ASTVผู้จัดการรายวัน- พรรคเพื่อฟ้าดิน ออกป้าย"โหวตโน" ชุดสุดท้าย ไม่เลือกทั้งฝ่ายเผาบ้านเผาเมือง และฝ่ายปล่อยคนเผา พร้อมเดินรณรงค์ใหญ่ที่สีลม วันที่ 1 ก.ค.นี้ ชี้ประชาธิปัตย์ ไม่ควรตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ใกล้พันธมิตรฯ หากมีมือที่สามสร้างสถานการณ์วุ่นวาย "มาร์ค"ต้องรับผิดชอบ
วานนี้ ( 29 มิ.ย. ) ที่บ้านพระอาทิตย์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้แถลงข่าวเปิดตัวป้ายหาเสียงของพรรคเพื่อฟ้าดินแบบสุดท้าย ซึ่งด้านบนมีลักษณะถูกแบ่งออกเป็น 2 สี ได้แก่ พื้นหลังสีแดงฝั่งซ้าย มีข้อความระบุว่า “ฝ่ายหนึ่งเผาบ้านเมือง” และพื้นหลังสีฟ้าฝั่งขวา ระบุข้อความ “ฝ่ายหนึ่งปล่อยคนเผา” ส่วนด้านล่างพื้นหลังสีเหลือง ระบุข้อความ “ 3 ก.ค.เข้าคูหา กาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน ทั้ง 2 บัตร” และมีแถบสีดำระบุคำ ว่า “มุมล่างด้านขวา” พร้อมช่องทำเครื่องหมายกาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน
นายปานเทพ กล่าวว่า ป้ายดังกล่าวเป็นป้ายชุดล่าสุดของพรรคเพื่อฟ้าดิน ที่จะออกมาในช่วงวันสุดท้าย เขียนข้อความในการเปรียบเทียบ เพื่อเตือนให้ประชาชนได้ตระหนักถึงการที่จะไปเลือกใคร ไม่ว่าขั้วไหนก็จะมีปัญหาแตกต่างกัน ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าเป็นขั้วกลางๆ ก็จะมีผลทางใดทางหนึ่งในสองขั้วที่จะต้องเกิดขึ้นต่อไป โดยเราทำเป็นสองสัญลักษณ์ และสองสี ซึ่งป้ายนี้จะเป็นป้ายชุดสุดท้ายจริงๆ ในช่วง 3 วันสุดท้าย เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักในการพิจารณาในการหย่อนบัตรลงคะแนน เพื่อกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน
ทั้งนี้ โอกาสถ้าทำได้ 26 เขต ก็อาศัยกฎหมายเลือกตั้ง มาตรา 88 และ 89 ตลอดจนรัฐธรรมนูญ มาตรา 127 และ 93 ถ้าทำได้เกิน 26 เขตที่ชนะ มากกว่าผู้สมัครอื่นใด ก็ถือว่าเปิดประชุมสภาไม่ได้ ทั้งคนเผาเมือง และคนปล่อยคนเผาเมือง จะต้องมาเจรจากับประชาชนในอนาคต ในการที่จะดำเนินการในการบริหารราชการต่อไปในอนาคตว่า จะมีจุดยืนอย่างไร สำหรับป้ายแบบสุดท้ายดังกล่าว จะเริ่มติดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
นายปานเทพ กล่าวด้วยว่า วันที่ 1 ก.ค. ทางกลุ่มพันธมิตรฯ และพรรคเพื่อฟ้าดิน จะมีการรณรงค์ "โหวตโน" ครั้งใหญ่ เป็นการส่งท้ายก่อนเลือกตั้ง ที่ถนนสีลม โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป
นายปานเทพ ยังกล่าวถึง กรณีพรรคประชาธิปัตย์จะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่พันธมิตรฯ จะจัดการชุมนุมวันสุดท้ายที่เวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ และเกรงว่าจะเกิดการกระทบกระทั่งกัน ว่า พรรคประชาธิปัตย์เมื่อรู้อยู่แล้วว่า พันธมิตรฯชุมนุมอยู่ตรงนี้ ก็ไม่ควรจัดเวทีปราศรัยในพื้นที่ใกล้ๆบริเวณกับที่พันธมิตรฯชุมนุม
" ที่จริงควรจะไปอยู่ไกลๆ เพื่อไม่ต้องเกิดความสุ่มเสี่ยง หรือความสับสนในช่วงสถานการณ์แบบนั้น หรือมีมือที่สามเข้ามาข้องเกี่ยว ไม่มีความจำเป็นที่ต้องมาที่ลานพระบรมรูปทรงม้า แต่ประการใด มีอีกหลายที่ที่สามารถจะทำได้ในกรุงเทพมหานคร แต่รัฐบาลเลือกที่จะทำการแบบนั้น ผมก็เห็นว่า ต้องถือเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลอย่างเดียว เมื่อตัดสินใจเช่นนั้น อะไรจะเกิดขึ้นก็สุดแท้แต่ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับฝ่ายใด ต้องถือเป็นความรับผิดชอบของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ทั้งสิ้น" นายปานเทพ กล่าว
นายปานเทพ กล่าวว่า วันที่ 1 ก.ค.เป็นวันปิดการชุมนุมพันธมิตรฯ ครั้งสุดท้าย ซึ่งจะมีประชาชนเข้ามาเป็นจำนวนมาก พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว หรือบริเวณใกล้เคียง เพื่อทำให้เกิดความสบายใจต่อคนทุกกลุ่ม ที่พยายามเชียร์แนวทางของตนเอง ไม่มีความจำเป็นที่จะทำแบบนั้น หวังว่าเมื่อประกาศเช่นนั้นแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ และรัฐบาลต้องรับผิดชอบในทุกกรณี หากเหตุการณ์อะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้นต่อไป เพราะเราชุมนุมอยู่กับที่ ไม่ได้ก้าวก่ายใครใดๆทั้งสิ้น และไม่ได้ขยายพื้นที่ไปไกลกว่านั้น แต่มีโอกาสเกิดมือที่สามได้ ต้องถือเป็นความรับผิดชอบต่อรัฐบาล
ส่วนที่มีอดีตนายทหาร คมช. คนหนึ่ง ออกมาตั้งเครือข่ายเคลื่อนไหวรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ไม่เลือกพวกเผาบ้านเผาเมือง ล้มสถาบันฯ และพวกที่จะนิรโทษกรรมให้พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นายปานเทพ กล่าวว่า การรณรงค์การหาเสียงของภาคประชาชน สามารถทำได้ เพราะเป็นเรื่องระบอบประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ ทั้งนี้ พันธมิตรฯ แค่เตือนสติว่า ในขณะที่เราเห็นด้วยว่า อย่าเลือกคนเผาเมือง แต่เราก็เห็นด้วยว่า อย่าเลือกคนที่ปล่อยให้มีการเผาเมือง เป็นการตอกย้ำในสถานการณ์นี้ เพื่อให้จิ๊กซอว์ในการรณรงค์หาเสียงนั้นครบถ้วนบริบูรณ์ ดังนั้นเราจึงรณรงค์ให้ไปใช้สิทธิ์"โหวตโน"
วานนี้ ( 29 มิ.ย. ) ที่บ้านพระอาทิตย์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้แถลงข่าวเปิดตัวป้ายหาเสียงของพรรคเพื่อฟ้าดินแบบสุดท้าย ซึ่งด้านบนมีลักษณะถูกแบ่งออกเป็น 2 สี ได้แก่ พื้นหลังสีแดงฝั่งซ้าย มีข้อความระบุว่า “ฝ่ายหนึ่งเผาบ้านเมือง” และพื้นหลังสีฟ้าฝั่งขวา ระบุข้อความ “ฝ่ายหนึ่งปล่อยคนเผา” ส่วนด้านล่างพื้นหลังสีเหลือง ระบุข้อความ “ 3 ก.ค.เข้าคูหา กาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน ทั้ง 2 บัตร” และมีแถบสีดำระบุคำ ว่า “มุมล่างด้านขวา” พร้อมช่องทำเครื่องหมายกาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน
นายปานเทพ กล่าวว่า ป้ายดังกล่าวเป็นป้ายชุดล่าสุดของพรรคเพื่อฟ้าดิน ที่จะออกมาในช่วงวันสุดท้าย เขียนข้อความในการเปรียบเทียบ เพื่อเตือนให้ประชาชนได้ตระหนักถึงการที่จะไปเลือกใคร ไม่ว่าขั้วไหนก็จะมีปัญหาแตกต่างกัน ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าเป็นขั้วกลางๆ ก็จะมีผลทางใดทางหนึ่งในสองขั้วที่จะต้องเกิดขึ้นต่อไป โดยเราทำเป็นสองสัญลักษณ์ และสองสี ซึ่งป้ายนี้จะเป็นป้ายชุดสุดท้ายจริงๆ ในช่วง 3 วันสุดท้าย เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักในการพิจารณาในการหย่อนบัตรลงคะแนน เพื่อกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน
ทั้งนี้ โอกาสถ้าทำได้ 26 เขต ก็อาศัยกฎหมายเลือกตั้ง มาตรา 88 และ 89 ตลอดจนรัฐธรรมนูญ มาตรา 127 และ 93 ถ้าทำได้เกิน 26 เขตที่ชนะ มากกว่าผู้สมัครอื่นใด ก็ถือว่าเปิดประชุมสภาไม่ได้ ทั้งคนเผาเมือง และคนปล่อยคนเผาเมือง จะต้องมาเจรจากับประชาชนในอนาคต ในการที่จะดำเนินการในการบริหารราชการต่อไปในอนาคตว่า จะมีจุดยืนอย่างไร สำหรับป้ายแบบสุดท้ายดังกล่าว จะเริ่มติดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
นายปานเทพ กล่าวด้วยว่า วันที่ 1 ก.ค. ทางกลุ่มพันธมิตรฯ และพรรคเพื่อฟ้าดิน จะมีการรณรงค์ "โหวตโน" ครั้งใหญ่ เป็นการส่งท้ายก่อนเลือกตั้ง ที่ถนนสีลม โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป
นายปานเทพ ยังกล่าวถึง กรณีพรรคประชาธิปัตย์จะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่พันธมิตรฯ จะจัดการชุมนุมวันสุดท้ายที่เวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ และเกรงว่าจะเกิดการกระทบกระทั่งกัน ว่า พรรคประชาธิปัตย์เมื่อรู้อยู่แล้วว่า พันธมิตรฯชุมนุมอยู่ตรงนี้ ก็ไม่ควรจัดเวทีปราศรัยในพื้นที่ใกล้ๆบริเวณกับที่พันธมิตรฯชุมนุม
" ที่จริงควรจะไปอยู่ไกลๆ เพื่อไม่ต้องเกิดความสุ่มเสี่ยง หรือความสับสนในช่วงสถานการณ์แบบนั้น หรือมีมือที่สามเข้ามาข้องเกี่ยว ไม่มีความจำเป็นที่ต้องมาที่ลานพระบรมรูปทรงม้า แต่ประการใด มีอีกหลายที่ที่สามารถจะทำได้ในกรุงเทพมหานคร แต่รัฐบาลเลือกที่จะทำการแบบนั้น ผมก็เห็นว่า ต้องถือเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลอย่างเดียว เมื่อตัดสินใจเช่นนั้น อะไรจะเกิดขึ้นก็สุดแท้แต่ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับฝ่ายใด ต้องถือเป็นความรับผิดชอบของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ทั้งสิ้น" นายปานเทพ กล่าว
นายปานเทพ กล่าวว่า วันที่ 1 ก.ค.เป็นวันปิดการชุมนุมพันธมิตรฯ ครั้งสุดท้าย ซึ่งจะมีประชาชนเข้ามาเป็นจำนวนมาก พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว หรือบริเวณใกล้เคียง เพื่อทำให้เกิดความสบายใจต่อคนทุกกลุ่ม ที่พยายามเชียร์แนวทางของตนเอง ไม่มีความจำเป็นที่จะทำแบบนั้น หวังว่าเมื่อประกาศเช่นนั้นแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ และรัฐบาลต้องรับผิดชอบในทุกกรณี หากเหตุการณ์อะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้นต่อไป เพราะเราชุมนุมอยู่กับที่ ไม่ได้ก้าวก่ายใครใดๆทั้งสิ้น และไม่ได้ขยายพื้นที่ไปไกลกว่านั้น แต่มีโอกาสเกิดมือที่สามได้ ต้องถือเป็นความรับผิดชอบต่อรัฐบาล
ส่วนที่มีอดีตนายทหาร คมช. คนหนึ่ง ออกมาตั้งเครือข่ายเคลื่อนไหวรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ไม่เลือกพวกเผาบ้านเผาเมือง ล้มสถาบันฯ และพวกที่จะนิรโทษกรรมให้พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นายปานเทพ กล่าวว่า การรณรงค์การหาเสียงของภาคประชาชน สามารถทำได้ เพราะเป็นเรื่องระบอบประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ ทั้งนี้ พันธมิตรฯ แค่เตือนสติว่า ในขณะที่เราเห็นด้วยว่า อย่าเลือกคนเผาเมือง แต่เราก็เห็นด้วยว่า อย่าเลือกคนที่ปล่อยให้มีการเผาเมือง เป็นการตอกย้ำในสถานการณ์นี้ เพื่อให้จิ๊กซอว์ในการรณรงค์หาเสียงนั้นครบถ้วนบริบูรณ์ ดังนั้นเราจึงรณรงค์ให้ไปใช้สิทธิ์"โหวตโน"
