“เลอซาช่า” เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “สไปรัล ทัวร์มาลีน” เชื่อเพิ่มรายได้มากกว่าเป้า 20% ในปี 56เผยแผนขยายช่องทางจัดจำหน่ายด้วยการรุกเข้าเทสโก้โลตัส บิ๊กซี พร้อมร้านวัตสัน และบูทส์ เล็งขยายตลาดสิงคโปร์-พม่าชิมลางตลาด AEC ช่วงปลายปี ก่อนเดินหน้าเปิดชอปกลางสยามในปี 57
น.ส.โชติมา ชุบชูวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์อุปกรณ์จัดแต่งทรงผม “เลอซาช่า” บริษัท คิวรอน จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่เปิดดำเนินงานมากว่า 15 ปี โดยมีผลิตภัณฑ์หลักภายใต้แบรนด์เลอซาช่า ประกอบด้วย เครื่องหนีบถนอมเส้นผม ไดร์เป่าถนอมเส้นผม และไดร์แต่งถนอมเส้นผม จนกระทั่งเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ประเภทแกนม้วนถนอมเส้นผม และหมวกอบไอน้ำ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถจัดแต่งทรงผมด้วยตัวเองได้อย่างง่าย
สำหรับมูลค่าทางการตลาดของอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมในประเทศไทย ตามข้อมูลจาก GFK มีมูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท โดยเลอซาช่ามีส่วนแบ่งประมาณ 60% ส่งผลให้เป็นผู้นำตลาดนับตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา ส่วนในปี 2556 คาดว่าตลาดจะมีอัตราเติบโตขึ้นประมาณ 20% ขณะที่ในส่วนของเลอซาช่าคาดว่าว่าจะสามารถทำยอดขายได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 20% โดยสามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นถึง 30% หลังจากผ่านไตรมาสแรกของปี 2556 โดยในปีที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์เลอซาช่าสามารถทำรายได้ให้บริษัทประมาณ 1 พันล้านบาท คิดเป็น 40% ของรายได้รวมทั้งหมดซึ่งมีประมาณ 1.6 พันล้านบาท
“เนื่องจากบริษัทฯ วางตำแหน่งทางการตลาดของผลิตภัณฑ์เลอซาช่าให้เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและความทันสมัย หรือ Innovation In Trend ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงจำเป็นต้องคิดค้นวิจัยผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ทันสมัย สามารถใช้ได้ง่ายและเห็นผลกับทุกสภาพเส้นผม พร้อมกันนั้นยังต้องให้ความรู้พร้อมทั้งปรับพฤติกรรมการจัดแต่งทรงผมของลูกค้าด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ของเลอซาช่า โดยคาดว่าในปี 2556 เทรนด์ที่จะมาแรงคือการจัดแต่งผมสไตล์เกาหลี หรือ Spiral Wave”
ในปี 2556 บริษัทได้จัดงบประมาณเป็นจำนวนเงินถึง 30 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามากกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการตลาดเฉพาะผลิตภัณฑ์แกนม้วนถนอมเส้นผม “สไปรัล ทัวร์มาลีน” ซึ่งเป็นการนำอัญมณีจากธรรมชาติคือทัวร์มาลีนมาสกัดเป็นส่วนประกอบสำคัญเพื่อช่วยปกป้องเส้นผมและไม่ทำให้ผมเสียโดยจะดำเนินการแบบครบวงจรทั้ง Above the line และ Below the line เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทั่วถึงและครอบคลุมอย่างเข้มแข็ง โดยล่าสุดได้มีการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่โดยยังคงใช้ “หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ” เป็นพรีเซ็นเตอร์ หลังจากพบว่ามีบทบาทสำคัญในการช่วยทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ จนเป็น Top of mind ของเลอซาช่า
“ทุกวันนี้ตลาดผลิตภัณฑ์อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมมีการแข่งขันรุนแรงขึ้นมาก เนื่องจากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่หลายแบรนด์ โดยเฉพาะพานาโซนิค และฟิลลิปส์ เริ่มหันมาให้ความสำคัญและทำตลาดในกลุ่มบิวตี้เพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าสาเหตุหนึ่งอาจมาจากผลประกอบการโดยรวมที่ลดลง ประกอบกับในตลาดยังมีคู่แข่งไม่มากนัก”
สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายจะยังคงใช้ทั้งโมเดิร์นเทรด และร้านค้าท้องถิ่น พร้อมทั้งช่องทางการขายผ่านสื่อออนไลน์ รวมถึงไฮเปอร์มาร์เกตทั้งเทสโก้โลตัส และบิ๊กซี นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ว่าจะเริ่มมีวางจำหน่ายทั้งร้านวัตสัน และบูทส์ในอนาคตอันใกล้ โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีสัดส่วนการจำหน่ายในกรุงเทพฯ ประมาณ 60% ส่วนที่เหลือ 40% เป็นการจำหน่ายในต่างจังหวัด
“ขณะนี้บริษัทฯ กำลังพิจารณาแผนการลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท เพื่อเปิดร้านเลอซาช่าเป็นของตนเองในทำเลการค้าย่านสยาม บนพื้นที่ประมาณ 300-500 ตารางเมตร โดยนอกจากจะมีวัตถุประสงค์เพื่อการกระจายสินค้าให้กว้างขวางมากขึ้นแล้ว ยังจะจัดพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นห้องเวิร์กชอปเพื่อให้ลูกค้าสามารถเดินทางมาปรึกษาทีมงานมืออาชีพเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์เลอซาช่า และฝึกฝนการจัดแต่งทรงผมด้วยตนเอง โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในปี 2557”
บริษัทฯ ยังมีแผนการขยายตลาดต่างประเทศเพื่อรองรับการเปิด AEC โดยมีเป้าหมายหลักที่ประเทศสิงคโปร์ และพม่า โดยขณะนี้ได้เริ่มเจรจากับผู้จัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในปี 2556 และจะมีส่วนทำรายได้จากการส่งออกเพิ่มขึ้นประมาณ 10%
