xs
xsm
sm
md
lg

ดึงไอพีโอคำนวณเทิร์นโอเวอร์ลิส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- ก.ล.ต.ชี้ เตรียมนำหุ้นไอพีโอคำนวณเทิร์นโอเวอร์ลิส 5 ส.ค.นี้ หลังยกเว้นไม่คำนวณ4 สัปดาห์แรกเข้าซื้อขาย เพื่อปรับเกณฑ์เหมือนกับหุ้นอื่นๆ ยันไม่ได้ดับความร้อนแรง ด้าน"แหล่งข่าวระดับสูงตลาดทุน "ติง ก.ล.ต. เข้ม อนุมัติไฟลิ่ง ช้า ส่งผล มีหุ้นเข้าใหม่จำนวนน้อยทำให้นักกลงทุนแก่เก็งกำไรราคา-ปริมาณหุ้นพุ่ง

นายธวัชชัย พิทยโสภณ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.ได้มีการยกเลิกการยกเว้นไม่คำนวณ turnover list สำหรับหุ้นที่เสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก( IPO) ภายในระยะเวลา 4 สัปดาห์นับแต่วันที่หุ้นดังกล่าวเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ครั้งแรก และกำหนดให้มีการยกเว้นกรณีหุ้น IPO ที่เข้าซื้อขายระหว่างสัปดาห์หรือหุ้นที่ย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)ไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)ระหว่างสัปดาห์ โดยจะไม่คำนวณในสัปดาห์แรกที่เข้าซื้อขายหรือย้ายตลาด ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ 5 สิงหาคม นี้

ทั้งนี้การที่ก.ล.ต.มีการปรับเกณฑ์ดังกล่าวเพื่อให้เป็นแบบเดียวกันกับกรณีอื่นๆไม่ได้เกี่ยวกับการดับความร้อนแรงหุ้นไอพีโอที่เข้ามาซื้อขายในช่วงที่ผ่านมา แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะเป็นการเตือนนักลงทุนหากหุ้นนั้นมีปริมาณการซื้อขายหมุนเวียนสูง จากที่การซื้อขายมีการเปลี่ยนมือกันมาก ซึ่งอาจมีแนวโน้มไปสูงภาวการณ์ซื้อขายที่ผิดปกติ เพื่อที่นักลงทุนจะใช้ประกอบการตัดสินใจในการลงทุนในหุ้นนั้นๆต่อไป

“ตั้งแต่5 ส.ค.นี้ก.ล.ต.จะมีการนำหุ้นไอพีโอ เข้ามาคำนวณ turnover list จากเดิมที่ยกเว้นไม่นำมาคำนวณ 4 สัปดาห์แรกที่เข้าซื้อขาย แต่ได้หากเข้าซื้อขายไม่ครบ1 สัปดาห์ก็จะยังไม่นำมาคำนวณ รวมหุ้นถึงหุ้นที่มีการย้ายตลาดการซื้อขาย และรวมถึงหุ้นที่หยุดซื้อขายและกลับมาซื้อขายครั้งแรก ซึ่งการดำเนินการเพื่อเป็นการปรับเกณฑ์การคำนวณให้เป็นแบบเดียวกันกับหุ้นอื่นๆ”นายธวัชชัย กล่าว

แหล่งข่าวะดับสูงตลาดทุน กล่าวว่า การที่ก.ล.ต.มีการปรับเกณฑ์นำหุ้นไอพีโอมาคำนวน turnover list ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่เข้าซื้อขายนั้น ส่วนตัวมองว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในหุ้นไอพีโอ แต่ส่วนตัวมองว่าการที่หุ้นไอพีโอในช่วงที่ผ่านมามีการซื้อขายมีปริมาณการซื้อขายและราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงนั้นเกิดจากนักลงทุนสนใจที่เข้ามาลงทุนจำนวนมาก จากเป็นหุ้นใหม่และราคาหุ้นไม่แพง และหุ้นไอพีโอให้ผลตอบแทนที่ดี ทำให้นักลงทุนหันมาสนใจในหุ้นไอพีโอมากขึ้น

ทั้งนี้ การที่ไอพีโอที่เข้ามาเทรดนั้นราคาและปริมาณการซื้อขายคงจะไม่ร้อนแรงขนาดนี้หาก ก.ล.ต.มีการอนุมัติไฟลิ่งหุ้นใหม่ให้รวดเร็วมากกกว่านี้ เพื่อที่จะมีหุ้นใหม่มีหุ้นไอพีโอเข้ามาจดทะเบียนมากขึ้นก็จะทำให้นักลงทุนมีทางเลือกและไม่เข้ามาซื้อขายกันร้อนแรงเหมือนกับที่ผ่านมา โดยจากการที่ก.ล.ต.ได้มีการปรับเกณฑ์การอนุมัติไฟลิ่งงแบบใหม่โดยการให้บริษัทมีการเปิดเผยข้อมูลมากขึ้น ซึ่งจริงแล้วควรที่จะรวดเร็ว แต่กลับเป็นใช้เวลานานและการพิจารณาก็เข้มงวดกว่าเดิมไปอีก ซึ่งมีหุ้นไอพีโอยื่นไฟลิ่งนานถึง 1 ปี ยังไม่ได้รับอนุมัติไฟลิ่ง

“ตามหลักแล้วหุ้นไอพีโอที่เข้ามาเทรดนั้นคงจะไม่ดุเดือดมากขนาดนี้ หากก.ล.ต.มีการปล่อยหุ้นเข้ามาซื้อขายมากกว่านี้ ซึ่งขณะนี้มีบริษัทที่รอการอนุมัติจากก.ล.ต.อยู่หลายบริษัท ซึ่งบางบริษัทค้างนานเป็นปี ซึ่งก.ล.ต.ไม่ควรที่จะมองด้านเดียว พอหุ้นร้อนแรงก็จะมีการออกเกณฑ์มาสกัด แทนที่จะเร่งอนุมัติเพื่อให้บริษัทเข้ามาเทรดมากขึ้นราคาหุ้นและปริมาณก็จะไม่ร้อนแรง”แหล่งข่าวระดับสูงตลาดทุนกล่าว

สำหรับหุ้นไอพีโอ เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯและตลาดเอ็มเอไอ ในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ มีจำนวน 5 บริษัท โดยหุ้นที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด และปริมาณการซื้อขายสูงสุด คือบริษัท ยูเนี่ยน อินทราโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ UIC ราคาหุ้นวันแรกปรับตัวเพิ่มขึ้น 186.46% จากราคามจอง 1.92 บาทต่อหุ้น เป็น 5.50 บาทต่อหุ้น ปริมาณหุ้นซื้อขายเพิ่มขึ้น 448% จากหุ้นที่เข้าซื้อขาย 52 ล้านหุ้น เพิ่มขึ้นเป็น 304 ล้านหุ้น 2.บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน)หรือ COLOR ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 121.45% จากราคาจอง 2.89 บาทต่อหุ้น ปิดที่ 6.40 บาทต่อหุ้น ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 440% จากหุ้นที่เข้าซื้อขาย 30 ล้านหุ้น เพิ่มเป็น 162 ล้านหุ้น 3. บริษัท วินเทจ วิศวกรรม จำกัด (มหาชน)หรือ VTE ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 118.75% จากราคาจอง 1.60 บาทต่อหุ้นเพิ่มเป็น 3.50 บาทต่อหุ้น ปริมาณหุ้นเข้าซื้อขาย เพิ่มขึ้น 185% จาก20 ล้านหุ้น เป็น 57 ล้านหุ้น 4.บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)LHBANK ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 27% จากราคาจอง 1.40 บาทต่อหุ้น เป็น 1.79 บาทต่อหุ้น ปริมาณหุ้นเพิ่มขึ้น 42% จาก 1,443 ล้านหุ้นเป็น 2049 ล้านหุ้น 5.บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ KBS ราคหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.20% จากราคาจอง 9.10 บาทต่อหุ้น เป็น 9.30 บาทต่อหุ้น ขณะที่ปริมาณการซื้อขายหุ้นเพียง 142 ล้านหุ้น จากจำนวนหุ้นที่เข้าซื้อขาย 150 ล้านหุ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น