ASTVผู้จัดการรายวัน – “เลอซาช่า” ชี้เทรนด์ปีนี้ กิจกรรมและสินค้าผู้หญิงคึก โดยเฉพาะความสวยงาม หลังมีแนวโน้มผู้หญิงเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของไทย เปิดแผนบุกเลอซาช่า ขยายไลน์สินค้าสิ้นปีนี้ ลั่นสิ้นปีรายได้ทะลุ 700 ล้านบาท
นายเดชฤทธิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท คิวรอน จำกัด เปิดเผยว่า ช่วงปลายปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่ของกลุ่มแบรนด์เลอซาช่าอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับนวัตกรรมดูแลเส้นผมผู้หญิง ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้ามากกว่า 80% แล้ว อย่างไรก็ตาม มีบางสินค้าที่เริ่มทำตลาดบ้างแล้วเช่น วิตะมินเซรั่มบำรุงผม มี 3 เอสเคยู ปีหน้าจะเพิ่มอีก 5-10 เอสเคยู
ทั้งนี้มองว่าปีนี้ผลิตภัณฑ์และกิจกรรมที่เกี่ยวกับผู้หญิงโดยเฉพาะความสวยความงาม จะได้รับการตอบสนองและจะได้รับการตอบรับอย่างดี หลังจากที่ประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ ส่งผลให้กิจกรรมที่เกี่ยวกับการตลาดของสินค้าผู้หญิงมีมากขึ้นเช่นเดียวกันด้วย
โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมในไทยที่มีมูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านบาท คาดว่าในปีนี้จะเติบโต 20% แบ่งเป็น ไดร์เป่าผมมูลค่า 3,000 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะเติบโตเช่นเดิม ส่วนอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมมูลค่า 1,000 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะเติบโต 20%
สำหรับแบรนด์เลอซาช่าตั้งเป้าหมายจะเพิ่มส่วนแบ่งทั้ง 2 กลุ่มคือ ไดร์เป่าผมเป็น 20% จากเดิมมี 10% และกลุ่มอุปกรณ์เพิ่มเป็น 65% จากขณะนี้ 55% ซึ่งกลุ่มไดร์เป่าผมบริษัทฯมีแชร์น้อยมากทั้งๆที่เป็นตลาดใหญ่
แผนบุกตลาดของบริษัทฯโดยเฉพาะแบรนด์เลอซาช่า ล่าสุดได้เปิดตัวสินค้าใหม่ เลอซาช่า พาวเวอร์โฟว์ เข้ามาทำตลาด มี 4 อุปกรณ์ในตัวเดียวคือ แปรงม้วนสำหรับผมลอน แปรงยืดผม แปรงม้วนผมเพิ่มวอลลุ่ม และหัวเฉพาะที่ ราคา 890 – 1,990 บาท ตั้งเป้าหมายจะใช้สินค้าใหม่นี้เพิ่มแชร์อีก 10% เป็น 70-80% และเข้าไปแย่งแชร์ในตลาดอุปกรณ์อีก 10% ซึ่งจะส่งผลให้สิ้นปีนี้แบรนด์เลอซาช่าจะมีรายได้รวมทะลุ 700 ล้านบาท เติบโต 28% ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2552 ที่มีรายได้ 430 ล้านบาท เติบโต 23% และปี 2553 รายได้ 52 ล้านบาท เติบโต 28%
โดยคาดว่าพาวเวอร์โฟว์จะมียอดขาย 50,000 ชิ้นในปีนี้หรือมีมูลค่า 100 ล้านบาท ซึ่งขายมา 5 เดือนแล้วยังไม่มีโฆษณาขายได้ 1,000 ชิ้นต่อเดือน แต่ขณะนี้หนังโฆษณาออกฉายขายได้ 5,000 ชิ้นต่อเดือน โดยใช้งบตลาด 5 ล้านบาท จากงบทั้งบรำท20% ของยอดขาย โดยมี “หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ” เป็นพรีเซ็นเตอร์ คาดว่าน่าจะขายได้ดี เพราะทุกวันนี้ผู้หญิงเข้าร้านทำผมเฉลี่ย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยมากกว่า 1,000 บาทต่อครั้ง แต่เมื่อซื้อสินค้านี้ใช้แล้วประหยัดกว่ากันมากเลย
นายเดชฤทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนรุกตลาดต่างประเทศขณะนี้อยู่ระหว่างสร้างทีมงานใหม่ คาดว่าต้นปี 2555 จะสามารถบุกตลาดได้อย่างจริงัง จะเร่มที่ประเทศฮ่องกง ไต้หวัน และเวียดนาม ซึ่งปีที่แล้วเริ่มทดลองบุกตลาดมาเลเซียไปแล้ว
ปัจจุบันบริษัทฯมีรายได้มาจาก แบรนด์เลอซาช่าสัดส่วน 55%, ยาสีฟันสปาร์คเคิลไวท์ 15%, เครื่องรีดถนอมผ้าไอน้ำแอทโฮมและคิวรอน 15%, ที่เหลือ 15% มาจากกลุ่มอื่นเช่น ชุดชั้นในกระชับสัดส่วนแบรนด์ลีน่า อุปกรณ์กีฬาเจสัน เครื่องถอนขนเอ็มจอย เจลหล่อลื่นฟอร์ฟัน
นายเดชฤทธิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท คิวรอน จำกัด เปิดเผยว่า ช่วงปลายปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่ของกลุ่มแบรนด์เลอซาช่าอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับนวัตกรรมดูแลเส้นผมผู้หญิง ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้ามากกว่า 80% แล้ว อย่างไรก็ตาม มีบางสินค้าที่เริ่มทำตลาดบ้างแล้วเช่น วิตะมินเซรั่มบำรุงผม มี 3 เอสเคยู ปีหน้าจะเพิ่มอีก 5-10 เอสเคยู
ทั้งนี้มองว่าปีนี้ผลิตภัณฑ์และกิจกรรมที่เกี่ยวกับผู้หญิงโดยเฉพาะความสวยความงาม จะได้รับการตอบสนองและจะได้รับการตอบรับอย่างดี หลังจากที่ประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ ส่งผลให้กิจกรรมที่เกี่ยวกับการตลาดของสินค้าผู้หญิงมีมากขึ้นเช่นเดียวกันด้วย
โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมในไทยที่มีมูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านบาท คาดว่าในปีนี้จะเติบโต 20% แบ่งเป็น ไดร์เป่าผมมูลค่า 3,000 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะเติบโตเช่นเดิม ส่วนอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมมูลค่า 1,000 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะเติบโต 20%
สำหรับแบรนด์เลอซาช่าตั้งเป้าหมายจะเพิ่มส่วนแบ่งทั้ง 2 กลุ่มคือ ไดร์เป่าผมเป็น 20% จากเดิมมี 10% และกลุ่มอุปกรณ์เพิ่มเป็น 65% จากขณะนี้ 55% ซึ่งกลุ่มไดร์เป่าผมบริษัทฯมีแชร์น้อยมากทั้งๆที่เป็นตลาดใหญ่
แผนบุกตลาดของบริษัทฯโดยเฉพาะแบรนด์เลอซาช่า ล่าสุดได้เปิดตัวสินค้าใหม่ เลอซาช่า พาวเวอร์โฟว์ เข้ามาทำตลาด มี 4 อุปกรณ์ในตัวเดียวคือ แปรงม้วนสำหรับผมลอน แปรงยืดผม แปรงม้วนผมเพิ่มวอลลุ่ม และหัวเฉพาะที่ ราคา 890 – 1,990 บาท ตั้งเป้าหมายจะใช้สินค้าใหม่นี้เพิ่มแชร์อีก 10% เป็น 70-80% และเข้าไปแย่งแชร์ในตลาดอุปกรณ์อีก 10% ซึ่งจะส่งผลให้สิ้นปีนี้แบรนด์เลอซาช่าจะมีรายได้รวมทะลุ 700 ล้านบาท เติบโต 28% ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2552 ที่มีรายได้ 430 ล้านบาท เติบโต 23% และปี 2553 รายได้ 52 ล้านบาท เติบโต 28%
โดยคาดว่าพาวเวอร์โฟว์จะมียอดขาย 50,000 ชิ้นในปีนี้หรือมีมูลค่า 100 ล้านบาท ซึ่งขายมา 5 เดือนแล้วยังไม่มีโฆษณาขายได้ 1,000 ชิ้นต่อเดือน แต่ขณะนี้หนังโฆษณาออกฉายขายได้ 5,000 ชิ้นต่อเดือน โดยใช้งบตลาด 5 ล้านบาท จากงบทั้งบรำท20% ของยอดขาย โดยมี “หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ” เป็นพรีเซ็นเตอร์ คาดว่าน่าจะขายได้ดี เพราะทุกวันนี้ผู้หญิงเข้าร้านทำผมเฉลี่ย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยมากกว่า 1,000 บาทต่อครั้ง แต่เมื่อซื้อสินค้านี้ใช้แล้วประหยัดกว่ากันมากเลย
นายเดชฤทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนรุกตลาดต่างประเทศขณะนี้อยู่ระหว่างสร้างทีมงานใหม่ คาดว่าต้นปี 2555 จะสามารถบุกตลาดได้อย่างจริงัง จะเร่มที่ประเทศฮ่องกง ไต้หวัน และเวียดนาม ซึ่งปีที่แล้วเริ่มทดลองบุกตลาดมาเลเซียไปแล้ว
ปัจจุบันบริษัทฯมีรายได้มาจาก แบรนด์เลอซาช่าสัดส่วน 55%, ยาสีฟันสปาร์คเคิลไวท์ 15%, เครื่องรีดถนอมผ้าไอน้ำแอทโฮมและคิวรอน 15%, ที่เหลือ 15% มาจากกลุ่มอื่นเช่น ชุดชั้นในกระชับสัดส่วนแบรนด์ลีน่า อุปกรณ์กีฬาเจสัน เครื่องถอนขนเอ็มจอย เจลหล่อลื่นฟอร์ฟัน