นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า มีการบอนไซ ไม่ให้ผู้ใหญ่ในพรรคแสดงความเห็น ว่า ความจริงทุกคนมีสิทธิ์ มีบทบาท ตนก็ระมัดระวังว่าทำอย่างไรอย่าให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เป็นเด็กนายชวน ดังนั้นก็ไม่เคยทำอะไรล้ำหน้า ต้องหลีกเลี่ยงในการที่จะให้ความเห็น เพื่อให้นายกฯได้แสดงบทบาทเต็มที่ ตนไม่แสดงความคิดเห็นอะไรมาก เพราะต้องการให้เกียรติหัวหน้าพรรคในการทำบทบาทเต็มที่ ตนเป็นอดีตหัวหน้าพรรค ก็คอยให้เป็นที่ปรึกษาบทบาทก็จำกัดในขอบเขต
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาหัวหน้าพรรคได้มาขอความเห็นอะไรหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า มีบ้าง แต่ว่าโดยทั่วไปเมื่อพรรคไปเป็นรัฐบาล เราไม่ได้เกี่ยวข้องกับรัฐบาล มีหน้าที่ก็คือ ช่วยรัฐบาล เวลามีปัญหาก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องของพรรคมาก ให้รัฐบาลวินิจฉัยเองได้ ไม่ต้องอาศัยดุลพินิจของเรา
เมื่อถามว่า ตำแหน่งเลขาธิการพรรค มีการเสนอชื่อชิงกันหลายคน นายชวนกล่าวว่า ต้องให้เกียรติหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ก็จะมีหน้าที่ช่วยหัวหน้าพรรค เพราะฉะนั้นต้องให้เกียรติ คัดคนที่เหมาะสม คนที่เลือกมาตามข้อบังคับก็มี 3 คน เพราะฉะนั้นคิดว่าคงจะเลือก 3 คนที่ทำงานกับท่านได้ คนใดคนหนึ่ง แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็ต้องให้เกียรติหัวหน้าพรรคพิจารณา เมื่อถามว่าคนที่เป็นเลขาธิการพรรค ควรจะเป็นอย่างไร นายชวน กล่าวว่า หัวหน้าพรรคเลือกใคร ที่ประชุมเลือกคนไหน ก็คนนั้นเหมาะสม
** "หล่อเล็ก"พร้อมนั่งเลขาพรรค
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีชื่อของตัวเอง เป็นแคนดิเดต เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ว่า เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในวันที่ 6 ส.ค.นี้ แต่โดยหลักแล้วจะขึ้นอยู่กับที่ประชุม จะเลือกหัวหน้าพรรคก่อนแล้วหัวหน้าพรรคจะเสนอชื่อเลขาธิการพรรค
ทั้งนี้ จากการพูดคุยส่วนใหญ่ยืนยันจะเสนอชื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคต่อ ส่วนศักยภาพส่วนตัว รวมทั้งความเป็นคนรุ่นใหม่ หากพรรคมอบหมาย ก็มีความพร้อม แต่ขณะนี้เป็นเรื่องที่หัวหน้าพรรคจะเสนอ และเป็นเรื่องลงมติในที่ประชุมใหญ่ด้วย เพราะตามปกติ เลขาธิการพรรค จะทำงานใกล้ชิดกับหัวหน้าพรรค สมาชิกพรรค สาขาพรรค และผู้บริหารท้องถิ่น
ขณะนี้มีชื่อของผู้ที่มีความพร้อมจะทำงานให้กับพรรคเป็นจำนวนมาก ทั้งคนที่เป็นตัวแทนภาคต่างๆ แต่หากหัวหน้าพรรคเสนอ และที่ประชุมเห็นชอบ ให้ใครเป็นเลขาธิการพรรคนั้น เห็นว่ารายชื่อที่ปรากฏ ก็มีคุณสมบัติพร้อมที่จะเป็นได้
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การเลือกคณะกรรมการการบริหารพรรคชุดใหม่ จะไม่ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งขึ้นภายในพรรค เพราะพรรคประชาธิปัตย์ มีความเป็นประชาธิปไตยสูง แต่ก็ยอมรับว่าภายในพรรคมีการแข่งขันกัน ซึ่งเมื่อเลือกตั้งกันเสร็จก็จะยอมรับมติของที่ประชุม และพร้อมที่จะทำงานสนับสนุนคนที่ได้รับความไว้วางใจจากที่ประชุมใหญ่
ทั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ดี ที่จะทำให้พรรคเกิดความเข้มแข็งมากขึ้น พร้อมสรุปบทเรียนจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาว่าเรื่องใดจะต้องปรับปรุงเพื่อให้พรรคกลับมาทำงานรับใช้ประชาชนได้ ส่วนจะใช้คำว่าปฏิรูปพรรคได้หรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และหลังการเลือกตั้ง เชื่อว่าหัวหน้าพรรคกับคณะกรรมการบริหารพรรค จะแถลงจุดยืนต่อไป
** "เทือก"ดัน"อัญชลี"เสียบแทน
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางเข้าแสดงตัวเป็น ส.ส. ที่อาคารรัฐสภา โดยภายหลังการแสดงตน นายสุเทพให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการประกาศเจตน์จำนงค์ร่วมชิงตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.บัญชีรายชื่อว่า นายอภิรักษ์ เป็นผู้หนึ่งที่มีความเหมาะสม
ส่วนเรื่องคดีความที่ค้างอยู่นั้น ก็มีเพียงเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างรถดับเพลิงของ กทม.เพียงคดีเดียว ซึ่งข้อเท็จจริงก็ปรากฏชัดว่า นายอภิรักษ์ มาเป็นผู้ว่าฯกทม.ในขณะที่การจัดซื้อเสร็จไปแล้ว จึงเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหา โดยคุณสมบัติของนายอภิรักษ์ ก็เป็นผู้ว่าฯ กทม.มาถึง 2 สมัย มีประสบการณ์ในการหาเสียงเลือกตั้ง มีประวัติการทำงานที่เป็นที่ยอมรับ มีความสามารถในการบริหาร โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับคนอื่น ทั้งส.ส. สาขาพรรค หรือสมาชิกพรรค ก็รู้จักและชื่นชมในตัวนายอภิรักษ์ คิดว่าคงทำงานร่วมกับสมาชิกพรรคได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงคิดว่านายอภิรักษ์ เป็นตัวเลือกที่ดีหากสนใจที่จะลงสมัคร
ผู้สื่อข่าวถามว่าบุคคลในใจที่นายสุเทพ เคยระบุใช่ นายอภิรักษ์หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยอมรับว่า ตนมีคนในใจอยู่ แต่คงบอกไม่ได้ว่าเป็นใคร เพราะตนต้องเป็นกลาง เปิดโอกาสให้คนที่สนใจจะสมัครด้วย ซึ่งไม่เพียงแต่นายอภิรักษ์ หากมีคนอื่นเสนอตัว ตนก็จะพูดถึงข้อดีเช่นกัน แต่ขอให้คนอื่นๆ ประกาศเจตจำนงค์ให้ชัดเจนเสียก่อน อย่างไรก็ตาม สุดท้ายต้องเป็นการตัดสินใจของสมาชิกพรรค
เมื่อถามต่อว่า หากเลขาฯพรรคคนใหม่ไม่ได้มาจากภาคใต้ จะส่งผลให้ ส.ส.ใต้น้อยใจหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีคนพยายามปล่อยข่าวออกมาเช่นนั้น ซึ่งตนยืนยันได้ว่า ไม่เป็นเช่นนั้นเลย สมาชิกพรรคในส่วนของภาคใต้ ไม่เคยคิดว่าเป็นเจ้าของตำแหน่งในพรรค ในทางตรงกันข้าม เชื่อว่าทุกคนจะเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าควรเปิดโอกาสให้ผู้อื่นเข้ามาทำหน้าที่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนจากภาคใด หลังจากที่ครั้งก่อนตนได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งมาแล้ว
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่าบุคคลที่อยู่ในใจนายสุเทพ ที่จะผลักดันให้ขึ้นมารับตำแหน่งเลขาธิการพรรค คือ นางอัญชลี วานิช เทพบุตร ส.ส.ภูเก็ต
** "เสี่ยจ้อน"ขอเป็นรองหน.พรรค
นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนได้แสดงความจำนงขอลงสมัครคัดเลือกคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคในสัดส่วนภาคกลาง
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์ยุคนี้ ต้องสร้างพรรคใหม่ ที่ผู้นำพรรค ผู้บริหารพรรค ต้องมีภาพความเป็นสากล พร้อมรับความคิดเห็นจากสมาชิกพรรค สาขาพรรคต่างๆร่วมกัน มิใช่การบริหารกระจุกตัวด้านการบริหารจัดการอย่างที่ผ่านมา
"พรรคจำเป็นต้องมีการปฏิรูป มิเช่นนั้นพรรคประชาธิปัตย์ก็ยากจะชนะคู่แข่งได้ และเมื่อผมได้รับการสนับสนุนเป็นรองหัวหน้าพรรค จะนำแนวทางดังกล่าวมาปฏิรูปพรรคต่อไป เพราะหมดเวลาการบริหารตัวบุคคลแล้ว" นายอลงกรณ์
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาหัวหน้าพรรคได้มาขอความเห็นอะไรหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า มีบ้าง แต่ว่าโดยทั่วไปเมื่อพรรคไปเป็นรัฐบาล เราไม่ได้เกี่ยวข้องกับรัฐบาล มีหน้าที่ก็คือ ช่วยรัฐบาล เวลามีปัญหาก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องของพรรคมาก ให้รัฐบาลวินิจฉัยเองได้ ไม่ต้องอาศัยดุลพินิจของเรา
เมื่อถามว่า ตำแหน่งเลขาธิการพรรค มีการเสนอชื่อชิงกันหลายคน นายชวนกล่าวว่า ต้องให้เกียรติหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ก็จะมีหน้าที่ช่วยหัวหน้าพรรค เพราะฉะนั้นต้องให้เกียรติ คัดคนที่เหมาะสม คนที่เลือกมาตามข้อบังคับก็มี 3 คน เพราะฉะนั้นคิดว่าคงจะเลือก 3 คนที่ทำงานกับท่านได้ คนใดคนหนึ่ง แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็ต้องให้เกียรติหัวหน้าพรรคพิจารณา เมื่อถามว่าคนที่เป็นเลขาธิการพรรค ควรจะเป็นอย่างไร นายชวน กล่าวว่า หัวหน้าพรรคเลือกใคร ที่ประชุมเลือกคนไหน ก็คนนั้นเหมาะสม
** "หล่อเล็ก"พร้อมนั่งเลขาพรรค
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีชื่อของตัวเอง เป็นแคนดิเดต เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ว่า เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในวันที่ 6 ส.ค.นี้ แต่โดยหลักแล้วจะขึ้นอยู่กับที่ประชุม จะเลือกหัวหน้าพรรคก่อนแล้วหัวหน้าพรรคจะเสนอชื่อเลขาธิการพรรค
ทั้งนี้ จากการพูดคุยส่วนใหญ่ยืนยันจะเสนอชื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคต่อ ส่วนศักยภาพส่วนตัว รวมทั้งความเป็นคนรุ่นใหม่ หากพรรคมอบหมาย ก็มีความพร้อม แต่ขณะนี้เป็นเรื่องที่หัวหน้าพรรคจะเสนอ และเป็นเรื่องลงมติในที่ประชุมใหญ่ด้วย เพราะตามปกติ เลขาธิการพรรค จะทำงานใกล้ชิดกับหัวหน้าพรรค สมาชิกพรรค สาขาพรรค และผู้บริหารท้องถิ่น
ขณะนี้มีชื่อของผู้ที่มีความพร้อมจะทำงานให้กับพรรคเป็นจำนวนมาก ทั้งคนที่เป็นตัวแทนภาคต่างๆ แต่หากหัวหน้าพรรคเสนอ และที่ประชุมเห็นชอบ ให้ใครเป็นเลขาธิการพรรคนั้น เห็นว่ารายชื่อที่ปรากฏ ก็มีคุณสมบัติพร้อมที่จะเป็นได้
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การเลือกคณะกรรมการการบริหารพรรคชุดใหม่ จะไม่ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งขึ้นภายในพรรค เพราะพรรคประชาธิปัตย์ มีความเป็นประชาธิปไตยสูง แต่ก็ยอมรับว่าภายในพรรคมีการแข่งขันกัน ซึ่งเมื่อเลือกตั้งกันเสร็จก็จะยอมรับมติของที่ประชุม และพร้อมที่จะทำงานสนับสนุนคนที่ได้รับความไว้วางใจจากที่ประชุมใหญ่
ทั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ดี ที่จะทำให้พรรคเกิดความเข้มแข็งมากขึ้น พร้อมสรุปบทเรียนจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาว่าเรื่องใดจะต้องปรับปรุงเพื่อให้พรรคกลับมาทำงานรับใช้ประชาชนได้ ส่วนจะใช้คำว่าปฏิรูปพรรคได้หรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และหลังการเลือกตั้ง เชื่อว่าหัวหน้าพรรคกับคณะกรรมการบริหารพรรค จะแถลงจุดยืนต่อไป
** "เทือก"ดัน"อัญชลี"เสียบแทน
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางเข้าแสดงตัวเป็น ส.ส. ที่อาคารรัฐสภา โดยภายหลังการแสดงตน นายสุเทพให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการประกาศเจตน์จำนงค์ร่วมชิงตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.บัญชีรายชื่อว่า นายอภิรักษ์ เป็นผู้หนึ่งที่มีความเหมาะสม
ส่วนเรื่องคดีความที่ค้างอยู่นั้น ก็มีเพียงเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างรถดับเพลิงของ กทม.เพียงคดีเดียว ซึ่งข้อเท็จจริงก็ปรากฏชัดว่า นายอภิรักษ์ มาเป็นผู้ว่าฯกทม.ในขณะที่การจัดซื้อเสร็จไปแล้ว จึงเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหา โดยคุณสมบัติของนายอภิรักษ์ ก็เป็นผู้ว่าฯ กทม.มาถึง 2 สมัย มีประสบการณ์ในการหาเสียงเลือกตั้ง มีประวัติการทำงานที่เป็นที่ยอมรับ มีความสามารถในการบริหาร โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับคนอื่น ทั้งส.ส. สาขาพรรค หรือสมาชิกพรรค ก็รู้จักและชื่นชมในตัวนายอภิรักษ์ คิดว่าคงทำงานร่วมกับสมาชิกพรรคได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงคิดว่านายอภิรักษ์ เป็นตัวเลือกที่ดีหากสนใจที่จะลงสมัคร
ผู้สื่อข่าวถามว่าบุคคลในใจที่นายสุเทพ เคยระบุใช่ นายอภิรักษ์หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยอมรับว่า ตนมีคนในใจอยู่ แต่คงบอกไม่ได้ว่าเป็นใคร เพราะตนต้องเป็นกลาง เปิดโอกาสให้คนที่สนใจจะสมัครด้วย ซึ่งไม่เพียงแต่นายอภิรักษ์ หากมีคนอื่นเสนอตัว ตนก็จะพูดถึงข้อดีเช่นกัน แต่ขอให้คนอื่นๆ ประกาศเจตจำนงค์ให้ชัดเจนเสียก่อน อย่างไรก็ตาม สุดท้ายต้องเป็นการตัดสินใจของสมาชิกพรรค
เมื่อถามต่อว่า หากเลขาฯพรรคคนใหม่ไม่ได้มาจากภาคใต้ จะส่งผลให้ ส.ส.ใต้น้อยใจหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีคนพยายามปล่อยข่าวออกมาเช่นนั้น ซึ่งตนยืนยันได้ว่า ไม่เป็นเช่นนั้นเลย สมาชิกพรรคในส่วนของภาคใต้ ไม่เคยคิดว่าเป็นเจ้าของตำแหน่งในพรรค ในทางตรงกันข้าม เชื่อว่าทุกคนจะเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าควรเปิดโอกาสให้ผู้อื่นเข้ามาทำหน้าที่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนจากภาคใด หลังจากที่ครั้งก่อนตนได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งมาแล้ว
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่าบุคคลที่อยู่ในใจนายสุเทพ ที่จะผลักดันให้ขึ้นมารับตำแหน่งเลขาธิการพรรค คือ นางอัญชลี วานิช เทพบุตร ส.ส.ภูเก็ต
** "เสี่ยจ้อน"ขอเป็นรองหน.พรรค
นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนได้แสดงความจำนงขอลงสมัครคัดเลือกคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคในสัดส่วนภาคกลาง
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์ยุคนี้ ต้องสร้างพรรคใหม่ ที่ผู้นำพรรค ผู้บริหารพรรค ต้องมีภาพความเป็นสากล พร้อมรับความคิดเห็นจากสมาชิกพรรค สาขาพรรคต่างๆร่วมกัน มิใช่การบริหารกระจุกตัวด้านการบริหารจัดการอย่างที่ผ่านมา
"พรรคจำเป็นต้องมีการปฏิรูป มิเช่นนั้นพรรคประชาธิปัตย์ก็ยากจะชนะคู่แข่งได้ และเมื่อผมได้รับการสนับสนุนเป็นรองหัวหน้าพรรค จะนำแนวทางดังกล่าวมาปฏิรูปพรรคต่อไป เพราะหมดเวลาการบริหารตัวบุคคลแล้ว" นายอลงกรณ์