่าๆ แต่เอาเข้าจริงๆ มันต้องไปเกี่ยวกับนายทุนภาคเอกชน ก็รู้อยู่แล้วว่า “เขี้ยว” แค่ไหน ประเภทอยู่ดีๆ ให้เสียสละนั้น ยากกก !!
00 เผลอแพล็บเดียว “เหลี่ยมจัด” ทักษิณ ชินวัตร ก็อายุครบ 62 ปีเข้าไปแล้ว ตอนแรกมีข่าวว่าจะจัดงานฉลองกับลิ่วล้อใหญ่โตที่ “บาหลี” อินโดฯ วันที่ 26 ก.ค. แต่ก็เจอกับลูกขยันแบบทุเรศของพวก “บัวแก้ว” ลูกน้องของ กษิต ภิรมย์ ในตอนจบ ที่ต้องบอกว่าทุเรศ ก็คือ ทำไมเพิ่งมาทำเป็นตาลีตาเหลือกไล่จับนักโทษหนีคุกกันเอาตอนนี้ ทำไมเวลาผ่านไปตั้งสองปีหกเดือน ทำได้แค่ยึด “พาสปอร์ตแดง” เท่านั้น อย่างอื่นไม่เห็นมี “น้ำยา” อะไร