พระนครศรีอยุธยา - อีกแล้ว! เรือบรรทุกทรายกระแทกโขดดินล่มกลางเจ้าพระยาที่อำเภอบางบาล พระนครศรีอยุธยา
เมื่อเวลา 16.30 น.วานนี้ (28 มิ.ย.) พ.ต.ท.สมยศ คำอยู่ สารวัตรเวร สภ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเรือบรรทุกทรายอับปางกลางแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณ หมู่ 9 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้ประสานนายรัชตะ ผกาฟุ้ง หัวหน้าสำนักงานขนส่งทางน้ำ สาขาอยุธยา เจ้าหน้าที่ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจรุดไปตรวจสอบ
พบเรือบรรทุกทรายเต็มลำมีขนาดความกว้าง 6 เมตร ความยาว 22 เมตร กินน้ำลึก 6 ฟุต จมอยู่ใกล้ฝั่งด้านซ้ายมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพเหลือเพียงหลังคาและยอดธงที่ปักไว้คอยสะบัดเป็นสัญลักษณ์จุดเกิดเหตุ ริมฝั่งพบเรือยนต์ลากของบริษัท โชคประเสริฐทรัพย์จอดอยู่บนเรือพบนายสมเกียรติ ราชญาณ อายุ 51 ปีอยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 9 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าของเรือ บอกว่า ได้บรรทุกทรายออกจากท่าลงทรายเฉลิมชัย อ.ป่าโมก จ.อ่างทองพ่วงมาทั้งหมด 4 ลำเพื่อนำไปส่งที่รังสิตก่อนถึงที่เกิดเหตุเครื่องยนต์เกิดติดๆดับๆจึงได้ปล่อยเรือไหลไปตามกระแสน้ำระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาต่ำมาก พอถึงที่เกิดเหตุเรือบรรทุกทรายลำที่ 4 ไปกระแทกกับโขดดินและแล่นต่อไปได้ประมาณ 100 เมตรเรือก็ค่อยๆจมจึงตัดเชือกลำที่ 4 ออกจนจมลงก้นแม่น้ำเจ้าพระยา จากนั้นจึงนำเรือทรายที่เหลือทั้ง 3 ลำไปจอดไว้ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตรแล้วตีเรือเปล่ามาดูเรือที่จม
นายรัชตะ ผกาฟุ้ง หัวหน้าสำนักงานฯกล่าวว่าเรือได้เกิดอุบัติเหตุไปกระแทกกับโขดดินที่มีความแข็งทำให้ก้นเรืออาจรั่วได้โชคดีที่เรือยังไม่ไปขวางทางน้ำและอยู่ชิดใกล้ฝั่งทำให้เรือที่วิ่งสัญจรผ่านไปมาได้ แต่อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่นำทุ่นมาวางกันเรือที่วิ่งมาได้เห็นและหลบหลีกและจะรีบกู้เรือให้เร็วที่สุดและประกาศทางวิทยุห้ามเรือบรรทุกวิ่งผ่านในคืนนี้ก่อน
พ.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า สอบในเบื้องต้นเป็นอุบัติเหตุทางน้ำสินค้าเป็นทรายไม่ใช่วัตถุอันตรายอย่างเช่นน้ำตาลเจ้าหน้าที่ได้วางทุ่นกันเรือวิ่งมาชนในเบื้องต้นยังไม่ได้ตั้งข้อหาใด
ต่อมาเวลา 19.00 น.พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยาได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุได้สอบถามรายละเอียดกับนายสมเกียรติ เจ้าของเรือบอกว่าสามารถกู้ได้เมื่อไหร่นายสมเกียรติบอกว่าไม่น่าจะเกิน 3 วันโดยใช้เครื่อง 6 สูบดูดทรายออกแล้วให้นักประดาน้ำนำถัง 200 ลิตรดันเรือขึ้นคิดว่าไม่น่าจะยากเพราะเรือบรรทุกทรายเป็นเรือขนาดเล็กไม่เหมือนกับเรือน้ำตาลที่เคยล่มก่อนหน้านี้ พรุ่งนี้เช้าจะเริ่มดำเนินการเลย
เมื่อเวลา 16.30 น.วานนี้ (28 มิ.ย.) พ.ต.ท.สมยศ คำอยู่ สารวัตรเวร สภ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเรือบรรทุกทรายอับปางกลางแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณ หมู่ 9 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้ประสานนายรัชตะ ผกาฟุ้ง หัวหน้าสำนักงานขนส่งทางน้ำ สาขาอยุธยา เจ้าหน้าที่ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจรุดไปตรวจสอบ
พบเรือบรรทุกทรายเต็มลำมีขนาดความกว้าง 6 เมตร ความยาว 22 เมตร กินน้ำลึก 6 ฟุต จมอยู่ใกล้ฝั่งด้านซ้ายมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพเหลือเพียงหลังคาและยอดธงที่ปักไว้คอยสะบัดเป็นสัญลักษณ์จุดเกิดเหตุ ริมฝั่งพบเรือยนต์ลากของบริษัท โชคประเสริฐทรัพย์จอดอยู่บนเรือพบนายสมเกียรติ ราชญาณ อายุ 51 ปีอยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 9 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าของเรือ บอกว่า ได้บรรทุกทรายออกจากท่าลงทรายเฉลิมชัย อ.ป่าโมก จ.อ่างทองพ่วงมาทั้งหมด 4 ลำเพื่อนำไปส่งที่รังสิตก่อนถึงที่เกิดเหตุเครื่องยนต์เกิดติดๆดับๆจึงได้ปล่อยเรือไหลไปตามกระแสน้ำระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาต่ำมาก พอถึงที่เกิดเหตุเรือบรรทุกทรายลำที่ 4 ไปกระแทกกับโขดดินและแล่นต่อไปได้ประมาณ 100 เมตรเรือก็ค่อยๆจมจึงตัดเชือกลำที่ 4 ออกจนจมลงก้นแม่น้ำเจ้าพระยา จากนั้นจึงนำเรือทรายที่เหลือทั้ง 3 ลำไปจอดไว้ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตรแล้วตีเรือเปล่ามาดูเรือที่จม
นายรัชตะ ผกาฟุ้ง หัวหน้าสำนักงานฯกล่าวว่าเรือได้เกิดอุบัติเหตุไปกระแทกกับโขดดินที่มีความแข็งทำให้ก้นเรืออาจรั่วได้โชคดีที่เรือยังไม่ไปขวางทางน้ำและอยู่ชิดใกล้ฝั่งทำให้เรือที่วิ่งสัญจรผ่านไปมาได้ แต่อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่นำทุ่นมาวางกันเรือที่วิ่งมาได้เห็นและหลบหลีกและจะรีบกู้เรือให้เร็วที่สุดและประกาศทางวิทยุห้ามเรือบรรทุกวิ่งผ่านในคืนนี้ก่อน
พ.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า สอบในเบื้องต้นเป็นอุบัติเหตุทางน้ำสินค้าเป็นทรายไม่ใช่วัตถุอันตรายอย่างเช่นน้ำตาลเจ้าหน้าที่ได้วางทุ่นกันเรือวิ่งมาชนในเบื้องต้นยังไม่ได้ตั้งข้อหาใด
ต่อมาเวลา 19.00 น.พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยาได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุได้สอบถามรายละเอียดกับนายสมเกียรติ เจ้าของเรือบอกว่าสามารถกู้ได้เมื่อไหร่นายสมเกียรติบอกว่าไม่น่าจะเกิน 3 วันโดยใช้เครื่อง 6 สูบดูดทรายออกแล้วให้นักประดาน้ำนำถัง 200 ลิตรดันเรือขึ้นคิดว่าไม่น่าจะยากเพราะเรือบรรทุกทรายเป็นเรือขนาดเล็กไม่เหมือนกับเรือน้ำตาลที่เคยล่มก่อนหน้านี้ พรุ่งนี้เช้าจะเริ่มดำเนินการเลย