00 ต้องบอกว่าบรรยากาศยามนี้เริ่มตึงเครียดขึ้นมาอีกรอบ หลังจาก กกต.รับรองส.ส.ล็อตแรกเพียงแค่ 358 คน ทำให้ไม่สามารถเปิดสภาได้ เนื่องจากต้องมีจำนวน ส.ส.ร้อยละ 95 นั่นคือต้องมี 475 คนขึ้นไป ที่สำคัญยังแขวน “ตัวเป้งๆ” อีกหลายคน โดยเฉพาะ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สุเทพ เทือกสุบรรณ จากค่ายปชป.รวมไปถึงพวก “หัวโจก” คนเสื้อแดงอีกหลายคน ทั้งที่มองในภาพรวมแล้วมันก็ชอบด้วยเหตุผลในเรื่องหมิ่นเหม่ทำผิดกฎหมาย แต่เป็นเพราะการไม่ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งตรงไปตรงมาตั้งแต่ต้น มันก็ช่วยไม่ได้ ที่จะถูกมองเป็นเรื่องการเมือง มองว่าเมื่อแขวนยิ่งลักษณ์ ก็ต้องแขวน อภิสิทธิ์ด้วย เพื่อให้ดูสมดุล ลดแรงกดดัน ไม่ได้มองเป็นเรื่องว่าใครทำผิดกฎหมาย
00 เป็นไปได้อย่างไรที่การเลือกตั้งเที่ยวนี้เต็มไปด้วยซื้อเสียง ข่มขู่ มีการทำผิดกฎหมายกันอย่างมโหฬาร แต่กลับไม่มีการชักใบเหลือง ใบแดงให้กับใครเลยก่อนการเลือกตั้ง ทั้งที่สมควรทำเพื่อเป็นการป้องปราม และรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย หรือแม้แต่การเพิกถอนสิทธิ์ของผู้ที่เคยขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกเขต ตั้งแต่ปี 50 แต่มาถึงในปี 2554 พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้มายื่นเรื่องขอใช้สิทธิ์นอกเขตซ้ำอีก กลายเป็นว่ามาคราวนี้ก็ต้องเสียสิทธิ์ไปพร้อมกันถึงกว่า 2 ล้านเสียง มันถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ แต่กกต.ก็เพิกเฉยไม่ยอมแก้ไข ไม่ยอมชี้แจงให้เป็นเหตุเป็นผล เรื่องที่สมควรวินิจฉัยแต่ไม่ยอมทำหน้าที่ มันก็สมควรแล้วที่ถูกชาวบ้านรุมด่าว่าทำงานไร้มาตรฐาน ไม่คุ้มค่าเงินเดือน และที่สำคัญ กกต.นี่แหละที่จะกลายเป็นตัวจุดชนวนความวุ่นวายขึ้นมาอีกรอบ
00 นี่ก็เชื่อขนมกินล่วงหน้าได้เลยว่า วันที่ 19 ก.ค. กกต.ก็ต้องปล่อยผี บรรดาพวกที่ถูกแขวนเอาไว้ไปเกือบทั้งหมด หรือทั้งหมด โดยอ้างว่าพิจารณาไม่ทัน ปล่อยไปก่อนแล้วค่อยสอยทีหลัง ล่าสุดเมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) สดศรี สัตยธรรม หนึ่งในกกต. ก็ยังมาบอกว่า ทั้งยิ่งลักษณ์ และ อภิสิทธิ์ ไม่ต้องเรียกมาชี้แจง เพราะสอบสวนจบแล้ว ให้รอฟังประกาศวันที่ 19 ก.ค. มันก็ชัดยิ่งกว่าชัดว่า “ไม่มีปัญหา” แต่อีกด้านหนึ่งมันก็ทำให้เกิดข้อกังขาว่า ทำแบบนี้ทำไม ในเมื่อไม่ชัวร์กันตั้งแต่แรก หากมีข้อร้องเรียนมาก พิจารณาไม่ทันและต้องพิจารณาด้วยความรอบคอ ก็ต้องบอกตามตรงให้สังคมได้รับรู้อย่างตรงไปตรงมา ปล่อยไปก่อนทั้งหมดแล้วตามสอยทีหลัง แต่นี่กลายเป็นว่าทำยึกยัก เคลียร์ก็ไม่เคลียร์ ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรสักอย่าง
00 เริ่มมีการปั่นกระแสนายกฯสำรองออกมาจากพรรคเพื่อไทย หาก “น้องปู” คนสวยมีอันต้องถูกสอย คนที่ถูกปล่อยชื่อออกมา เช่น พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ เป็นต้น แต่มันเลื่อนเปื้อน “ขี้หกทั้งเพ” เพราะนาทีนี้ยังต้องเป็น ปู-ยิ่งลักษณ์ เท่านั้น ผิดไปจากนี้ต้องป่วน เพราะเวลานี้ฝ่ายเสื้อแดงเขาเตรียมเป่านกหวีด สั่งพร้อมรบกันแล้ว !!
00 เป็นไปได้อย่างไรที่การเลือกตั้งเที่ยวนี้เต็มไปด้วยซื้อเสียง ข่มขู่ มีการทำผิดกฎหมายกันอย่างมโหฬาร แต่กลับไม่มีการชักใบเหลือง ใบแดงให้กับใครเลยก่อนการเลือกตั้ง ทั้งที่สมควรทำเพื่อเป็นการป้องปราม และรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย หรือแม้แต่การเพิกถอนสิทธิ์ของผู้ที่เคยขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกเขต ตั้งแต่ปี 50 แต่มาถึงในปี 2554 พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้มายื่นเรื่องขอใช้สิทธิ์นอกเขตซ้ำอีก กลายเป็นว่ามาคราวนี้ก็ต้องเสียสิทธิ์ไปพร้อมกันถึงกว่า 2 ล้านเสียง มันถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ แต่กกต.ก็เพิกเฉยไม่ยอมแก้ไข ไม่ยอมชี้แจงให้เป็นเหตุเป็นผล เรื่องที่สมควรวินิจฉัยแต่ไม่ยอมทำหน้าที่ มันก็สมควรแล้วที่ถูกชาวบ้านรุมด่าว่าทำงานไร้มาตรฐาน ไม่คุ้มค่าเงินเดือน และที่สำคัญ กกต.นี่แหละที่จะกลายเป็นตัวจุดชนวนความวุ่นวายขึ้นมาอีกรอบ
00 นี่ก็เชื่อขนมกินล่วงหน้าได้เลยว่า วันที่ 19 ก.ค. กกต.ก็ต้องปล่อยผี บรรดาพวกที่ถูกแขวนเอาไว้ไปเกือบทั้งหมด หรือทั้งหมด โดยอ้างว่าพิจารณาไม่ทัน ปล่อยไปก่อนแล้วค่อยสอยทีหลัง ล่าสุดเมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) สดศรี สัตยธรรม หนึ่งในกกต. ก็ยังมาบอกว่า ทั้งยิ่งลักษณ์ และ อภิสิทธิ์ ไม่ต้องเรียกมาชี้แจง เพราะสอบสวนจบแล้ว ให้รอฟังประกาศวันที่ 19 ก.ค. มันก็ชัดยิ่งกว่าชัดว่า “ไม่มีปัญหา” แต่อีกด้านหนึ่งมันก็ทำให้เกิดข้อกังขาว่า ทำแบบนี้ทำไม ในเมื่อไม่ชัวร์กันตั้งแต่แรก หากมีข้อร้องเรียนมาก พิจารณาไม่ทันและต้องพิจารณาด้วยความรอบคอ ก็ต้องบอกตามตรงให้สังคมได้รับรู้อย่างตรงไปตรงมา ปล่อยไปก่อนทั้งหมดแล้วตามสอยทีหลัง แต่นี่กลายเป็นว่าทำยึกยัก เคลียร์ก็ไม่เคลียร์ ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรสักอย่าง
00 เริ่มมีการปั่นกระแสนายกฯสำรองออกมาจากพรรคเพื่อไทย หาก “น้องปู” คนสวยมีอันต้องถูกสอย คนที่ถูกปล่อยชื่อออกมา เช่น พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ เป็นต้น แต่มันเลื่อนเปื้อน “ขี้หกทั้งเพ” เพราะนาทีนี้ยังต้องเป็น ปู-ยิ่งลักษณ์ เท่านั้น ผิดไปจากนี้ต้องป่วน เพราะเวลานี้ฝ่ายเสื้อแดงเขาเตรียมเป่านกหวีด สั่งพร้อมรบกันแล้ว !!
