ASTVผู้จัดการรายวัน – โฆษณาสื่อทีวีเดือนมิ.ย. หล่นฮวบ เติบโตเพียง 2.76% เชื่อเอเจนซี่ชะลอดูผลเลือกตั้ง พร้อมทดลองใช้สื่อใหม่ทดแทน บวกช่วงปีก่อนมีบอลโลกทำให้ปีนี้เติบโตน้อยลง ขณะที่สื่อนิตยสารยังติดลบที่ 2.93% เป็นเดือนที่2ในช่วงปีที่ผ่านมา โดยภาพรวมทั้งเดือนมิ.ย.โต 5.46% ส่งครึ่งปีแรกโต 11.64% คิดเป็นมูลค่ากว่า 53,195 ล้านบาท
จากการสำรวจของบริษัท นีลเส็น รีเสิร์ช คอมปานี (ประเทศไทย) จำกัด พบว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในเดือนมิ.ย.เพียงเดือนเดียวปี2554 ที่ผ่านมานั้น มีการเติบโตขึ้น 5.46% คิดเป็นมูลค่า 9,043 ล้านบาท โดยในเดือนนี้ พบว่า ตัวเลขโฆษณาในสื่อทีวี ใช้เพียง 5,469 ล้านบาท หรือมีการเติบโตเพียง 2.93% เท่านั้น เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.ปีก่อน ขณะที่ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา มีการเติบโตมากกว่าที่ 17.47% คิดเป็นมูลค่า 5,722 ล้านบาท
นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด ( มหาชน) ผู้บริหาร สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้โฆษณาในสื่อทีวีเดือนมิ.ย.โตเพียง 2.76% นั้น อาจจะมาจากการที่เอเจนซี่มองว่าหลายรายการในแต่ละสถานีโทรทัศน์ทางฟรีทีวีมีการปรับราคาขึ้น จึงหันไปใช้สื่อใหม่ทดแทน แต่มองว่าหากรายการนั้นๆได้รับความนิยมจริงเอเจนซี่ก็พร้อมที่จะหันมาซื้อโฆษณาอยู่ ขณะเดียวกันยังมองว่าเดือนเม.ย.เป็นช่วงของการเลือกตั้งหาเสียง อาจจะทำให้เอเจนซี่ชะลอแผนการซื้อโฆษณาในสื่อทีวีลดลงไปบ้าง และหันไปใช้สื่ออื่นทดแทนได้เช่นกัน
ด้านนางสุภาณี เดชาบูรณานนท์ ประธานกรรมการ กรุ๊ปเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวเสริมว่า เดือนมิ.ย.ปีก่อนเป็นช่วงของการแข่งขันฟุตบอลโลก ทำให้ตัวเลขโฆษณาเติบโตสูงมาก ส่งผลให้มิ.ย.ปีนี้ จึงมีการเติบโตที่ลดลง รวมไปถึงสภาพอากาศที่เข้าสู่หน้าฝนด้วยแล้ว ทำให้เดือนนี้โฆษณาทีวีจึงโตไม่มากนัก อย่างไรก็ตามมองว่าครึ่งปีหลังนี้ ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณายังน่าจะเติบโตได้เป็นตัวเลข 2 หลัก หรือทั้งปีจะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 12%
ทั้งนี้ยังพบอีกว่า ในเดือนมิ.ย. 2554 สื่อนิตยสาร ยังเติบโตติดลบที่ 2.93% เป็นเดือนที่2 หรือใช้เพียง 430 ล้านบาท ต่อจากเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ที่ติดลบ 15.86% โดยสื่ออินสโตร์เติบโตสูงสุดที่ 120.45% หรือใช้ไปกว่า 194 ล้านบาท ขณะที่ทั้งเดือนมิ.ย. 2554 มีการเติบโต 5.46% รวมมูลค่า 9,043 ล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในครึ่งปีแรกมีการเติบโตที่ 11.64% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 53,195 ล้านบาท
โดยสื่อโฆษณาที่ใช้สูงสุด 3 อันดับแรก คือ สื่อทีวีมูลค่า 32,493 ล้านบาท เติบโต 11.71% 2.สื่อหนังสือพิมพ์,มูลค่า 7,154 ล้านบาท เติบโต 3.67% และ 3.สื่อในโรงภาพยนตร์ มูลค่า 3,333 ล้านบาท เติบโต 24.74% ขณะที่สื่อวิทยุรั้งอันดับสี่ มูลค่า 2,870 ล้านบาท เติบโต 3.39% โดยที่สื่ออินสโตร์ เติบโตสูงสุด 100.77% หรือมีมูลค่า 1,042 ล้านบาท
จากการสำรวจของบริษัท นีลเส็น รีเสิร์ช คอมปานี (ประเทศไทย) จำกัด พบว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในเดือนมิ.ย.เพียงเดือนเดียวปี2554 ที่ผ่านมานั้น มีการเติบโตขึ้น 5.46% คิดเป็นมูลค่า 9,043 ล้านบาท โดยในเดือนนี้ พบว่า ตัวเลขโฆษณาในสื่อทีวี ใช้เพียง 5,469 ล้านบาท หรือมีการเติบโตเพียง 2.93% เท่านั้น เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.ปีก่อน ขณะที่ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา มีการเติบโตมากกว่าที่ 17.47% คิดเป็นมูลค่า 5,722 ล้านบาท
นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด ( มหาชน) ผู้บริหาร สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้โฆษณาในสื่อทีวีเดือนมิ.ย.โตเพียง 2.76% นั้น อาจจะมาจากการที่เอเจนซี่มองว่าหลายรายการในแต่ละสถานีโทรทัศน์ทางฟรีทีวีมีการปรับราคาขึ้น จึงหันไปใช้สื่อใหม่ทดแทน แต่มองว่าหากรายการนั้นๆได้รับความนิยมจริงเอเจนซี่ก็พร้อมที่จะหันมาซื้อโฆษณาอยู่ ขณะเดียวกันยังมองว่าเดือนเม.ย.เป็นช่วงของการเลือกตั้งหาเสียง อาจจะทำให้เอเจนซี่ชะลอแผนการซื้อโฆษณาในสื่อทีวีลดลงไปบ้าง และหันไปใช้สื่ออื่นทดแทนได้เช่นกัน
ด้านนางสุภาณี เดชาบูรณานนท์ ประธานกรรมการ กรุ๊ปเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวเสริมว่า เดือนมิ.ย.ปีก่อนเป็นช่วงของการแข่งขันฟุตบอลโลก ทำให้ตัวเลขโฆษณาเติบโตสูงมาก ส่งผลให้มิ.ย.ปีนี้ จึงมีการเติบโตที่ลดลง รวมไปถึงสภาพอากาศที่เข้าสู่หน้าฝนด้วยแล้ว ทำให้เดือนนี้โฆษณาทีวีจึงโตไม่มากนัก อย่างไรก็ตามมองว่าครึ่งปีหลังนี้ ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณายังน่าจะเติบโตได้เป็นตัวเลข 2 หลัก หรือทั้งปีจะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 12%
ทั้งนี้ยังพบอีกว่า ในเดือนมิ.ย. 2554 สื่อนิตยสาร ยังเติบโตติดลบที่ 2.93% เป็นเดือนที่2 หรือใช้เพียง 430 ล้านบาท ต่อจากเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ที่ติดลบ 15.86% โดยสื่ออินสโตร์เติบโตสูงสุดที่ 120.45% หรือใช้ไปกว่า 194 ล้านบาท ขณะที่ทั้งเดือนมิ.ย. 2554 มีการเติบโต 5.46% รวมมูลค่า 9,043 ล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในครึ่งปีแรกมีการเติบโตที่ 11.64% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 53,195 ล้านบาท
โดยสื่อโฆษณาที่ใช้สูงสุด 3 อันดับแรก คือ สื่อทีวีมูลค่า 32,493 ล้านบาท เติบโต 11.71% 2.สื่อหนังสือพิมพ์,มูลค่า 7,154 ล้านบาท เติบโต 3.67% และ 3.สื่อในโรงภาพยนตร์ มูลค่า 3,333 ล้านบาท เติบโต 24.74% ขณะที่สื่อวิทยุรั้งอันดับสี่ มูลค่า 2,870 ล้านบาท เติบโต 3.39% โดยที่สื่ออินสโตร์ เติบโตสูงสุด 100.77% หรือมีมูลค่า 1,042 ล้านบาท
