ASTVผู้ จัดการรายวัน - ตลาดหลักทรัพย์ฯเผย การเมืองไทยชัดเจนส่งผลนักลงทุนต่างประเทศหันกลับมาพิจารณาลงทุนจากปัจจัย พื้นฐานตลาดหุ้นไทย -มั่นใจเข้าลงทุน "จรัมพร"เม็ดเงินต่างชาติสนใจลงทุน หุ้นปันผลสูง สบจังหวะนำกองทุนอีทีเอฟหุ้นปันผลสูงเข้าจดทะเบียน 16 ส.ค.นี้ ดึงดูดเม็ดเงิน พร้อมหวังผลโรดโชว์ฝรั่งเข้ามาลงทุนมากขึ้นเหตุเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจ มากกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ
นาย จรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า จากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์)แก่นักลงทุนต่างประเทศ ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งพบผู้บริหารกองทุนจำนวนประมาณ 50 ราย และที่สิงคโปร์ ประมาณ 100 ราย ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนักลงทุนต่างประเทศมีความมั่นใจในการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองหมดไปจากที่พรรคที่ได้รับจัดตั้งรัฐบาล นั้นมีเสียงข้างมากที่ชัดเจน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ยอมรับผลการเลือกตั้ง โดย จากกที่ปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองหมดไปทำให้นักลงทุนต่างประเทศหันมา ให้ความสนใจทางด้านปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ในเรื่องของกำไรบจ. เงินปันผล ฯลฯ จากอดีตที่ไม่ได้ให้ความสนใจ
ทั้งนี้ประกอบกับตลาดหุ้นไทยมีสภาพคล่องการซื้อขายที่สูงเป็นอับดับ 1 ในอาเซียน เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ จากในอดีตที่ไทยจะมีสภาพคล่องต่ำกว่าตลาดหุ้นที่มีสภาพคล่องอันดับ1 ถึง 40% ซึ่งถือว่าตลาดหุ้นไทยมีการพัฒนาที่ก้าวหน้ามากขึ้น มีการออกสินค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้น เช่น การเปิดซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอ้างอิงโลหะเงิน (ซิลเวอร์ฟิวเจอร์) กองทุนอีทีเอฟ ซึ่งเป็นที่สนใจของนักลงทุนทั่วโลก ซึ่งในวันที่ 16 สิงหาคม นั้นจะมีกองทุนอีทีเอฟหุ้นปันผลสูง ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)วรรณ เป็นผู้บริหาร จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯซึ่งสอดคล้องกับความสนใจของนักลงทุนต่าง ประเทศขณะนี้ที่จะเน้นลงทุนในหุ้นที่ปันผลสูง ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินลงทุนไปลเข้ามาลงทุน
สำหรับ การที่ตลาดหุ้นไทยมีการเชื่อมโยงกับตลาดหุ้นอาเซียนนั้น นักลงทุนต่างประเทศมองว่าเป็นกลยุทธที่ดีและถูกทางที่เป็นการดึงดูดเม็ดเงิน ลงทุนต่างประเทศจากที่เป็นกลุ่มตลาดหุ้นขนาดใหญ่อันดับที่9 ของโลก ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานั้นเม็ดเงินลงทุนต่างประเทศไหลเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ใน สหรัฐอเมริกาจำนวนใก ทำให้ราคาสูงมาก ซึ่งมีนักวิเคราะห์มองว่าเม็ดเงินจะไหลกลับเข้าไปลงทุนในหุ้น ที่ให้ผลตอบแทนที่ดี
"เรื่อง ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯนำไปให้ข้อมูลแก่นักลงทุนต่างประเทศ เรื่องตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจไทยสภาพคล่องการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย ความสามารถในการทำกำไร ซึ่งพาบจ.ไทยไปจำนวน 23 บริษัท ซึ่งนักลงทุนต่างประเทศก็แปลกใจว่าตลาดหุ้นไทยมีวอลุ่มการซื้อขายที่เพิ่ม สูงมากถึงขนาดนี้เลยหรือ ซึ่งการเดินทางไปโรดโชว์ครั้งนี้ก็จะไปที่"กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษเมืองเอดินเบอระ สก๊อตแลนด์ กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ และเมืองมิลาน อิตาลี และสิงคโปร์ โดยตนไปที่อังกฤษและสิงคโปร์ ซึ่งเดินทางกลับประเทศไทยก่อน "นายจรัมพร กล่าว
นาย จรัมพร กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์คาดหวังการไปโรดโชว์ต่างประเทศว่านักลงทุนต่างประเทศจะมีการ พิจารณาในการเข้ามาลงทุนในบริษัทจดทะเบียนไทย เพราะ บริษัทจดทะเบียนไทยมีความน่าใจในการเข้ามาลงทุนมากขึ้นกว่าเดิม และถือว่าน่าลงทุนมากกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ จากที่ตัวเลขต่างๆไม่ว่าเศรษฐกิจไทย ผลตอบแทนการลงทุนของตลาดหุ้นไทยอยู่ในอันดับที่ 1 ในเอเซียแปซิฟิก ขณะที่ในเอเซียตลาดหุ้นไทยมีผลตอบแทนอยู่ในระดับกลางๆ
นอกจากนี้ ในวันที่ 11 กรกฎาคม ตลาดหลักทรัพย์ฯ และบล. ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) นำบริษัทจดทะเบียน 9 ราย
ร่วมงาน SET/CIMB Malaysia Roadshow ณ ประเทศมาเลเซีย ตามแผนขยายฐานผู้ลงทุนในศูนย์กลางการเงินใหม่ที่มีศักยภาพการลงทุนซึ่งที่ผ่านมามีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น
นาย จรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า จากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์)แก่นักลงทุนต่างประเทศ ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งพบผู้บริหารกองทุนจำนวนประมาณ 50 ราย และที่สิงคโปร์ ประมาณ 100 ราย ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนักลงทุนต่างประเทศมีความมั่นใจในการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองหมดไปจากที่พรรคที่ได้รับจัดตั้งรัฐบาล นั้นมีเสียงข้างมากที่ชัดเจน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ยอมรับผลการเลือกตั้ง โดย จากกที่ปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองหมดไปทำให้นักลงทุนต่างประเทศหันมา ให้ความสนใจทางด้านปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ในเรื่องของกำไรบจ. เงินปันผล ฯลฯ จากอดีตที่ไม่ได้ให้ความสนใจ
ทั้งนี้ประกอบกับตลาดหุ้นไทยมีสภาพคล่องการซื้อขายที่สูงเป็นอับดับ 1 ในอาเซียน เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ จากในอดีตที่ไทยจะมีสภาพคล่องต่ำกว่าตลาดหุ้นที่มีสภาพคล่องอันดับ1 ถึง 40% ซึ่งถือว่าตลาดหุ้นไทยมีการพัฒนาที่ก้าวหน้ามากขึ้น มีการออกสินค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้น เช่น การเปิดซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอ้างอิงโลหะเงิน (ซิลเวอร์ฟิวเจอร์) กองทุนอีทีเอฟ ซึ่งเป็นที่สนใจของนักลงทุนทั่วโลก ซึ่งในวันที่ 16 สิงหาคม นั้นจะมีกองทุนอีทีเอฟหุ้นปันผลสูง ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)วรรณ เป็นผู้บริหาร จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯซึ่งสอดคล้องกับความสนใจของนักลงทุนต่าง ประเทศขณะนี้ที่จะเน้นลงทุนในหุ้นที่ปันผลสูง ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินลงทุนไปลเข้ามาลงทุน
สำหรับ การที่ตลาดหุ้นไทยมีการเชื่อมโยงกับตลาดหุ้นอาเซียนนั้น นักลงทุนต่างประเทศมองว่าเป็นกลยุทธที่ดีและถูกทางที่เป็นการดึงดูดเม็ดเงิน ลงทุนต่างประเทศจากที่เป็นกลุ่มตลาดหุ้นขนาดใหญ่อันดับที่9 ของโลก ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานั้นเม็ดเงินลงทุนต่างประเทศไหลเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ใน สหรัฐอเมริกาจำนวนใก ทำให้ราคาสูงมาก ซึ่งมีนักวิเคราะห์มองว่าเม็ดเงินจะไหลกลับเข้าไปลงทุนในหุ้น ที่ให้ผลตอบแทนที่ดี
"เรื่อง ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯนำไปให้ข้อมูลแก่นักลงทุนต่างประเทศ เรื่องตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจไทยสภาพคล่องการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย ความสามารถในการทำกำไร ซึ่งพาบจ.ไทยไปจำนวน 23 บริษัท ซึ่งนักลงทุนต่างประเทศก็แปลกใจว่าตลาดหุ้นไทยมีวอลุ่มการซื้อขายที่เพิ่ม สูงมากถึงขนาดนี้เลยหรือ ซึ่งการเดินทางไปโรดโชว์ครั้งนี้ก็จะไปที่"กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษเมืองเอดินเบอระ สก๊อตแลนด์ กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ และเมืองมิลาน อิตาลี และสิงคโปร์ โดยตนไปที่อังกฤษและสิงคโปร์ ซึ่งเดินทางกลับประเทศไทยก่อน "นายจรัมพร กล่าว
นาย จรัมพร กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์คาดหวังการไปโรดโชว์ต่างประเทศว่านักลงทุนต่างประเทศจะมีการ พิจารณาในการเข้ามาลงทุนในบริษัทจดทะเบียนไทย เพราะ บริษัทจดทะเบียนไทยมีความน่าใจในการเข้ามาลงทุนมากขึ้นกว่าเดิม และถือว่าน่าลงทุนมากกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ จากที่ตัวเลขต่างๆไม่ว่าเศรษฐกิจไทย ผลตอบแทนการลงทุนของตลาดหุ้นไทยอยู่ในอันดับที่ 1 ในเอเซียแปซิฟิก ขณะที่ในเอเซียตลาดหุ้นไทยมีผลตอบแทนอยู่ในระดับกลางๆ
นอกจากนี้ ในวันที่ 11 กรกฎาคม ตลาดหลักทรัพย์ฯ และบล. ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) นำบริษัทจดทะเบียน 9 ราย
ร่วมงาน SET/CIMB Malaysia Roadshow ณ ประเทศมาเลเซีย ตามแผนขยายฐานผู้ลงทุนในศูนย์กลางการเงินใหม่ที่มีศักยภาพการลงทุนซึ่งที่ผ่านมามีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น