xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ต้องโทษตัวเอง-เพื่อไทยก็ต้องสรุปบทเรียน !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สิ่งที่ต้องเผชิญอย่างแน่นอนก็คือ หาก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกก็ต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นกรณีการให้การเท็จในคดีซุกหุ้น คดีทุจริตร่วมกับพี่ชายคือ ทักษิณ หรือแม้แต่กรณีความผิดในเรื่องการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งจนถูกยื่นให้ยุบพรรคเพื่อไทย ที่รอดักหน้าอยู่หลายคดี อีกทั้งยังมีเรื่องส่วนตัวที่จะต้องที่จะถูกจับตาไม่แพ้กัน ที่สำคัญอย่างที่ระบุในตอนต้นก็คือหากพวกเขาทรยศต่อความไว้วางใจซ้ำขึ้นมาไม่ต่างจากยุคของรัฐบาลไทยรักไทย ก็เชื่อว่าต้องประสบชะตากรรมไม่ต่างกัน

หลายคนคงช็อกกับผลคะแนนจากผลสำรวจแบบเอ็กซิทโพล(สำรวจหน้าคูหา) ของหลายสำนักที่ออกมาสอดคล้องกันตั้งแต่ปิดหีบเลือกตั้งหลังเวลา 15.00น.เพียงแค่ไม่กี่วินาที ผลออกมาว่าพรรคเพื่อไทยชนะพรรคประชาธิปัตย์แบบถล่มทลาย ชนะกันขาดบางแห่งระบุว่าพรรคเพื่อไทยชนะได้ส.ส.ถึงกว่า 300 เสียง แต่สรุปรวมๆไปก่อนประมาณ 290-300 ที่นั่ง แม้ว่าในเวลาต่อมาผลของแอ็กซิทโพลดังกล่าวค่อนข้างจะมั่ว เนื่องจากมีผลเบี่ยงเบนของคะแนนเปลี่ยนไปมากก็ตาม

แม้ว่า (เวลา 19.00น.) คะแนนยังไม่นิ่ง แต่ก็ยังสรุปว่า พรรคเพื่อไทยก็ยังชนะพรรคประชาธิปัตย์อยู่หลายที่นั่งก็แล้วกัน !!

เมื่อผลออกมาแบบนี้ก็ต้องมาวิเคราะห์กันต่อไปว่ามันเกิดอะไรขึ้น !!

อย่างไรก็ตามหลายคนวิเคราะห์ว่า นี่คือผลความจาก “ห่วยแตก” ของ พรรคประชาธิปัตย์ ผลจากการบริหารประเทศที่ไม่เอาไหนของ สองคู่หู อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรี กับ สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค และ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เพราะชาวบ้านได้โอกาส ให้การสนับสนุนเอาใจช่วยมานานกว่า 2ปี 6 เดือน แต่ผลที่ได้รับไม่ต่างจากการ “ทรยศต่อความไว้วางใจ”

ชาวบ้านจึงต้องการสะท้อนความรู้สึกออกมาผ่านการเลือกตั้งอย่างที่เห็น เพราะที่ผ่านมาได้ให้โอกาสเข้ามาบริหารประเทศเพื่อแก้ปัญหาบ้านเมือง แต่ผลที่ออกมากลับตรงกันข้าม ผลงาน “ห่วยแตก” มีแต่เรื่องให้รำคาญใจ หงุดหงิดอยู่แทบทุกวัน ทั้งปัญหาทุจริตคอรัปชั่น คว้ามเหลวในการบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มคนที่ทำร้ายเผาบ้านเผาเมือง ทำให้เกิดปัญหา “ข้าวยากหมากแพง” จนเป็นครั้งแรกที่คนไทยต้องเข้าแถวเพียงเพื่อเสี่ยงโชคซื้อน้ำมันปาล์มสักขวดเท่านั้น เนื่องจากมีการกักตุนจากกลุ่มทุนของพรรคการเมือง เพื่อหากำไรบนความเดือดร้อนของชาวบ้านทั่วไป โดยเฉพาะพวกหาเช้ากินค่ำ

ขณะเดียวกันปัญหาอื่นๆอีกสารพัดที่สร้างความผิดหวัง จนสร้างความกราดเกรี้ยวอีกหลายกรณี ไม่ว่าต่อมาก็มีการรับรองจนมีการประกัน แกนนำคนเสื้อแดงออกมาจากคุกเพื่อหวังปรองดองแบบไร้เหตุผล โดยไม่สนใจความรู้สึกของประชาชน ปัญหาชายแดนใต้ที่ลุกลามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งที่น่าจะเป็นความหวังมากที่สุด หรือแม้แต่การแก้ปัญหาเยียวยากับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาอุทกภัย หรือภัยพิบัติที่เกิดขึ้นซ้ำซาก ก็เป็นไปด้วยความล่าช้า

นอกจากนี้ที่สร้างความเจ็บปวดมากที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ รัฐบาลภายใต้การนำของ อภิสิทธิ์ และ มีสุเทพ เป็นรองนายกรัฐมนตรี แต่กลับปล่อยให้ขบวนการ “ล้มเจ้า” ขยายวงออกมาอย่างเปิดเผย โดยที่ฝ่ายรัฐบาลกลับไม่สามารถจัดการตามกฎหมายได้อย่างเด็ดขาด

อย่างไรก็ดีแม้ว่านาทีนี้ผลของการนับคะแนนยังไม่นิ่ง แต่พอสรุปรวมๆได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ต่อพรรคเพื่อไทยขาดลอย ซึ่งอีกด้านหนึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นถึงความตกต่ำอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนของพรรคประชาธิปัตย์เช่นเดียวกัน เพราะนี่คือตบหน้ากับพรรคที่ทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ทางการเมือง อย่างกรณีล่าสุดทั้ง อภิสิทธิ์ และ ชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคต่างก็ออกมาปกป้องกล่าวทำนองชื่นชม เนวิน ชิดชอบ ที่เข้ามาสนับสนุนให้พวกเขาได้เป็นรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาให้บ้านเมือง

เมื่อผลออกมาแบบนี้ หวังว่าทั้ง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สุเทพ เทือกสุบรรณ หรือใครก็ตามในพรรคประชาธิปัตย์จะต้องสรุปบทเรียนว่าที่ผ่านมาได้ทำให้เกิดความผิดพลาดอย่างไรบ้าง ได้ทำร้ายผลักใสมวลชนที่เคยให้กำลังใจและสนับสนุนอย่างไรบ้าง ต้องโทษตัวเอง อย่าไปกล่าวโทษคนอื่นเพื่อปิดบังความล้มเหลวของตัวเองเป็นอันขาด ที่สำคัญอย่าไปโทษการรณรงค์ “โหวตโน” เพราะหากพิจารณาจากความเป็นจริงแล้ว เพราะคนที่กาในช่องประสงค์ไม่ลงคะแนนนั้นเขา “สะอิดสะเอียน” ไม่ยอมรับนักการเมือง ทุกฝ่าย เนื่องจากเห็นว่า “เลวพอกัน”

นอกจากนี้ คะแนนของโหวตโนก็ไม่ได้ไปตัดเสียงของพรรคประชาธิปัตย์แต่อย่างใด เลิกกล่าวโทษอย่างไร้ความรับผิดชอบเสียที

ดังนั้นเมื่อผลออกมาแบบนี้ ทั้ง อภิสิทธิ์และ สุเทพ จะต้องลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบกับผลที่ออกมา เพราะได้ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนดังกล่าว

ขณะที่อีกด้านหนึ่งเมื่อหันมาพิจารณาทางฝั่งพรรคเพื่อไทยกันบ้าง เมื่อสามารถเอาชนะได้อย่างถล่มทลายแบบนี้ ทั้งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อจลาจล เผาบ้านเผาเมืองที่ผ่านมาก็อย่าเพิ่งทนงตัว คิดจะทำอะไรตามใจชอบ หรือคิดไปว่านี่คือฉันทานุมัตรจากประชาชนให้ไปทำอะไรก็ได้ โดยไม่ยอมสรุปบทเรียนเหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นทั้งในยุคของ ทักษิณ ชินวัตร ต่อเนื่องมาถึงรัฐบาล “หุ่นเชิด” สมัคร สุนทรเวช และ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นอันขาด

ตรงกันข้ามสิ่งที่ต้องเผชิญอย่างแน่นอนก็คือ หาก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกก็ต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นกรณีการให้การเท็จในคดีซุกหุ้น คดีทุจริตร่วมกับพี่ชายคือ ทักษิณ หรือแม้แต่กรณีความผิดในเรื่องการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งจนถูกยื่นให้ยุบพรรคเพื่อไทย ที่รอดักหน้าอยู่หลายคดี อีกทั้งยังมีเรื่องส่วนตัวที่จะต้องที่จะถูกจับตาไม่แพ้กัน ที่สำคัญอย่างที่ระบุในตอนต้นก็คือหากพวกเขาทรยศต่อความไว้วางใจซ้ำขึ้นมาไม่ต่างจากยุคของรัฐบาลไทยรักไทย ก็เชื่อว่าต้องประสบชะตากรรมไม่ต่างกัน

นอกจากนี้จากการตื่นตัวของภาคประชาชน ที่จะต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน รวมไปถึงความผิดที่กำลังถูกนำขึ้นมาพิจารณาในกระบวนการยุติธรรมในขณะที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยกำลังจะเป็นรัฐบาลในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ก็ทำให้ไม่ใช่เรื่องที่หลายฝ่ายต้องรู้สึกกลัวไปต่างๆนานา ตรงกันข้ามนี่อาจเป็นชัยชนะเพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น หากพวกเขาทรยศต่อความไว้วางใจ ทำอะไรลุแก่อำนาจ ไม่เคารพกฎหมาย หรือทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้องเท่านั้น !!
กำลังโหลดความคิดเห็น