xs
xsm
sm
md
lg

จีเอ็มเพิ่มลงทุน2พันล.รับยอดขายโต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน – “จีเอ็ม” เตรียมทุ่มเม็ดเงินลงทุนเพิ่มอีกกว่า 2.1 พันล้านบาท รับขยายการผลิตเครื่องยนต์และรถรุ่นใหม่ ภายในปี 2556 รับสัญญาณตลาดรถในไทยและอาเซียนสดใส ยอดขายรถเชฟโรเลตเติบโตต่อเนื่อง เผยปิกอัพ “เชฟโรเลต โคโลราโด” เปิดตัวเร็วๆ นี้แน่นอน และจะไม่มีการปรับราคาขึ้น ขณะเดียวกันเตรียมเสนอรัฐบาลใหม่ ให้แรงจูงใจคนนำรถเก่ามาแลกรถใหม่ เช่นเดียวกับนโยบายคืนภาษีรถคันแรก

นายมาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโลเลต เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด หรือบริษัทในเครือจีเอ็ม(GM) เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ ได้ลงทุนล่าสุดเป็นเงินกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท (30 บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐ) เพื่อตั้งโรงงานผลิตเครื่องยนต์ดีเซล โครงการปิกอัพ และรถเอสยูวีใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ปัจจุบันได้เริ่มผลิตชิ้นส่วนปั๊มขึ้นรูปต่างๆ เพื่อรองรับการผลิตปิกอัพเชฟโรเลต โคโลราโด ใหม่ ซึ่งเริ่มจากเพียงกว่า 2,000 ชิ้น และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็นกว่า 300,000 ชิ้น
“ส่วนโรงงานเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ได้เริ่มผลิตแล้วเช่นกัน โดยมีแผนการผลิต 1.08 แสนเครื่องต่อปี และภายในปี 2556 จะเพิ่มเป็นกว่า 1.2 แสนเครื่องต่อปี คาดว่าจะใช้เงินลงทุนอีก 70 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณกว่า 2,100 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งนอกจากรองรับปิกอัพเชฟโรเลต โคโลราโดแล้ว ยังจะมีการผลิตรถรุ่นใหม่สู่ตลาดอีก”
สาเหตุที่เตรียมเพิ่มเงินลงทุนขยายกำลังการผลิตใหม่ โดยที่โครงการเดิมยังไม่มีการผลิตอย่างเป็นทางการเช่นกัน เพราะบริษัทมองแนวโน้มของตลาด โดยเฉพาะอัตราการเติบโตของจีเอ็ม ในภูมิภาคอาเซียนส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางที่ดี ดังจะเห็นว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมามียอดขายขยายตัวมาก และจะเห็นว่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ไทยเติบโตมากถึง 72% หรือมาเลเซียที่เพิ่มขึ้น 235% ขณะที่อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น 18% ซึ่งคาดว่าถึงสิ้นปีทุกประเทศจะมียอดขายรถเชฟโรเลตเป็นบวกเช่นกัน รวมถึงประเทศไทยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 32%
“หากเป็นไปตามเป้าหมาย เชื่อว่าเชฟโรเลตจะมีส่วนแบ่งทางการตลาด หรือแชร์ประมาณ 4.5-5% หรืออยู่ที่ประมาณ 4.5 หมื่นคัน ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด เพราะรถยนต์เชฟโรเลตทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่นครูซ หรืออาวีโอ ล้วนมียอดขายเพิ่มสูงขึ้นเหนือกว่าคาดการณ์ แม้แต่ปิกอัพโคโลราโดรุ่นปัจจุบัน ที่เป็นช่วงท้ายโมเดลยังมียอดขายเติบโตเช่นกัน เช่นเดียวกับเอสยูวีรุ่นแคปติวา ใหม่ ที่เพิ่งเปิดรับจอง และจะแนะนำเป็นทางการสู่สาธารณะ 29-31 กรกฎาคมนี้ ปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีเช่นกัน” นายแอพเฟลกล่าวและว่า
สำหรับการเปิดตัวรถปิกอัพ เชฟโรเลต โคโลราโด โฉมใหม่ ทุกอย่างเป็นไปตามแผนงาน คาดว่าจะเปิดตัวในไทยก่อนเปลี่ยนฤดูฝนนี้แน่นอน และเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค แม้จะมีปิกอัพอีกหลายยี่ห้อเตรียมเปิดตัวเช่นกัน รวมถึงปิกอัพโตโยต้า วีโก้ แชมป์ ที่เพิ่งไมเนอร์เชนจ์และแนะนำสู่ตลาดไป แต่จะเห็นโตโยต้าได้ปรับราคาขึ้นประมาณ 4% ขณะที่โคโลราโดใหม่จะไม่มีการปรับราคาขึ้น และยังเป็นการโฉมใหม่ทั้งคันด้วย ทำให้มีจุดเด่นที่ได้เปรียบคู่แข่งมากกว่า
“นอกจากเชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ ที่เปิดตัวไปแล้ว และมีปิกอัพโคโลราโด โฉมใหม่ ที่จะแนะนำสู่ตลาดเร็วๆ นี้แล้ว ในอาเซียนยังได้มีการนำรถเอ็มพีวี เชฟโรเลต โอรันโด มาเผยโฉมที่จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และเดือนกันยายนนี้จะเปิดตัวขายในสิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ส่วนไทยมีความสนใจและกำลังศึกษาความเป็นไปได้ ในการทำตลาดรถรุ่นนี้เช่นกัน โดยอาจจะนำมาโชว์ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 ปลายปีนี้ก่อน”
นอกจากนี้นายแอพเฟลยังให้ความเห็น เกี่ยวกับนโยบายการปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท และการคืนภาษีให้กับผู้ซื้อรถคันแรก ของพรรคเพื่อไทยว่าผู้นำรัฐบาลใหม่ว่า เห็นด้วยกับโตโยต้าที่การปรับค่าแรง จะทำให้มีต้นทุนสูงและต้องเพิ่มราคารถขึ้น ซึ่งเป็นการผลักภาระกลับไปที่ผู้บริโภค และยังส่งผลให้ขีดความสามารถการแข่งขันของอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยลดลง หากเป็นเช่นนี้บริษัทรถก็ต้องหันไปหาแหล่งชิ้นส่วนจากต่างประเทศที่ถูกกว่าแทน
“การลดภาษีให้กับผู้ซื้อรถคันแรก น่าจะส่งเสริมตลาดให้ขยายตัวได้มากขึ้น แต่จีเอ็มเสนอควรให้สิทธิประโยชน์จูงใจกับผู้นำรถเก่าไปแลกซื้อรถใหม่ด้วย เช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกาที่เขามีค่าแรงจูงใจตรงนี้ หากดำเนินการดังกล่าว นอกจากจะทำให้เกิดความเท่าเทียมกัน ที่สำคัญยังเป็นการช่วยลดมลพิษ เพิ่มการประหยัด และลดปัญหารถเสีย หรือปัญหาการจราจรบนท้องถนนได้ หากมีโอกาสจีเอ็มจะนำเสนอเรื่องนี้ให้รัฐบาลใหม่พิจารณาด้วย” นายแอพเฟลกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น