จับตาปราศัยใหญ่ โค้งสุดท้าย 2 เวที 2 พรรค “เพื่อไทย”ชูโครงการ2020ปะทะ “ปชป.” ที่ยกข้อความ “กำหนดอนาคตประเทศไทยใต้ฟ้าเดียวกัน” “กอร์ปศักด์ เผย ปชป.เอาแน่! นิรโทษสมาชิกบ้านเลขที่ 111 และ 109 แต่ต้องไม่ใช่คดีอาญา ยันไม่มีแน่มุ่งล้างผิดให้ “นช.แม้ว” ด้าน “ยูเอ็น”ขอไทยใช้สันติ-โปร่งใส-เคารพปชช.
เข้าสู่ 2 วันสุดท้าย ในการหาเสียงของพรรคการเมืองต่าง ๆ โดยเฉพาะพรรคการเมืองขนาดใหญ่ 2 พรรค โดย “พรรคเพื่อไทย” ประกาศใช้สนามรัชมังคลากีฬาสถาน เป็นเวทีปราศรัยใหญ่ เปิดนโยบาย “ วิสัยทัศน์2020 ” ขณะที่ “พรรคประชาธิปัตย์” ชู “กำหนดอนาคตประเทศไทยใต้ฟ้าเดียวกัน”ที่ลานพระรูปทรงม้า
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การจัดปราศรัยใหญ่จะเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ของพรรคที่จะดำเนินการตามโครงการ 2020 ส่วนกรณีพรรคการเมืองคู่แข่งนำเรื่องการเผาเมืองมาโจมตี ไม่ส่งผลกระทบต่อคะแนนความนิยมของพรรคให้ลดลง เพราะถึงเวลานี้ประชาชนตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกพรรคการเมืองใด เชื่อว่าพรรคเพื่อจะได้ ส.ส.เกิน 300 ที่นั่งแน่นอน
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้รับทราบข่าวว่า ตั้งแต่วันที่1ก.ค.จะมีกลุ่มคนไม่แสดงตัวแต่ทราบข่าวจะลงมือตัดต่อคลิปวีดีโอ ทำใบปลิวตัดต่อวีดีโอ ใส่ร้ายป้ายสีพ.ต.ท.ทักษิณและคนเสื้อแดงที่เป็นประเด็นละเอียดอ่อนอย่างยิ่งต่อสั่งคมไทย ซึ่งทีมงานไปตรวจสอบแหล่งผลิต ว่าทำกันที่ไหน บริษัทใดทำ และมีการโยงใยถึงพรรคการเมืองใด พรรคการเมืองหนึ่งหรือไม่
นาย จิรายุ ห่วงทรัพย์ ผู้สมัครส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เวทีปราศรัยใหญ่ จะเริ่มด้วย “เพื่อไทยมองไกล ขอพาประเทศสู่เวทีโลกด้วยวิสัยทัศน์อนาคตประเทศไทย2020” โดยจะเริ่มเปิดเวที16.00 น. เชื่อจะมีผู้สนับสนุนไม่น้อยกว่า5หมื่นคน มีผู้ปราศัย เช่น นางสาวฐิติมา ฉายแสง ในฐานะคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจของพรรค ในมุมมองผู้หญิงกับการเมืองในการยอมรับของโลก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะพูดในประเด็นเหลียวหลังแลหน้า พาประเทศไทยสู่ความเจริญ โดยจะพูดถึงความล้มเหลวในช่วงสามปีที่ผ่านมา และสิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะนำมาเป็นสติและแก้ไขปัญหาในอนาคต นายพิชัย นิริทะพันธ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จะพูดเรื่องอนาคตของคนไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยจะพูดถึงเป้าหมายของประเทศไทยและประชาชนคนไทยในการพัฒนาไปสู่ความสำเร็จ ดุจเช่นประเทศชั้นนำของโลก และเวลา19.30น.น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเสนอวิสัยทัศน์”ประเทศไทย2020 กับภารกิจที่ต้องทำทันทีเพื่อการแก้ปัญหาให้แก่ประชาชนและทุกคนของประเทศนี้ รวมถึงการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยที่จะก้าวสู่ปี2020ที่ประเทศไทยจะต้องก้าวไปสู่ประเทศชั้นนำของโลกและประชาชนจะกินดีอยู่ดีอย่างไร
ปชป.ยังมีหน้ามาชูนิรโทษ 111-109
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้ง กทม. กล่าวว่า พรรคจะมีการลิงก์สัญญาณการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ โดยในเวลา 19.00 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่เป็นครั้งสุดท้ายในหัวข้อ "กำหนดอนาคตประเทศไทยใต้ฟ้าเดียวกัน"
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายที่ใช้ในการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า จะมีผู้ชื่อปราศรัย 3 คน ได้แก่ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน นายกรณ์ จาติกวณิช และนายอภิสิทธิ์ โดยเนื้อหาที่พูด หัวหน้าปชป.จะย้ำว่าถ้าหากได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งก็จะเดินหน้าทำงานให้แก่ประเทศ โดยไม่คำนึงถึงสี จะทำงานให้แก่คนทุกกลุ่ม ยืนยันว่าเนื้อหาการพูดจะไม่ต่อยอดเนื้อหาในเวทีราชประสงค์ และจะพูดความจริงกับประชาชน
“ทั้งนี้จะมีการเสนอแนวทางใหม่ในการสร้างการปรองดอง ด้วยการนิรโทษกรรมคดีที่ไม่ใช่คดีอาญา หรือคดีทุจริตคอร์รัปชั่น คดีเผาบ้านเผาเมือง อาทิ คดีตัดสิทธิ์ทางการเมืองของสมาชิกบ้านเลขที่ 111 และ 109 เพราะคนเหล่านั้นไม่ได้รับความเป็นธรรม โดนตัดสิทธิ์ทางการเมืองทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำผิด ซึ่งแตกต่างจากแนวทางปรองดองของพรรคเพื่อไทย ที่มุ่งล้างผิดให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี” นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว
"มาร์ค" กราบพระแม่ธรณีฯเอาฤกษ์
ส่วนการลงพื้นที่หาเสียงวานนี้ (30) เวลา 07.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางไปยังที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อกราบสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม สัญลักษณ์และสิ่งศักดิ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ต่อมาเมื่อเวลา 08.10 น.นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางไปยังบริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน บางซื่อ เพื่อช่วยผู้สมัครเขต 10 และได้เดินทางทักทายประชาชนตลอดขบวนรถไฟฟ้า จนกระทั่งขึ้นสถานีสุขุมวิท ก่อนไปหาเสียงต่อที่ตลาดนัดมศว.
UNขอไทยใช้สันติ-โปร่งใส-เคารพปชช.
อีกด้านมี แถลงการณ์ของนายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องให้ไทยจัดการเลือกตั้งอย่างสันติ และเป็นไปอย่างโปร่งใสบริสุทธิ์ยุติธรรม โดยขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้นในการใช้ความรุนแรง ทั้งช่วงก่อนและระหว่างการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
เติ้งไม่ร่วมงานคนไม่รักษาสัจจะ
ที่ทำการพรรคชาติไทยพัฒนา นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวกรณีที่พรรคชาติไทยพัฒนาถูกมองว่า เป็นพรรคหล่อเลือกได้ ว่า “ บางทีอยู่กับใครนานๆ ก็เบื่อ ความเบื่อเกิดขึ้นก็มีเหมือนกัน แต่ผมอยากเรียนตรงๆ ว่า ผมชอบทำงานกับคนที่รักษาความพูด ใครที่ไม่รักคำพูด ผมไม่อยากจะทำด้วย” “ไม่ใช่อยากลองของใหม่ แต่ชอบคนที่รักษาคำพูด แต่ก็ไม่แน่ต้องดูเหตุการณ์อีกครั้ง และดูว่าคะแนนออกมาเท่าไร ถึงจะรู้ว่าใครจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ได้ แต่โดยมารยาทต้องให้พรรคอันดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาล ที่ตนบอกว่าเบื่อก็บ่นไปตามของคนที่มีอายุ”นายบรหหารกล่าว
ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ มีแนวคิดจะนิรโทษกรรมบ้านเลขที่ 111 และบ้านเลขที่ 109 นายบรรหาร กล่าวว่า อย่าไปฟังเลย เป็นน้ำท่วมทุ่งมากกว่า พูดแบบลมๆแล้งๆ ไม่มีหลักเกณฑ์แน่นอน อย่าไปฟัง เป็นแค่ลมปากพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นแหละ เอาจริงๆ ผู้ใหญ่ในพรรคก็ไม่เอาหรอก
เหน็บ”มาร์ค-สุเทพ-ชวน”ต่อลม”เนวิน”
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ระบุว่าหากพรรคเพื่อไทยไม่ได้คะแนนเสียงเกินครึ่ง ปิดประตูเป็นรัฐบาลได้เลยเพราะพรรคประชาธิปัตย์จะจัดตั้งสูตรรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยว่า เป็นความพยามเฮือกสุดท้ายของพรรคประชาธิปัตย์ แต่สิ่งที่นายสุเทพกำลังพูดแสดงว่าไม่ได้สนใจสถานการณ์ของประเทศ เอาแต่พรรคประชาธิปัตย์กับนายเนวิน ชิดชอบ
“การจับขั้วกับนายเนวินขณะนี้ไม่ใช่เรื่องนายสุเทพและนายอภิสิทธิ์แล้ว มันไปถึงนายชวน หลีกภัยแล้ว ผมไม่คิดว่านักการเมืองที่ระมัดระวังภาพลักษณ์ตัวเองราวกับจามรีอย่างนายชวนพอถึงเวลาจวนตัวในสถานการณ์นี้แบกนายเนวินก็เอาแล้ว ” นายณัฐวุฒิกล่าว
เข้าสู่ 2 วันสุดท้าย ในการหาเสียงของพรรคการเมืองต่าง ๆ โดยเฉพาะพรรคการเมืองขนาดใหญ่ 2 พรรค โดย “พรรคเพื่อไทย” ประกาศใช้สนามรัชมังคลากีฬาสถาน เป็นเวทีปราศรัยใหญ่ เปิดนโยบาย “ วิสัยทัศน์2020 ” ขณะที่ “พรรคประชาธิปัตย์” ชู “กำหนดอนาคตประเทศไทยใต้ฟ้าเดียวกัน”ที่ลานพระรูปทรงม้า
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การจัดปราศรัยใหญ่จะเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ของพรรคที่จะดำเนินการตามโครงการ 2020 ส่วนกรณีพรรคการเมืองคู่แข่งนำเรื่องการเผาเมืองมาโจมตี ไม่ส่งผลกระทบต่อคะแนนความนิยมของพรรคให้ลดลง เพราะถึงเวลานี้ประชาชนตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกพรรคการเมืองใด เชื่อว่าพรรคเพื่อจะได้ ส.ส.เกิน 300 ที่นั่งแน่นอน
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้รับทราบข่าวว่า ตั้งแต่วันที่1ก.ค.จะมีกลุ่มคนไม่แสดงตัวแต่ทราบข่าวจะลงมือตัดต่อคลิปวีดีโอ ทำใบปลิวตัดต่อวีดีโอ ใส่ร้ายป้ายสีพ.ต.ท.ทักษิณและคนเสื้อแดงที่เป็นประเด็นละเอียดอ่อนอย่างยิ่งต่อสั่งคมไทย ซึ่งทีมงานไปตรวจสอบแหล่งผลิต ว่าทำกันที่ไหน บริษัทใดทำ และมีการโยงใยถึงพรรคการเมืองใด พรรคการเมืองหนึ่งหรือไม่
นาย จิรายุ ห่วงทรัพย์ ผู้สมัครส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เวทีปราศรัยใหญ่ จะเริ่มด้วย “เพื่อไทยมองไกล ขอพาประเทศสู่เวทีโลกด้วยวิสัยทัศน์อนาคตประเทศไทย2020” โดยจะเริ่มเปิดเวที16.00 น. เชื่อจะมีผู้สนับสนุนไม่น้อยกว่า5หมื่นคน มีผู้ปราศัย เช่น นางสาวฐิติมา ฉายแสง ในฐานะคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจของพรรค ในมุมมองผู้หญิงกับการเมืองในการยอมรับของโลก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะพูดในประเด็นเหลียวหลังแลหน้า พาประเทศไทยสู่ความเจริญ โดยจะพูดถึงความล้มเหลวในช่วงสามปีที่ผ่านมา และสิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะนำมาเป็นสติและแก้ไขปัญหาในอนาคต นายพิชัย นิริทะพันธ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จะพูดเรื่องอนาคตของคนไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยจะพูดถึงเป้าหมายของประเทศไทยและประชาชนคนไทยในการพัฒนาไปสู่ความสำเร็จ ดุจเช่นประเทศชั้นนำของโลก และเวลา19.30น.น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเสนอวิสัยทัศน์”ประเทศไทย2020 กับภารกิจที่ต้องทำทันทีเพื่อการแก้ปัญหาให้แก่ประชาชนและทุกคนของประเทศนี้ รวมถึงการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยที่จะก้าวสู่ปี2020ที่ประเทศไทยจะต้องก้าวไปสู่ประเทศชั้นนำของโลกและประชาชนจะกินดีอยู่ดีอย่างไร
ปชป.ยังมีหน้ามาชูนิรโทษ 111-109
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้ง กทม. กล่าวว่า พรรคจะมีการลิงก์สัญญาณการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ โดยในเวลา 19.00 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่เป็นครั้งสุดท้ายในหัวข้อ "กำหนดอนาคตประเทศไทยใต้ฟ้าเดียวกัน"
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายที่ใช้ในการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า จะมีผู้ชื่อปราศรัย 3 คน ได้แก่ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน นายกรณ์ จาติกวณิช และนายอภิสิทธิ์ โดยเนื้อหาที่พูด หัวหน้าปชป.จะย้ำว่าถ้าหากได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งก็จะเดินหน้าทำงานให้แก่ประเทศ โดยไม่คำนึงถึงสี จะทำงานให้แก่คนทุกกลุ่ม ยืนยันว่าเนื้อหาการพูดจะไม่ต่อยอดเนื้อหาในเวทีราชประสงค์ และจะพูดความจริงกับประชาชน
“ทั้งนี้จะมีการเสนอแนวทางใหม่ในการสร้างการปรองดอง ด้วยการนิรโทษกรรมคดีที่ไม่ใช่คดีอาญา หรือคดีทุจริตคอร์รัปชั่น คดีเผาบ้านเผาเมือง อาทิ คดีตัดสิทธิ์ทางการเมืองของสมาชิกบ้านเลขที่ 111 และ 109 เพราะคนเหล่านั้นไม่ได้รับความเป็นธรรม โดนตัดสิทธิ์ทางการเมืองทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำผิด ซึ่งแตกต่างจากแนวทางปรองดองของพรรคเพื่อไทย ที่มุ่งล้างผิดให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี” นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว
"มาร์ค" กราบพระแม่ธรณีฯเอาฤกษ์
ส่วนการลงพื้นที่หาเสียงวานนี้ (30) เวลา 07.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางไปยังที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อกราบสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม สัญลักษณ์และสิ่งศักดิ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ต่อมาเมื่อเวลา 08.10 น.นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางไปยังบริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน บางซื่อ เพื่อช่วยผู้สมัครเขต 10 และได้เดินทางทักทายประชาชนตลอดขบวนรถไฟฟ้า จนกระทั่งขึ้นสถานีสุขุมวิท ก่อนไปหาเสียงต่อที่ตลาดนัดมศว.
UNขอไทยใช้สันติ-โปร่งใส-เคารพปชช.
อีกด้านมี แถลงการณ์ของนายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องให้ไทยจัดการเลือกตั้งอย่างสันติ และเป็นไปอย่างโปร่งใสบริสุทธิ์ยุติธรรม โดยขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้นในการใช้ความรุนแรง ทั้งช่วงก่อนและระหว่างการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
เติ้งไม่ร่วมงานคนไม่รักษาสัจจะ
ที่ทำการพรรคชาติไทยพัฒนา นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวกรณีที่พรรคชาติไทยพัฒนาถูกมองว่า เป็นพรรคหล่อเลือกได้ ว่า “ บางทีอยู่กับใครนานๆ ก็เบื่อ ความเบื่อเกิดขึ้นก็มีเหมือนกัน แต่ผมอยากเรียนตรงๆ ว่า ผมชอบทำงานกับคนที่รักษาความพูด ใครที่ไม่รักคำพูด ผมไม่อยากจะทำด้วย” “ไม่ใช่อยากลองของใหม่ แต่ชอบคนที่รักษาคำพูด แต่ก็ไม่แน่ต้องดูเหตุการณ์อีกครั้ง และดูว่าคะแนนออกมาเท่าไร ถึงจะรู้ว่าใครจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ได้ แต่โดยมารยาทต้องให้พรรคอันดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาล ที่ตนบอกว่าเบื่อก็บ่นไปตามของคนที่มีอายุ”นายบรหหารกล่าว
ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ มีแนวคิดจะนิรโทษกรรมบ้านเลขที่ 111 และบ้านเลขที่ 109 นายบรรหาร กล่าวว่า อย่าไปฟังเลย เป็นน้ำท่วมทุ่งมากกว่า พูดแบบลมๆแล้งๆ ไม่มีหลักเกณฑ์แน่นอน อย่าไปฟัง เป็นแค่ลมปากพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นแหละ เอาจริงๆ ผู้ใหญ่ในพรรคก็ไม่เอาหรอก
เหน็บ”มาร์ค-สุเทพ-ชวน”ต่อลม”เนวิน”
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ระบุว่าหากพรรคเพื่อไทยไม่ได้คะแนนเสียงเกินครึ่ง ปิดประตูเป็นรัฐบาลได้เลยเพราะพรรคประชาธิปัตย์จะจัดตั้งสูตรรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยว่า เป็นความพยามเฮือกสุดท้ายของพรรคประชาธิปัตย์ แต่สิ่งที่นายสุเทพกำลังพูดแสดงว่าไม่ได้สนใจสถานการณ์ของประเทศ เอาแต่พรรคประชาธิปัตย์กับนายเนวิน ชิดชอบ
“การจับขั้วกับนายเนวินขณะนี้ไม่ใช่เรื่องนายสุเทพและนายอภิสิทธิ์แล้ว มันไปถึงนายชวน หลีกภัยแล้ว ผมไม่คิดว่านักการเมืองที่ระมัดระวังภาพลักษณ์ตัวเองราวกับจามรีอย่างนายชวนพอถึงเวลาจวนตัวในสถานการณ์นี้แบกนายเนวินก็เอาแล้ว ” นายณัฐวุฒิกล่าว
