จะรักหรือชอบรัฐบาลใหม่ภายใต้กลุ่มอำนาจของพรรคเพื่อไทยผสมกับกลุ่มพลังเสื้อแดงหรือไม่ก็ตาม คนบนแผ่นดินนี้ต้องพร้อมปรับสภาพกับความแปรเปลี่ยนในการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ค่านิยม ทัศนคติ แนวคิดด้านคุณธรรม การดำรงชีวิต
ตื่นเช้าต้องรับรู้ความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมือง กิจกรรมของว่าที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งกำลังดิ้นรนอย่างหนักเพื่อให้ประชาชนเชื่อว่าเธอเป็นผู้นำรัฐบาลตัวจริง ไม่ใช่ตัวแทนหุ่นเชิดของพี่ชายเหลี่ยมร้าย คนหนีคุกซุกตัวอยู่ดูไบ
นี่เป็นสภาพความจริงที่เธอต้องยอมรับ แต่ละวันต้องทนมองด้วยความกล้ำกลืนฝืนทน เมื่อเห็นกลุ่มก๊วนการเมืองยกขบวนไปดูไบ ฮ่องกง เธอต้องพูดย้ำซ้ำซาก ว่าพวกนั้นเดินทางไปด้วยเรื่องส่วนตัว เป็นจริงตามนั้นแน่นอน
ถูกต้อง! พวกกลุ่มก๊วนรวมทั้งขาใหญ่แต่สั้นจากพรรคเตี้ยไปพบปะต่อรองเหลี่ยมร้ายด้วยเรื่องส่วนตัว เพราะจิตสำนึก เป้าหมายของนักลงทุนซื้อเสียงทางการเมืองไม่เคยคำนึงถึงเรื่องผลประโยชน์ส่วนรวม เรื่องชาติ บ้านเมือง
เรื่องส่วนตัวที่ “เจ๊ปู” “น้องปู” หรือ “คุณปู” เอ่ยถึงนั้น ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวทั่วไป เช่น อาการร้อนเงิน อยากปรึกษาเรื่องวันบวช แต่งงาน หรือวันโกนจุก พ่อตา ปัญหาหย่าร้าง กิ๊กงอน แต่เกี่ยวโยงการแบ่งสันปันส่วนทรัพย์สินแผ่นดิน
การต่อรองในดูไบ ฮ่องกง หรือผ่านโทรศัพท์ แน่ๆ เห็นได้ชัดว่าหลังจากประชุมนัดแรกกับแกนนำพรรคเรื่องนโยบายเศรษฐกิจแล้ว กิจกรรมต่างๆ ของว่าที่นายกฯ จำกัดเพียงการสร้างข่าว เช่น พาลูกไปกินพิซซ่า จ่ายตลาด ชมฟุตบอล
สื่อไม่บอกว่าทำไมสามีไม่ไป เธอไปตลาด อตก. ชมฟุตบอลกี่ครั้งในชีวิต!
ช่วงนี้ เธอไม่ต้องใช้สมองคิดมาก กิจกรรมสังคมทำให้เธอลืมความขมขื่นของสภาพความจริงชั่วคราว ว่าเธอไม่ใช่ตัวจริง! ไม่อย่างนั้นพวกว่าที่ ส.ส.ในพรรคและพรรคร่วมตั้งรัฐบาล พวกเสื้อแดงจะขอต่อรองกับพี่เหลี่ยมร้ายทำไม
ไม่มีข่าวแกนนำ หัวหน้ากลุ่มก๊วนเข้าคิว รอเจรจาโควตากับเธอ!
วันประชุมแกนนำพรรคเพื่อถกปัญหาเศรษฐกิจ ทุกคนยอมรับฟังด้วยความนิ่ง ในใจคิดอย่างไรก็สุดแล้วแต่! เธอรู้จัก จำชื่อ นามสกุลได้หมดหรือยังก็ไม่รู้
สิ่งที่เดาไม่พลาดคือทุกคนไม่ต้องการขัดอารมณ์ของเธอ ด้วยเหตุที่ว่า “เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ” น้องสาวร่วมท้องย่อมฟ้อง วีนแตก มีน้ำหนักกว่าคนอื่น
“เอาเถอะ! ถ้าเธออยากให้เราคิด หรือยอมรับว่าเธอเป็นตัวจริง เราก็ทำให้เธอเห็นว่าเราเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นโดยสนิทใจ! เรื่องอะไรจะไปทำให้เธอเคือง”
คงเป็นความคิดในแนวนี้! ถ้าทำเป็นซ่า ไม่ยอมรับการเป็นผู้นำเทียมของเธอ ย่อมทำให้เธอรู้สึกถูกหยามหน้า ตามมาด้วยความแค้น ชิงชัง! แน่นอน! ความอาฆาตพยาบาทของเหลี่ยมร้ายย่อมไม่แตกต่างจากคนสายเลือดเดียวกัน
อย่าลืม นี่เป็นดีเอ็นเอโคลนนิ่ง สายเลือด ก๊อบปี้เดียวกัน! และเป็น “ทักษินอมินี รุ่น 3” ถัดจาก “เสี่ยหมัก” ผู้วายชนม์ และ “เสี่ยชาย ตู้เย็น” ผู้เป็นพี่เขยและพี่เลี้ยงในงานติวเข้ม ให้เธอพร้อมเป็นผู้นำและทำใจเป็นนอมินีด้วย!
แต่ “ชาย ตู้เย็น” ขาดประสบการณ์ คือ สภาพภายในทำเนียบรัฐบาล ไม่รู้ว่าบรรยากาศในห้องประชุมคณะรัฐมนตรี เป็นอย่างไร โต๊ะ เก้าอี้ ตั้งจุดไหนของห้อง
ถ้าจะให้เล่าโครงสร้าง เส้นทางเดินในอาคารสนามบินดอนเมือง หลับตาเดินได้ไม่ชนเสา คงพูดได้ฉอดๆ คล่องยิ่งกว่าการต่อรองซื้อตู้เย็นแน่ๆ
เส้นทางการไปสู่เก้าอี้นายกฯ ของเธอราบรื่น สดสวย ง่ายเหมือนปูด้วยกลีบกุหลาบที่เธอรับตลอดเวลาของการหาเสียง ไม่ต้องถกเถียง ถูกประเมินสติปัญญา ความรู้ ความสามารถ บนเวทีดีเบต เหมือนผู้นำ หรือตัวแทนพรรคอื่นๆ
เธอย่อมอ้างได้ว่า เธอเดินตามรอยพี่เหลี่ยมร้าย และ “เสี่ยหมัก” ซึ่งไม่นิยมการถกเถียง ซักไซ้ แต่ชอบยึดไมค์ ผูกขาดเวที จ้อเดี่ยว ไม่มีใครไล่บี้ถามมากกว่า
ปัญหาหลักของเธอ คือ การให้ตัวเองเชื่อว่าเธอเป็น “ตัวจริง” นั่นแหละ! แค่นี้ก็ยังยาก เว้นแต่ว่าเธอไม่ฉลาด หรือกล้าพอที่จะยอมรับสภาพความเป็นจริง!
อ่า! คนในพรรค นักต่อรองผลประโยชน์จากพรรคอื่นเริ่มเห็นอาการ “วีน” น้อยๆ เมื่อเธอเน้นเสียงตอบคำถามสื่อว่าการเฟ้นตัวรัฐมนตรีนั้นทำในประเทศไทย มีเธอเป็นคนตัดสินใจเท่านั้น ไม่ใช่ดูไบ ฮ่องกง! โผสุดท้ายมาจากไหน เธอไม่บอก
จะมีอะไรขมขื่นเท่ากับการไม่ได้รับการยอมรับจากลูกพรรค? อันที่จริง เธอไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่นามสกุล “ชินวัตร” เธอจะมีวันนี้หรือ! ถ้าเธอใช้นามสกุล “อมรฉัตร” ตามสามีไม่จดทะเบียนสมรส จะมีใครรู้จัก หรือยอมรับ
ความพยายามจะเป็นตัวตนที่ไม่ใช่ตัวเอง ทำให้เธอเป็นศัตรูร้ายของตัวเธอ! ภาพที่เห็น คือการใช้ชีวิตง่ายๆ แสดงว่ามีคนจัดการตั้งรัฐบาลให้ ไม่ต้องเครียด
นอกจากคนในพรรค ภาคการเมือง ยังมีแกนนำเสื้อแดงส่งเสียงขู่ ทวงบุญคุณ พวกแดงเดนคุกและสมุนร้ายไม่ได้มุ่งที่ตัวเธอในการต่อรอง แต่เป็นมุ่งตรงไปดูไบ ให้รู้ว่าเสื้อแดงต้องมีเก้าอี้รัฐมนตรี เท่ากับทดสอบความเป็นผู้นำของเธอ
สมุนปลายแถวเสื้อแดงเริ่มแข่งกันสร้างราคาต่อรองแล้ว กร่างถึงขั้นให้แยกเป็นพรรคเพื่อไทย และพรรคเสื้อแดงว่าฝ่ายใดจะได้รับความนิยมมากกว่ากัน
พิสูจน์ความเป็น “ของจริง” ให้พวกนี้ยอมรับก็หืดจับแล้ว! จริงมั้ยนิ! อิอิอิ!!!
ตื่นเช้าต้องรับรู้ความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมือง กิจกรรมของว่าที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งกำลังดิ้นรนอย่างหนักเพื่อให้ประชาชนเชื่อว่าเธอเป็นผู้นำรัฐบาลตัวจริง ไม่ใช่ตัวแทนหุ่นเชิดของพี่ชายเหลี่ยมร้าย คนหนีคุกซุกตัวอยู่ดูไบ
นี่เป็นสภาพความจริงที่เธอต้องยอมรับ แต่ละวันต้องทนมองด้วยความกล้ำกลืนฝืนทน เมื่อเห็นกลุ่มก๊วนการเมืองยกขบวนไปดูไบ ฮ่องกง เธอต้องพูดย้ำซ้ำซาก ว่าพวกนั้นเดินทางไปด้วยเรื่องส่วนตัว เป็นจริงตามนั้นแน่นอน
ถูกต้อง! พวกกลุ่มก๊วนรวมทั้งขาใหญ่แต่สั้นจากพรรคเตี้ยไปพบปะต่อรองเหลี่ยมร้ายด้วยเรื่องส่วนตัว เพราะจิตสำนึก เป้าหมายของนักลงทุนซื้อเสียงทางการเมืองไม่เคยคำนึงถึงเรื่องผลประโยชน์ส่วนรวม เรื่องชาติ บ้านเมือง
เรื่องส่วนตัวที่ “เจ๊ปู” “น้องปู” หรือ “คุณปู” เอ่ยถึงนั้น ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวทั่วไป เช่น อาการร้อนเงิน อยากปรึกษาเรื่องวันบวช แต่งงาน หรือวันโกนจุก พ่อตา ปัญหาหย่าร้าง กิ๊กงอน แต่เกี่ยวโยงการแบ่งสันปันส่วนทรัพย์สินแผ่นดิน
การต่อรองในดูไบ ฮ่องกง หรือผ่านโทรศัพท์ แน่ๆ เห็นได้ชัดว่าหลังจากประชุมนัดแรกกับแกนนำพรรคเรื่องนโยบายเศรษฐกิจแล้ว กิจกรรมต่างๆ ของว่าที่นายกฯ จำกัดเพียงการสร้างข่าว เช่น พาลูกไปกินพิซซ่า จ่ายตลาด ชมฟุตบอล
สื่อไม่บอกว่าทำไมสามีไม่ไป เธอไปตลาด อตก. ชมฟุตบอลกี่ครั้งในชีวิต!
ช่วงนี้ เธอไม่ต้องใช้สมองคิดมาก กิจกรรมสังคมทำให้เธอลืมความขมขื่นของสภาพความจริงชั่วคราว ว่าเธอไม่ใช่ตัวจริง! ไม่อย่างนั้นพวกว่าที่ ส.ส.ในพรรคและพรรคร่วมตั้งรัฐบาล พวกเสื้อแดงจะขอต่อรองกับพี่เหลี่ยมร้ายทำไม
ไม่มีข่าวแกนนำ หัวหน้ากลุ่มก๊วนเข้าคิว รอเจรจาโควตากับเธอ!
วันประชุมแกนนำพรรคเพื่อถกปัญหาเศรษฐกิจ ทุกคนยอมรับฟังด้วยความนิ่ง ในใจคิดอย่างไรก็สุดแล้วแต่! เธอรู้จัก จำชื่อ นามสกุลได้หมดหรือยังก็ไม่รู้
สิ่งที่เดาไม่พลาดคือทุกคนไม่ต้องการขัดอารมณ์ของเธอ ด้วยเหตุที่ว่า “เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ” น้องสาวร่วมท้องย่อมฟ้อง วีนแตก มีน้ำหนักกว่าคนอื่น
“เอาเถอะ! ถ้าเธออยากให้เราคิด หรือยอมรับว่าเธอเป็นตัวจริง เราก็ทำให้เธอเห็นว่าเราเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นโดยสนิทใจ! เรื่องอะไรจะไปทำให้เธอเคือง”
คงเป็นความคิดในแนวนี้! ถ้าทำเป็นซ่า ไม่ยอมรับการเป็นผู้นำเทียมของเธอ ย่อมทำให้เธอรู้สึกถูกหยามหน้า ตามมาด้วยความแค้น ชิงชัง! แน่นอน! ความอาฆาตพยาบาทของเหลี่ยมร้ายย่อมไม่แตกต่างจากคนสายเลือดเดียวกัน
อย่าลืม นี่เป็นดีเอ็นเอโคลนนิ่ง สายเลือด ก๊อบปี้เดียวกัน! และเป็น “ทักษินอมินี รุ่น 3” ถัดจาก “เสี่ยหมัก” ผู้วายชนม์ และ “เสี่ยชาย ตู้เย็น” ผู้เป็นพี่เขยและพี่เลี้ยงในงานติวเข้ม ให้เธอพร้อมเป็นผู้นำและทำใจเป็นนอมินีด้วย!
แต่ “ชาย ตู้เย็น” ขาดประสบการณ์ คือ สภาพภายในทำเนียบรัฐบาล ไม่รู้ว่าบรรยากาศในห้องประชุมคณะรัฐมนตรี เป็นอย่างไร โต๊ะ เก้าอี้ ตั้งจุดไหนของห้อง
ถ้าจะให้เล่าโครงสร้าง เส้นทางเดินในอาคารสนามบินดอนเมือง หลับตาเดินได้ไม่ชนเสา คงพูดได้ฉอดๆ คล่องยิ่งกว่าการต่อรองซื้อตู้เย็นแน่ๆ
เส้นทางการไปสู่เก้าอี้นายกฯ ของเธอราบรื่น สดสวย ง่ายเหมือนปูด้วยกลีบกุหลาบที่เธอรับตลอดเวลาของการหาเสียง ไม่ต้องถกเถียง ถูกประเมินสติปัญญา ความรู้ ความสามารถ บนเวทีดีเบต เหมือนผู้นำ หรือตัวแทนพรรคอื่นๆ
เธอย่อมอ้างได้ว่า เธอเดินตามรอยพี่เหลี่ยมร้าย และ “เสี่ยหมัก” ซึ่งไม่นิยมการถกเถียง ซักไซ้ แต่ชอบยึดไมค์ ผูกขาดเวที จ้อเดี่ยว ไม่มีใครไล่บี้ถามมากกว่า
ปัญหาหลักของเธอ คือ การให้ตัวเองเชื่อว่าเธอเป็น “ตัวจริง” นั่นแหละ! แค่นี้ก็ยังยาก เว้นแต่ว่าเธอไม่ฉลาด หรือกล้าพอที่จะยอมรับสภาพความเป็นจริง!
อ่า! คนในพรรค นักต่อรองผลประโยชน์จากพรรคอื่นเริ่มเห็นอาการ “วีน” น้อยๆ เมื่อเธอเน้นเสียงตอบคำถามสื่อว่าการเฟ้นตัวรัฐมนตรีนั้นทำในประเทศไทย มีเธอเป็นคนตัดสินใจเท่านั้น ไม่ใช่ดูไบ ฮ่องกง! โผสุดท้ายมาจากไหน เธอไม่บอก
จะมีอะไรขมขื่นเท่ากับการไม่ได้รับการยอมรับจากลูกพรรค? อันที่จริง เธอไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่นามสกุล “ชินวัตร” เธอจะมีวันนี้หรือ! ถ้าเธอใช้นามสกุล “อมรฉัตร” ตามสามีไม่จดทะเบียนสมรส จะมีใครรู้จัก หรือยอมรับ
ความพยายามจะเป็นตัวตนที่ไม่ใช่ตัวเอง ทำให้เธอเป็นศัตรูร้ายของตัวเธอ! ภาพที่เห็น คือการใช้ชีวิตง่ายๆ แสดงว่ามีคนจัดการตั้งรัฐบาลให้ ไม่ต้องเครียด
นอกจากคนในพรรค ภาคการเมือง ยังมีแกนนำเสื้อแดงส่งเสียงขู่ ทวงบุญคุณ พวกแดงเดนคุกและสมุนร้ายไม่ได้มุ่งที่ตัวเธอในการต่อรอง แต่เป็นมุ่งตรงไปดูไบ ให้รู้ว่าเสื้อแดงต้องมีเก้าอี้รัฐมนตรี เท่ากับทดสอบความเป็นผู้นำของเธอ
สมุนปลายแถวเสื้อแดงเริ่มแข่งกันสร้างราคาต่อรองแล้ว กร่างถึงขั้นให้แยกเป็นพรรคเพื่อไทย และพรรคเสื้อแดงว่าฝ่ายใดจะได้รับความนิยมมากกว่ากัน
พิสูจน์ความเป็น “ของจริง” ให้พวกนี้ยอมรับก็หืดจับแล้ว! จริงมั้ยนิ! อิอิอิ!!!