00 มาถึงวันนี้เรื่องราวสำคัญยังคงต้องจับตามองไปที่พรรคเพื่อไทยเป็นหลัก ตั้งแต่การรอลุ้นว่า กกต.จะรับรองให้ ปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรได้เป็น ส.ส.หรือไม่ รวมไปถึงพวก “หัวโจก” คนเสื้อแดงอีก 11 คนว่าจะได้รับการ “ปล่อยผี” ไปก่อนหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าในที่สุดแล้วมันก็ต้องผ่านฉลุยอยู่แล้ว เพราะในบรรยากาศยามนี้ได้เกิดแรงกดดันเข้ามาทุกทางในทำนองว่า “ไปยื้อ” ทำไม เกิดความรู้สึกว่าชาวบ้านที่เขาเลือก เพื่อไทยเข้ามาด้วยเสียงท่วมท้น แต่กลับถูก กกต.ที่มีเพียงไม่กี่เสียงมาขัดขวางได้อย่างไร อารมณ์ชาวบ้านเขาเริ่มออกมาในแนวแบบนี้จริงๆ
00 ทั้งที่หลายคนในจำนวนที่ถูก “แขวน” เอาไว้นั้นมันทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง หลายคนเย้ยกฎหมายจนถูกร้องเรียน แต่เป็นเพราะการทำงานที่ไร้มาตรฐานของ กกต.เองที่ทำให้เกิดอารมณ์ของสังคมผิดเพี้ยนไปจนได้ ทำให้บ้านเมืองเกิดความตึงเครียดสร้างเงื่อนไขเกิดความวุ่นวายขึ้นมาจนได้ ไม่เชื่อลองหลับตานึกเอาเองก็แล้วกันว่าถ้าไม่รับรอง ยิ่งลักษณ์ พร้อมๆทั้งหัวโจกเสื้อแดงแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น
00 แม้ว่าในความเป็นจริงอาจมาจากหลักฐานการทุจริตจริงๆก็เป็นได้ แต่เป็นเพราะความล่าช้า ไม่กล้าตัดสินใจตัดไฟเสียแต่ต้นลม รีบชักใบแดง ใบเหลืองเสียก่อน ทางหนึ่งเหมือนกับเป็นการปรามเอาไว้ก่อนไม่ให้เหิมเกริมทำผิดกฎหมาย แต่นี่กลับละล้าละลัง ถึงจังหวะที่ต้องปล่อยกลับขังเอาไว้ แต่ในที่สุดเมื่อถูกแรงกดดันก็ต้อง “ปล่อยไป” จนได้ กลายเป็นถูกมองว่า กกต.ไม่มีหลักยึด เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ ล่าสุดก็มีการส่งสัญญาณล่วงหน้าจาก สดศรี สัตยธรรมหนึ่งในกกต.แย้มออกมาแล้วว่าในวันที่ 19 ก.ค.นี้จะปล่อยไปก่อนแล้วค่อยสอยทีหลัง
00 นี่ก็กลายเป็นเรื่องที่ต้องถูกตามทวงสัญญาเป็นรายวัน ทั้งค่าแรงวันละ 300 บาท จบปริญญาตรีรับเงินเดือน 15,000 บาทต่อเดือน เบี้ยยังชีผู้สูงอายุเดือนละ 1,000 บาท ข้าวของจะต้องราคาถูกลงทันที น้ำมันลดราคา เป็นเรื่องที่ชาวบ้านกำลังตั้งตารอคอย มิหนำซ้ำการรอคอยดังกล่าวยังไปกดดันให้ กกต.ต้อง “ไฟเขียว” ให้ ยิ่งลักษณ์ ได้รับการรับรอง ส.ส.เพื่อจะได้ไปเป็นนายกฯและจะได้อนุมัติโครงการสารพัด “ประชานิยม” ที่ว่านั้นเสียที
00 มองอีกมุมหนึ่งก็กลายเป็นแรงกดดันให้กับตัวว่าที่ นายกฯหญิงคนแรกของไทยว่าเธอจะทำได้อย่างที่ให้สัญญาเอาไว้หรือไม่ หรือว่า “ดีแต่พูด” เหมือนอย่างที่เคยชอบไปกล่าวหา เยาะเย้ย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคประชาธิปัตย์ก่อนหน้านี้หรือไม่ เพราะหลายคนล้วนให้ความเห็นตรงกันว่ามัน “ทำได้ยาก” เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับภาคเอกชนจะไปบังคับกันมากก็ไม่ได้ ที่สำคัญหากต้องไปอุดหนุนมันก็ต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาล แต่เอาเถอะในเมื่อบอกว่าทำได้ก็ไม่ว่ากันจะรอดู แต่จะมาแบบประเภท “ศรีธนญชัย” เล่นลิ้นไม่ได้เป็นอันขาด ให้เวลาอย่างช้าต้องไม่เกินวันที่ 1 ม.ค.ทุกนโยบายดังกล่าวต้องคลอดออกมาทันที ส่วนจะกลายเป็น “ปูโลกเบี้ยว”อย่างที่หลายคนเริ่มทำนายไว้ล่วงหน้าหรือไม่ต้องรอดูกัน !!
00 แม้ว่าจะยังไม่มีการกำหนดวันประชุมใหญ่ของพรรคปชป.เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ อย่างไรก็ตามสำหรับหัวหน้าพรรคไม่น่าจะพลิกจาก “มาร์ค” เป็นคนอื่น แต่ที่ยังเป็นปัญหาก็คือเลขาฯพรรค ยังหาตัวที่เหมาะสมไม่ได้ คนที่เสนอหน้าเข้ามาล้วนไม่ใช่ของจริง
ล่าสุดมีชื่อ วิทยา แก้วภราดัย แม้ไม่เสียหาย แต่สำหรับตำแหน่งแม่บ้านที่ต้อง “รอบตัว” มันก็ยังไม่น่าจะใช่ !!
00 ทั้งที่หลายคนในจำนวนที่ถูก “แขวน” เอาไว้นั้นมันทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง หลายคนเย้ยกฎหมายจนถูกร้องเรียน แต่เป็นเพราะการทำงานที่ไร้มาตรฐานของ กกต.เองที่ทำให้เกิดอารมณ์ของสังคมผิดเพี้ยนไปจนได้ ทำให้บ้านเมืองเกิดความตึงเครียดสร้างเงื่อนไขเกิดความวุ่นวายขึ้นมาจนได้ ไม่เชื่อลองหลับตานึกเอาเองก็แล้วกันว่าถ้าไม่รับรอง ยิ่งลักษณ์ พร้อมๆทั้งหัวโจกเสื้อแดงแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น
00 แม้ว่าในความเป็นจริงอาจมาจากหลักฐานการทุจริตจริงๆก็เป็นได้ แต่เป็นเพราะความล่าช้า ไม่กล้าตัดสินใจตัดไฟเสียแต่ต้นลม รีบชักใบแดง ใบเหลืองเสียก่อน ทางหนึ่งเหมือนกับเป็นการปรามเอาไว้ก่อนไม่ให้เหิมเกริมทำผิดกฎหมาย แต่นี่กลับละล้าละลัง ถึงจังหวะที่ต้องปล่อยกลับขังเอาไว้ แต่ในที่สุดเมื่อถูกแรงกดดันก็ต้อง “ปล่อยไป” จนได้ กลายเป็นถูกมองว่า กกต.ไม่มีหลักยึด เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ ล่าสุดก็มีการส่งสัญญาณล่วงหน้าจาก สดศรี สัตยธรรมหนึ่งในกกต.แย้มออกมาแล้วว่าในวันที่ 19 ก.ค.นี้จะปล่อยไปก่อนแล้วค่อยสอยทีหลัง
00 นี่ก็กลายเป็นเรื่องที่ต้องถูกตามทวงสัญญาเป็นรายวัน ทั้งค่าแรงวันละ 300 บาท จบปริญญาตรีรับเงินเดือน 15,000 บาทต่อเดือน เบี้ยยังชีผู้สูงอายุเดือนละ 1,000 บาท ข้าวของจะต้องราคาถูกลงทันที น้ำมันลดราคา เป็นเรื่องที่ชาวบ้านกำลังตั้งตารอคอย มิหนำซ้ำการรอคอยดังกล่าวยังไปกดดันให้ กกต.ต้อง “ไฟเขียว” ให้ ยิ่งลักษณ์ ได้รับการรับรอง ส.ส.เพื่อจะได้ไปเป็นนายกฯและจะได้อนุมัติโครงการสารพัด “ประชานิยม” ที่ว่านั้นเสียที
00 มองอีกมุมหนึ่งก็กลายเป็นแรงกดดันให้กับตัวว่าที่ นายกฯหญิงคนแรกของไทยว่าเธอจะทำได้อย่างที่ให้สัญญาเอาไว้หรือไม่ หรือว่า “ดีแต่พูด” เหมือนอย่างที่เคยชอบไปกล่าวหา เยาะเย้ย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคประชาธิปัตย์ก่อนหน้านี้หรือไม่ เพราะหลายคนล้วนให้ความเห็นตรงกันว่ามัน “ทำได้ยาก” เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับภาคเอกชนจะไปบังคับกันมากก็ไม่ได้ ที่สำคัญหากต้องไปอุดหนุนมันก็ต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาล แต่เอาเถอะในเมื่อบอกว่าทำได้ก็ไม่ว่ากันจะรอดู แต่จะมาแบบประเภท “ศรีธนญชัย” เล่นลิ้นไม่ได้เป็นอันขาด ให้เวลาอย่างช้าต้องไม่เกินวันที่ 1 ม.ค.ทุกนโยบายดังกล่าวต้องคลอดออกมาทันที ส่วนจะกลายเป็น “ปูโลกเบี้ยว”อย่างที่หลายคนเริ่มทำนายไว้ล่วงหน้าหรือไม่ต้องรอดูกัน !!
00 แม้ว่าจะยังไม่มีการกำหนดวันประชุมใหญ่ของพรรคปชป.เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ อย่างไรก็ตามสำหรับหัวหน้าพรรคไม่น่าจะพลิกจาก “มาร์ค” เป็นคนอื่น แต่ที่ยังเป็นปัญหาก็คือเลขาฯพรรค ยังหาตัวที่เหมาะสมไม่ได้ คนที่เสนอหน้าเข้ามาล้วนไม่ใช่ของจริง
ล่าสุดมีชื่อ วิทยา แก้วภราดัย แม้ไม่เสียหาย แต่สำหรับตำแหน่งแม่บ้านที่ต้อง “รอบตัว” มันก็ยังไม่น่าจะใช่ !!