xs
xsm
sm
md
lg

พธม.ชี้ ปชป.ปราศรัยราชประสงค์แค่เรียกร้องความสนใจ สับ 2 พรรคหาเสียงเอาดีใส่ตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (แฟ้มภาพ)
โฆษกพันธมิตรฯ หยัน “มาร์ค” ปราศรัยราชประสงค์ แค่เรียกร้องความสนใจ ชี้สะท้อนความล้มเหลว 2 ด้าน “จำลอง” ชี้ไม่เหมาะ “ประพันธ์” แขวะ 2 พรรคหาเสียงโยนผิดให้กันเอง ชี้ปรองดองแค่ปาหี่ สับไม่มีใครรับผิดชอบต่อผู้เสียชีวิต ซัดหาเสียงไม่สร้างสรรค์ เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น

วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่บ้านพระอาทิตย์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเปิดการปราศรัยใหญ่ที่ย่านราชประสงค์ ในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ว่า เป็นการเรียกร้องความสนใจของนายอภิสิทธิ์ ในขณะที่ผลสำรวจนั้น พรรคประชาธิปัตย์แพ้พรรคเพื่อไทยอยู่ แท้ที่จริงแล้วการไปที่สี่แยกราชประสงค์ ตนถือว่าเป็นความล้มเหลวทั้งสองด้าน คือ เกิดเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองโดยผู้ชุมนุมและกลุ่มคนที่นิยมความรุนแรงโดยใช้อาวุธสงคราม อีกด้านหนึ่งก็สะท้อนความล้มเหลวของรัฐบาลเช่นเดียวกัน ที่ปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้บานปลายกระทั่งมาถึงสถานการณ์ที่ทำให้มีการเผาบ้านเผาเมือง ใช้อาวุธสงครามขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ แล้วจับใครไม่ได้ แม้แต่ชายชุดดำก็จับไม่ได้ จับขึ้นสู่ศาลก็ไม่ได้ ซ้ำร้ายรัฐบาลกลับสนับสนุนการประกันตัวของแกนนำให้ออกมา ไปสมัคร ส.ส. แล้วก็มาข่มขู่ประชาชนอีก

ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า บริษัทห้างร้านที่สี่แยกราชประสงค์นั้น เสียหายจำนวนมากตั้งแต่คราวที่แล้ว คราวนี้ถ้ามีการไปปราศรัย เขาก็ทำมาหากินในช่วงนั้นไม่ได้ เมื่อผู้ค้าเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้ช่วยแก้ปัญหา เพราะระหว่างผู้ค้ากับผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงยังมีปัญหากันอยู่ และได้ร้องขอว่าอย่าไปชุมนุมรำลึกที่ตรงนั้น เพราะจะทำให้สูญเสียรายได้ไปเรื่อยๆ นายอภิสิทธิ์แทนที่จะลงไปแก้ปัญหาเอง กลับบอกให้ไปพูดกันเอง แล้วยังจะไปทำให้เสียหายทางธุรกิจอีก เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะ ถ้าจะพูดถึงเรื่องอะไรในบ้านเมืองก็ไปปราศรัยที่อื่นก็ได้ เรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจไปแล้วก็แล้วแต่ทางพรรค

ส่วนนายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการปกป้องราชอาณาจักรไทย กล่าวว่า การที่นายอภิสิทธิ์ใช้พื้นที่ย่านราชประสงค์ตั้งเวทีปราศรัยหาเสียง สะท้อนให้เห็นว่าการหาเสียงของทั้งสองพรรคในขณะนี้เป็นการเผชิญหน้ากันอยู่ในประเด็นเดิม พยายามโยนความผิดให้กันและกัน ในเรื่องหายนะและความเสียหายของชาติที่ปราศจากคนรับผิดชอบ พรรคที่เผาบ้านเผาเมืองก็ไม่รับผิดชอบ คนที่เป็นผู้บริหารประเทศก็ไม่มีใครรับผิดชอบต่อหายนะหรือความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ การจะเรียกร้องความปรองดองสมานฉันท์นั้น เป็นละครปาหี่หลอกลวงประชาชน ขณะนี้ทั้งสองพรรคก็ยังหาเสียงในทำนองเดิมๆ พรรคเพื่อไทยก็โยนความผิดให้พรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังขุดความเลวของพรรคเพื่อไทยขึ้นมา การไปปราศรัยในลักษณะนั้นหวังจะตอกย้ำหาคะแนนนิยมใส่ตัวว่า คนเหล่านั้นทำให้บ้านเมืองหายนะ ตัวเองเป็นคนที่ประคับประคองสถานการณ์บ้านเมืองให้รอดมาได้ แต่ในขณะที่ความเป็นจริงก็ไม่ได้ทำอย่างที่พูด ปล่อยให้ประชาชนที่ได้รับเคราะห์กรรมในเหตุการณ์ครั้งนั้นปราศจากการเหลียวแลแก้ไข

“การเมืองที่เผชิญหน้าในขณะนี้เกิดจากนักการเมือง และพรรคการเมืองเผชิญหน้ากันเอง เห็นได้จากตอนนี้กลุ่มคนเสื้อแดงก็ยังเคลื่อนไหวในลักษณะเดิม คือ นำรถปิกอัพตระเวนไปทั่วกรุงเทพฯ ติดป้ายว่า “ใครสั่งฆ่าประชาชน” ติดธงสีแดงไปทั่วบ้านทั่วเมือง ก็ตอบโต้สิ่งที่นายอภิสิทธิ์มาพูดหรือมาปราศรัยในลักษณะที่โยนความผิด เรื่องแบบนี้เขาอภิปราย เถียงกันมาอยู่ในสภาสองหนแล้ว มาในเวทีเลือกตั้งก็ยังเถียงกัน ด่ากัน สาดโคลนกันใส่ว่าใครผิดใครถูก แต่คนที่ไม่ได้รับความดูแล เอาใจใส่เลยก็คือทหารที่บาดเจ็บ เสียชีวิต ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และประเทศที่ถูกเผาถูกทำลาย ไม่มีนักการเมือง พรรคการเมืองคนไหนแสดงความรับผิดชอบเลย” นายประพันธ์กล่าว

โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรฯ ยังกล่าวว่า การหาเสียงในลักษณะที่เป็นอยู่ขณะนี้ เป็นการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ เป็นเพียงการเอาความดีใส่ตัว ความชั่วใส่คนอื่น ซึ่งไม่ใช่การเมืองที่จะนำพาบ้านเมืองไปรอด การไปปราศรัยของนายอภิสิทธิ์ ในที่ต่างๆ ก็ไม่มีเรื่องอะไรมากไปกว่าการพยายามที่จะบอกว่าตัวเองเป็นคนดี เป็นคนรักษาความสงบ อีกฝ่ายเป็นพวกเผาบ้านเผาเมือง แต่ไม่พูดถึงความล้มเหลวในการดูแลบ้านเมืองของตัวเอง อันเป็นหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล เป็นการตอกลิ่มให้เกิดความขัดแย้งและการเผชิญหน้าระหว่างการเมืองสองขั้วอย่างชัดเจนมากขึ้นไปอีก
กำลังโหลดความคิดเห็น