ASTVผู้จัดการรายวัน-กกต.ประกาศผลคะแนนเลือกตั้งส.ส. ปี 54อย่างเป็นทางการ ชี้บัตรเสียในการเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเทียบปี 50 นั้นลดลง “เพือไทย”เสียงหนุน 13 ล้าน-ปชป.11ล้านเสียง ส่วน กกต.โคราชรับเรื่องยื่นตรวจสอบ“ยิ่งลักษณ์” ผัดหมี่โคราช ผิดกฏหมายเลือกตั้งหรือไม่
วานนี้ (5 ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. แถลงสรุปข้อมูลเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งส.ส.เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 54 อย่างเป็นทางการ ว่า การลงคะแนนเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 35,203,107 คน คิดเป็น 75.03 %จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 46,921,682 คน มีบัตรเสีย 1,726,051 ใบ คิดเป็น 4.9 %บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนมีจำนวน 958,052 ใบ คิดเป็น 2.72 % สำหรับการลงคะแนนเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 35,119,885 คน คิดเป็น 74.85 %มีบัตรเสีย 2,039,694 ใบ คิดเป็น 5.79 %บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 1,419,088 คิดเป็น 4.03 %
สำหรับบัตรเสียในการเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อครั้งนี้ เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งเมื่อปี 50 นั้นพบว่ามีจำนวนลดลง โดยปี50 อยู่ที่ 5.56% และบัตรเสียการเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งเมื่อเทียบกับปี 50 พบว่ามีจำนวนมากขึ้น ซึ่งปี 50 อยู่ที่ 2.56% ส่วนบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนแบบแบ่งเขตเมื่อเทียบกับปี50 ถือว่าลดลง เพราะปี 50 อยู่ที่4.58 % และบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนแบบบัญชีรายชื่อเมื่อเทียบกับปี 50 ถือว่าลดลงเช่นกัน โดยปี 50 อยู่ที่ 2.85%
นายสุทธิพล กล่าวต่อว่า จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งมากที่สุด 3 จังหวัด ได้แก่ จ.ลำพูน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง88.61% รองลงมาคือ จ.เชียงใหม่ 83.13 % จ.ตรัง 82.65 % สำหรับพรรคการเมืองที่มีผู้สมัครได้การเลือกตั้งดังนี้ พรรคเพื่อไทย 265 คน แบ่งเป็นส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 61 คน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 204 คน พรรคประชาธิปัตย์ 159 คน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 44 คน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง115 คน พรรคภูมิใจไทย 34 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ5 คน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 29 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 19 คน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 4 คน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 15 คน พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 7 คน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 2คน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 5 คน พรรคพลังชล 7 คน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 1 คน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 6 คน พรรครักประเทศไทย ได้รับเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 4 คน พรรคมาตุภูมิ 2 คน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 1 คน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 1 คน พรรครักษ์สันติ พรรคมหาชน และพรรคประชาธิปไตยใหม่ ได้รับเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคละ 1 คน
ทั้งนี้หากไม่มีการร้องเรียนผู้สมัครกกต.สามารถประกาศรับรองผู้สมัครที่ได้รับการเลือกตั้งได้ภายใน 7 วัน คือในวันที่ 12 ก.ค. ที่จะมีการเสนอให้กกต.พิจารณารับรอง แต่ถ้ามีเรื่องร้องคัดค้านกกต.ดำเนินการสืบสวนสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน คือวันที่ 2 ส.ค. หลังจากนั้นกกต.จะให้การรับรองผู้สมัครที่ได้รับการเลือกตั้งไปก่อนแต่การสืบสวนสอบสวนยังดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตามขณะนี้มีการคัดค้านทั้งผู้สมัครส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้งและไม่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา 207 เรื่อง
**หนุนพท. 15 ล้าน-ปชป. 11 ล้าน
ด้านนายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า พรรคที่ได้รับเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมากที่สุดคือ พรรคเพื่อไทย 15,744,190 คะแนน รองลงมาคือพรรคประชาธิปัตย์ 11,433,501 คะแนน พรรคภูมิใจไทย 1,281,522คะแนน พรรครักประเทศไทย 998,527คะแนน พรรคชาติไทยพัฒนา 906,644 คะแนน พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 494,894 คะแนน พรรครักษ์สันติ 284,112 คะแนน พรรคมาตุภูมิ 251,581 คะแนน พรรคพลังชล 178,106 คะแนน พรรคมหาชน 133,767 คะแนน พรรคประชาธิปไตยใหม่ 125,781 คะแนน ทั้งนี้คะแนนที่นำมาหาค่าเฉลี่ยของส.ส.แบบบัญชีรายชื่อครั้งแรกอยู่ที่จำนวน 260,193 คะแนน ทำให้ได้ส.ส. 115 คน ส่วนอีก 10 คนที่เหลือ นำมาหาเฉลี่ยครั้งที่ 2 จึงได้ส.ส.อีก10 คน
รายงานข่าวแจ้งวว่า สำหรับพรรคการเมืองใหม่ ได้คะแนน ปาร์ตี้ลิตส์ 29,862 คะแนน ระบบเขต 2,631 คะแนน
**คาดประกาศรับรองส.ส.12 ก.ค.
นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 12 ก.ค. นี้ สำหรับผู้ได้รับการเลือกตั้งที่ไม่มีเรื่องร้องคัดค้าน ส่วนผู้ที่มีเรื่องร้องคัดค้าน ซึ่ง กกต.รับไว้ 190 เรื่อง จะเร่งสอบสวนให้เสร็จภายใน 30 วัน โดยพื้นที่ภาคอีสาน มีเรื่องร้องเรียนมากที่สุด
ทั้งนี้ ขอขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิจนทำให้การเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.มีผู้ออกมาใช้สิทธิมากที่สุดถึงร้อยละ 75 นับตั้งแต่มีการเลือกตั้งครั้งแรกของไทยปี 2476
**ยื่น“ยิ่งลักษณ์” ผัดหมี่โคราชผิดกม.
พอ.สันธิรัตน์ มหันธนชาติ ผอ.กกต.จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า พบว่ามีผู้ร้อง นำพยาน หลักฐาน จาก หนังสือพิมพ์ส่วนกลาง เสนอภาพ-ข่าว นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ผัดหมี่โคราชแจกชาวบ้าน ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ( ย่าโม ) ในระหว่างการลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร สส.เขต หาเสียง ซึ่งเป็นความผิด มาตรา 53 ห้ามมิให้ผู้สมัคร หรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงให้ตนเอง หรือผู้สมัครอื่น หรือพรรคการเมืองโดยเป็น พฤติการณ์จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ และ 4. ผู้นำชุมชน ในเขตเลือกตั้งที่ 9 เก็บบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อเตรียมการซื้อเสียง
นอกจากนี้ยังมีอีก 7 เรื่อง ซึ่งเป็นผลการจับกุมของ จนท.ตำรวจ สภ.โนนไทย อ.โนนไทย นครราชสีมา จับกุมตัว นายทหาร จำนวน 3 นาย สังกัด กองทัพบก และ พลเรือน 1 คน ตระเวนข่มขู่ คุกคาม ผู้สนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม เกิดขึ้นต่างกรรม ต่างวาระ 5 ครั้ง คือ ที่ อ.โนนไทย อ.วังน้ำเขียว อ.ชุมพวง อ.ประทาย และ อ.ห้วยแถลง จนท.ชุดปราบปราม การกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
โดย พ.ต.ท แดนไพล แก้วเวหล สว.ภ.จ.นครราชสีมา หัวหน้าชุด ฯ ได้จับกุมหญิงคนหนึ่ง พร้อมเงินสด 1.5 พันบาท ที่ อ.ห้วยแถลง และ จนท.ตำรวจ สภ.สีดา อ.สีดา นครราชสีมา จับกุม ชายคนหนึ่ง พร้อมเงิน 4 แสนบาท ซึ่งทั้ง 7 เรื่อง เป็นความปรากฏ ยังไม่มีผู้ร้อง ขั้นตอนในขณะนี้ กกต.จังหวัด ได้รายงานข้อเท็จจริงไปยัง กกต.กลาง เพื่อขอให้สั่งการให้ดำเนินการสืบสวน สอบสวน ต่อไป อย่างไรก็ตาม เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด จะสามารถนำเข้าสู่สำนวนการพิจารณาโทษ เพื่อเข้าสู่กระบวนการร้องคัดค้าน หรือแจกใบเหลือง ใบแดง ต้องขึ้นอยู่กับพยาน หลักฐานที่ปรากฏ ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้
**กกต.กลางสั่งระนองดูบัตรไม่ตรง
ว่าที่ ร.ต.กมล วิภาดาพิสุทธิ์ ประธาน กกต.ระนอง กล่าวว่า ได้ประชุมตรวจสอบถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจนเป็นเหตุให้ จ.ระนอง ยังไม่มีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งจาก กกต.กลาง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นความผิดพลาดของ จนท.ผู้รับผิดชอบที่ไม่ได้รวบรวมข้อมูลจำนวนบัตรเลือกตั้งที่เหลือจากการเลือกตั้งนอกเขต และนอกราชอาณาจักร จำนวน 3,121 บัตร ซึ่งหากรวมกันทั้ง 2 กรณีก็จะมีจำนวนยอดบัตรที่เหลือรวม 47,716 ตรงกับข้อมูลของ กกต.กลาง โดยล่าสุดทาง จนท.ได้รีบเดินทางขึ้นไปยัง สนง.กกต.กลางที่ กทม.เพื่อชี้แจงข้อมูลที่ผิดพลาด เพื่อแก้ไขให้ถูกต้อง ซึ่งในขั้นตอนนี้ไม่สามารถดำเนินการทางโทรสารได้ จะต้องขึ้นไปชี้แจงที่ กกต.กลางเพียงอย่างเดียว โดยคาดว่าในอีก 1-2 วัน ทาง กกต.กลางน่าจะประกาศผลการรับรองการเลือกตั้งในเขตพื้นที่ จ.ระนองได้ .
**สภาฯคาดประชุมนัดแรก3ส.ค.
นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงขั้นตอนเตรียมการรายงานตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) รับรองผู้ที่ได้รับเลือกตั้งว่า หลังจากที่ประสานกับสำนักงานเลขาธิการกกต. เบื้องต้น กกต.จะประกาศรับรองส.ส.ส่วนหนึ่งได้ ช่วงกลางเดือน ก.ค.นี้ ดังนั้นทางสภาเตรียมจัดส่งเอกสารฝากถึงส.ส.ที่ได้รับการรับรอง ให้จัดเตรียมเอกสารและหลักฐานต่างๆที่จะเข้ารายงานตัวที่สภาฯ และเตรียมส่งเอกสารชุดเดียวกันไปยังพรรคการเมือง เพื่อแจ้งให้สมาชิกที่ได้รับเลือกตั้งทราบ
ส่วนการเตรียมความพร้อมด้านสถานที่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมสิ่งอำนวยความสะดวกของ ส.ส.ใหม่ อาทิ ข้อมูลการปฏิบัติหน้าที่ส.ส. ใบเบิกทางในการเดินทางโดยรถบขส. เครื่องบินและรถไฟ ตามสิทธิที่ได้รับ ระเบียบการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ต้องแจ้งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เป็นต้น
นายพิฑูร กล่าวถึงกระบวนการเปิดประชุมเพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฏรและรองประธานฯ ว่า ตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องประกอบรัฐพิธีเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฏร นัดแรกภายใน 30 วันหลังวันเลือกตั้ง หากนับตามกฎหมายคาดว่าจะเปิดสภาได้ไม่เกินวันที่ 3 ส.ค. โดยนายกรัฐมนตรีรักษาการต้องเป็นผู้เสนอร่างพระราชกฤษฏีกาเปิดสมัยประชุม ตามปกติที่ผ่านมาสามารถดำเนินการได้รวดเร็ว แต่ต้องดูที่จำนวนส.ส.ที่ได้รับการรับรองและองค์ประชุมด้วยว่าจะครบหรือไม่
"ทางสำนักงานเลขาฯได้ประสานใกล้ชิดกับพรรคการเมืองต่างๆ แล้ว เบื้องต้นในวันที่ 6 ก.ค.นี้ จะประชุมร่วมกับสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.) เพื่อกำหนดวันเวลาและขั้นตอนต่างๆ ส่วนขั้นตอนการเรียกประชุมสภาฯเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี จะเป็นหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานฯและรองประธานฯแล้ว โดยประธานสภาฯจะเป็นผู้สั่งเรียกประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไป" นายพิฑูร กล่าว
วานนี้ (5 ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. แถลงสรุปข้อมูลเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งส.ส.เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 54 อย่างเป็นทางการ ว่า การลงคะแนนเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 35,203,107 คน คิดเป็น 75.03 %จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 46,921,682 คน มีบัตรเสีย 1,726,051 ใบ คิดเป็น 4.9 %บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนมีจำนวน 958,052 ใบ คิดเป็น 2.72 % สำหรับการลงคะแนนเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 35,119,885 คน คิดเป็น 74.85 %มีบัตรเสีย 2,039,694 ใบ คิดเป็น 5.79 %บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 1,419,088 คิดเป็น 4.03 %
สำหรับบัตรเสียในการเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อครั้งนี้ เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งเมื่อปี 50 นั้นพบว่ามีจำนวนลดลง โดยปี50 อยู่ที่ 5.56% และบัตรเสียการเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งเมื่อเทียบกับปี 50 พบว่ามีจำนวนมากขึ้น ซึ่งปี 50 อยู่ที่ 2.56% ส่วนบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนแบบแบ่งเขตเมื่อเทียบกับปี50 ถือว่าลดลง เพราะปี 50 อยู่ที่4.58 % และบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนแบบบัญชีรายชื่อเมื่อเทียบกับปี 50 ถือว่าลดลงเช่นกัน โดยปี 50 อยู่ที่ 2.85%
นายสุทธิพล กล่าวต่อว่า จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งมากที่สุด 3 จังหวัด ได้แก่ จ.ลำพูน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง88.61% รองลงมาคือ จ.เชียงใหม่ 83.13 % จ.ตรัง 82.65 % สำหรับพรรคการเมืองที่มีผู้สมัครได้การเลือกตั้งดังนี้ พรรคเพื่อไทย 265 คน แบ่งเป็นส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 61 คน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 204 คน พรรคประชาธิปัตย์ 159 คน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 44 คน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง115 คน พรรคภูมิใจไทย 34 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ5 คน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 29 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 19 คน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 4 คน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 15 คน พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 7 คน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 2คน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 5 คน พรรคพลังชล 7 คน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 1 คน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 6 คน พรรครักประเทศไทย ได้รับเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 4 คน พรรคมาตุภูมิ 2 คน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 1 คน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 1 คน พรรครักษ์สันติ พรรคมหาชน และพรรคประชาธิปไตยใหม่ ได้รับเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคละ 1 คน
ทั้งนี้หากไม่มีการร้องเรียนผู้สมัครกกต.สามารถประกาศรับรองผู้สมัครที่ได้รับการเลือกตั้งได้ภายใน 7 วัน คือในวันที่ 12 ก.ค. ที่จะมีการเสนอให้กกต.พิจารณารับรอง แต่ถ้ามีเรื่องร้องคัดค้านกกต.ดำเนินการสืบสวนสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน คือวันที่ 2 ส.ค. หลังจากนั้นกกต.จะให้การรับรองผู้สมัครที่ได้รับการเลือกตั้งไปก่อนแต่การสืบสวนสอบสวนยังดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตามขณะนี้มีการคัดค้านทั้งผู้สมัครส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้งและไม่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา 207 เรื่อง
**หนุนพท. 15 ล้าน-ปชป. 11 ล้าน
ด้านนายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า พรรคที่ได้รับเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมากที่สุดคือ พรรคเพื่อไทย 15,744,190 คะแนน รองลงมาคือพรรคประชาธิปัตย์ 11,433,501 คะแนน พรรคภูมิใจไทย 1,281,522คะแนน พรรครักประเทศไทย 998,527คะแนน พรรคชาติไทยพัฒนา 906,644 คะแนน พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 494,894 คะแนน พรรครักษ์สันติ 284,112 คะแนน พรรคมาตุภูมิ 251,581 คะแนน พรรคพลังชล 178,106 คะแนน พรรคมหาชน 133,767 คะแนน พรรคประชาธิปไตยใหม่ 125,781 คะแนน ทั้งนี้คะแนนที่นำมาหาค่าเฉลี่ยของส.ส.แบบบัญชีรายชื่อครั้งแรกอยู่ที่จำนวน 260,193 คะแนน ทำให้ได้ส.ส. 115 คน ส่วนอีก 10 คนที่เหลือ นำมาหาเฉลี่ยครั้งที่ 2 จึงได้ส.ส.อีก10 คน
รายงานข่าวแจ้งวว่า สำหรับพรรคการเมืองใหม่ ได้คะแนน ปาร์ตี้ลิตส์ 29,862 คะแนน ระบบเขต 2,631 คะแนน
**คาดประกาศรับรองส.ส.12 ก.ค.
นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 12 ก.ค. นี้ สำหรับผู้ได้รับการเลือกตั้งที่ไม่มีเรื่องร้องคัดค้าน ส่วนผู้ที่มีเรื่องร้องคัดค้าน ซึ่ง กกต.รับไว้ 190 เรื่อง จะเร่งสอบสวนให้เสร็จภายใน 30 วัน โดยพื้นที่ภาคอีสาน มีเรื่องร้องเรียนมากที่สุด
ทั้งนี้ ขอขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิจนทำให้การเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.มีผู้ออกมาใช้สิทธิมากที่สุดถึงร้อยละ 75 นับตั้งแต่มีการเลือกตั้งครั้งแรกของไทยปี 2476
**ยื่น“ยิ่งลักษณ์” ผัดหมี่โคราชผิดกม.
พอ.สันธิรัตน์ มหันธนชาติ ผอ.กกต.จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า พบว่ามีผู้ร้อง นำพยาน หลักฐาน จาก หนังสือพิมพ์ส่วนกลาง เสนอภาพ-ข่าว นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ผัดหมี่โคราชแจกชาวบ้าน ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ( ย่าโม ) ในระหว่างการลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร สส.เขต หาเสียง ซึ่งเป็นความผิด มาตรา 53 ห้ามมิให้ผู้สมัคร หรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงให้ตนเอง หรือผู้สมัครอื่น หรือพรรคการเมืองโดยเป็น พฤติการณ์จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ และ 4. ผู้นำชุมชน ในเขตเลือกตั้งที่ 9 เก็บบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อเตรียมการซื้อเสียง
นอกจากนี้ยังมีอีก 7 เรื่อง ซึ่งเป็นผลการจับกุมของ จนท.ตำรวจ สภ.โนนไทย อ.โนนไทย นครราชสีมา จับกุมตัว นายทหาร จำนวน 3 นาย สังกัด กองทัพบก และ พลเรือน 1 คน ตระเวนข่มขู่ คุกคาม ผู้สนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม เกิดขึ้นต่างกรรม ต่างวาระ 5 ครั้ง คือ ที่ อ.โนนไทย อ.วังน้ำเขียว อ.ชุมพวง อ.ประทาย และ อ.ห้วยแถลง จนท.ชุดปราบปราม การกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
โดย พ.ต.ท แดนไพล แก้วเวหล สว.ภ.จ.นครราชสีมา หัวหน้าชุด ฯ ได้จับกุมหญิงคนหนึ่ง พร้อมเงินสด 1.5 พันบาท ที่ อ.ห้วยแถลง และ จนท.ตำรวจ สภ.สีดา อ.สีดา นครราชสีมา จับกุม ชายคนหนึ่ง พร้อมเงิน 4 แสนบาท ซึ่งทั้ง 7 เรื่อง เป็นความปรากฏ ยังไม่มีผู้ร้อง ขั้นตอนในขณะนี้ กกต.จังหวัด ได้รายงานข้อเท็จจริงไปยัง กกต.กลาง เพื่อขอให้สั่งการให้ดำเนินการสืบสวน สอบสวน ต่อไป อย่างไรก็ตาม เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด จะสามารถนำเข้าสู่สำนวนการพิจารณาโทษ เพื่อเข้าสู่กระบวนการร้องคัดค้าน หรือแจกใบเหลือง ใบแดง ต้องขึ้นอยู่กับพยาน หลักฐานที่ปรากฏ ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้
**กกต.กลางสั่งระนองดูบัตรไม่ตรง
ว่าที่ ร.ต.กมล วิภาดาพิสุทธิ์ ประธาน กกต.ระนอง กล่าวว่า ได้ประชุมตรวจสอบถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจนเป็นเหตุให้ จ.ระนอง ยังไม่มีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งจาก กกต.กลาง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นความผิดพลาดของ จนท.ผู้รับผิดชอบที่ไม่ได้รวบรวมข้อมูลจำนวนบัตรเลือกตั้งที่เหลือจากการเลือกตั้งนอกเขต และนอกราชอาณาจักร จำนวน 3,121 บัตร ซึ่งหากรวมกันทั้ง 2 กรณีก็จะมีจำนวนยอดบัตรที่เหลือรวม 47,716 ตรงกับข้อมูลของ กกต.กลาง โดยล่าสุดทาง จนท.ได้รีบเดินทางขึ้นไปยัง สนง.กกต.กลางที่ กทม.เพื่อชี้แจงข้อมูลที่ผิดพลาด เพื่อแก้ไขให้ถูกต้อง ซึ่งในขั้นตอนนี้ไม่สามารถดำเนินการทางโทรสารได้ จะต้องขึ้นไปชี้แจงที่ กกต.กลางเพียงอย่างเดียว โดยคาดว่าในอีก 1-2 วัน ทาง กกต.กลางน่าจะประกาศผลการรับรองการเลือกตั้งในเขตพื้นที่ จ.ระนองได้ .
**สภาฯคาดประชุมนัดแรก3ส.ค.
นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงขั้นตอนเตรียมการรายงานตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) รับรองผู้ที่ได้รับเลือกตั้งว่า หลังจากที่ประสานกับสำนักงานเลขาธิการกกต. เบื้องต้น กกต.จะประกาศรับรองส.ส.ส่วนหนึ่งได้ ช่วงกลางเดือน ก.ค.นี้ ดังนั้นทางสภาเตรียมจัดส่งเอกสารฝากถึงส.ส.ที่ได้รับการรับรอง ให้จัดเตรียมเอกสารและหลักฐานต่างๆที่จะเข้ารายงานตัวที่สภาฯ และเตรียมส่งเอกสารชุดเดียวกันไปยังพรรคการเมือง เพื่อแจ้งให้สมาชิกที่ได้รับเลือกตั้งทราบ
ส่วนการเตรียมความพร้อมด้านสถานที่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมสิ่งอำนวยความสะดวกของ ส.ส.ใหม่ อาทิ ข้อมูลการปฏิบัติหน้าที่ส.ส. ใบเบิกทางในการเดินทางโดยรถบขส. เครื่องบินและรถไฟ ตามสิทธิที่ได้รับ ระเบียบการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ต้องแจ้งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เป็นต้น
นายพิฑูร กล่าวถึงกระบวนการเปิดประชุมเพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฏรและรองประธานฯ ว่า ตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องประกอบรัฐพิธีเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฏร นัดแรกภายใน 30 วันหลังวันเลือกตั้ง หากนับตามกฎหมายคาดว่าจะเปิดสภาได้ไม่เกินวันที่ 3 ส.ค. โดยนายกรัฐมนตรีรักษาการต้องเป็นผู้เสนอร่างพระราชกฤษฏีกาเปิดสมัยประชุม ตามปกติที่ผ่านมาสามารถดำเนินการได้รวดเร็ว แต่ต้องดูที่จำนวนส.ส.ที่ได้รับการรับรองและองค์ประชุมด้วยว่าจะครบหรือไม่
"ทางสำนักงานเลขาฯได้ประสานใกล้ชิดกับพรรคการเมืองต่างๆ แล้ว เบื้องต้นในวันที่ 6 ก.ค.นี้ จะประชุมร่วมกับสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.) เพื่อกำหนดวันเวลาและขั้นตอนต่างๆ ส่วนขั้นตอนการเรียกประชุมสภาฯเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี จะเป็นหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานฯและรองประธานฯแล้ว โดยประธานสภาฯจะเป็นผู้สั่งเรียกประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไป" นายพิฑูร กล่าว