นายซือ จิน ผู้จัดการทั่วไป ธนาคารแห่งประเทศจีน(Bank of China) สาขากรุงเทพฯ เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต "Great Wall" ซึ่งป็นบัตรเดบิตใบแรกในประเทศไทยที่สามารถใช้เงินได้ทั้ง 2 สกุล คือทั้งสกุลเงินไทยและเงินหยวน รวมทั้งสามารถถอนเงินสด-ใช้เพื่อการจับจ่ายได้รวมสูงสุดถึงวันละหนึ่งแสนบาท โดยสามารถใช้ได้กับธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก หรือตู้เอทีเอ็มที่มีเครื่องหมาย union pay
ทั้งนี้ บัตร "Great Wall" นี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับ กลุ่มลูกค้านักธุรกิจ นักเรียน นักศึกษา นักท่องเที่ยว รวมถึงลูกค้าที่ต้องการเดินทางไปมาระหว่างประเทศจีนและประเทศไทย ซึ่งนอกจากลูกค้าจะสามารถใช้บัตรเดบิต "Great Wall"แทนเงินสดในการจับจ่ายใช้สอย และเบิกเงินสดแล้ว ข้อดีของบัตรนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของทั้งสองสกุลเงินอีกด้วย
"ปัจจุบันปริมาณการทำธุรกิจระหว่างประเทศจีนกับไทยมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อว่าบัตรเดบิต "Great Wall" จะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ดำเนินธุรกิจ รวมทั้งนักศึกษา และนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทยกับจีนได้ โดยธนาคารได้ตั้งเป้าหมายจำนวนบัตรดังกล่าวไว้ที่ 3-4 หมื่นใบ"
นายซือ จินกล่าวอีกว่า สำหรับแผนงานในอนาคตของธนาคารนั้น มีความมุ่งหวังในการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างครบวงจร โดยธนาคารมีแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มในประเทศไทยอีก 2 แห่งในปีนี้ พร้อมกันนั้นก็จะเตรียมพร้อมในการให้การบริการบัตรเครดิต และบริหารสินทรัพย์ รวมถึงด้าน Internet Banking ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)
ทั้งนี้ บัตร "Great Wall" นี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับ กลุ่มลูกค้านักธุรกิจ นักเรียน นักศึกษา นักท่องเที่ยว รวมถึงลูกค้าที่ต้องการเดินทางไปมาระหว่างประเทศจีนและประเทศไทย ซึ่งนอกจากลูกค้าจะสามารถใช้บัตรเดบิต "Great Wall"แทนเงินสดในการจับจ่ายใช้สอย และเบิกเงินสดแล้ว ข้อดีของบัตรนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของทั้งสองสกุลเงินอีกด้วย
"ปัจจุบันปริมาณการทำธุรกิจระหว่างประเทศจีนกับไทยมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อว่าบัตรเดบิต "Great Wall" จะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ดำเนินธุรกิจ รวมทั้งนักศึกษา และนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทยกับจีนได้ โดยธนาคารได้ตั้งเป้าหมายจำนวนบัตรดังกล่าวไว้ที่ 3-4 หมื่นใบ"
นายซือ จินกล่าวอีกว่า สำหรับแผนงานในอนาคตของธนาคารนั้น มีความมุ่งหวังในการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างครบวงจร โดยธนาคารมีแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มในประเทศไทยอีก 2 แห่งในปีนี้ พร้อมกันนั้นก็จะเตรียมพร้อมในการให้การบริการบัตรเครดิต และบริหารสินทรัพย์ รวมถึงด้าน Internet Banking ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)
