xs
xsm
sm
md
lg

เดอะมอลล์แหยงตั้งการ์ดรับครึ่งหลังปรับกลยุทธ์ชะลอแคมเปญลดราคา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เดอะมอลล์” ทำรายได้ครึ่งปีแรกตุนไว้ก่อน เติบโต 17% มากกว่าเป้าหมาย ทะลุ 22,000 ล้านบาทแล้ว หวั่นครึ่งปีหลังเดาทางการเมืองไม่ถูก ไม่รู้ชะตากรรมบ้านเมือง ปรับกลยุทธ์ไม่เน้นโปรโมชัน หวังดันทั้งปีเติบโต 10%


นายชำนาญ เมธปรีชากุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า แผนการทำตลาดในครึ่งปีหลังของเดอะมอลล์กรุ๊ป จะชูยุทธศาสตร์การตลาดเชิงรับ (Defensive) ที่เน้นเรื่องของการสร้างแบรนด์ ภาพลักษณ์องค์กร และการทำซีอาร์เอ็ม การทำแคมเปญกับลูกค้าสมาชิกเป็นหลัก ซึ่งจะแตกต่างจากการทำตลาดช่วงครึ่งปีแรกที่เน้นในเรื่องของการทำโปรโมชัน การลดราคา ต่างๆ เพื่อหวังผลทางด้านยอดขายเป็นหลัก

“เราไม่รู้ว่าช่วงครึ่งปีหลังการเมืองไทยจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกหรือไม่ แม้ว่าตอนนี้จะใกล้มีการเลือกตั้งใหญ่แล้วก็ตาม แต่เราก็ทำได้ดีเกินเป้าหมายไปแล้วในช่วงครึ่งปีแรก ถือว่าเป็นการทำรายได้ตุนเอาไว้ก่อนแล้ว”

สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกเดอะมอลล์กรุ๊ป มีการเติบโต 17% หรือมีรายได้ 22,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโต 5% โดยมีทราฟฟิคเพิ่ม 7% กำลังซื้อเติบโต 3-5% ขณะที่เป้าหมายรายได้รวมทั้งปีนี้ตั้งไว้ที่ 42,000 ล้านบาท นั่นหมายความว่าบริษัทฯ ทำยอดขายเกินเป้าหมายไปแล้วในครึ่งปีแรก ทั้งๆ ที่โดยปรกติแล้วครึ่งปีแรกจะมีสัดส่วนยอดขายเพียง45% เท่านั้น แต่นี่เราทำเกินครึ่งหนึ่งไปแล้ว

ทั้งนี้หากครึ่งปีหลังไม่มีปัจจัยลบจากผลกระทบทางการเมืองหรือปัญหาเศรษฐกิจ ยอดขายของเดอะมอลล์กรุ๊ป น่าจะสูงขึ้นจากที่คาดการณ์ 5% โดยทั้งปีคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 10% ซึ่บทั้งปีใช้งบตลาด 2,000 ล้านบาท แบ่งครึ่งปีแรกและหลังเท่ากัน โดยการเติบโตในครึ่งปีแรกของแต่ละกลุ่มนั้นมีดังนี้ 1.สินค้าผู้ชายและเด็ก เติบโต 20% 2.สินค้ากลุ่มผู้หญิง เติบโต 20% 3.กลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตโฮมเฟรชมาร์ท กรูเมต่มาร์เก็ต เติบโต 15% 4.เพาเวอร์มอลล์ เติบโต 10% 5.บีเทรนด์ เติบโต 10% ซึ่งสาเหตุที่กลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ต เติบโตน้อยเพราะว่าการแข่งขันที่รุนแรงของสองค่ายใหญ่คือบิ๊กซีหลังรวมกับคาร์ฟูร์และเทสโก้โลตัส

อีกทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ที่เกิดขึ้นมากดักลูกค้าไปส่วนหนึ่ง แต่ก็ถือว่าเติบโตดีเพราะไม่เคยโตสองหลักมานานแล้ว อย่างไรก็ตามล่าสุดบริษัทฯจะจัด 2 แคมเปญใหญ่คือ “มิดไนท์เซลส์” วันที่ 29 มิ.ย. – 3 ก.ค.ศกนี้ ที่เดอะมอลล์ , ดิเอ็มโพเรียมและสยามพารากอน คาดว่ามียอดขาย 950 ล้านบาท สูงกว่ามิดไนท์เซลส์ช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 12% และอีกงานคือ “มหกรรมลดทะลุพิกัดที่อิมแพ็คเมืองทองธานี” วันที่ 6 -10 ก.ค.ศกนี้ คาดรายได้ในงาน 300 ล้านบาท โดยใช้งบการจัดงาน 30 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ของการลดราคานอกสถานที่ของเดอะมอลล์กรุ๊ปซึ่ง 2 ครั้งแรกจัดที่ไบเทคบางนาเมื่อปีที่แล้วได้รับผลดี มีรายได้สะพัด 300 ล้านบาท และ 500 ล้านบาท

“การที่เราจัด 2 งานใหญ่ช่วงนี้ก็เพราะว่า เป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรบัการทำตลาดดอีกช่วงของปี ที่มีทั้งบรรยากาศการเลือกตั้ง บรรยากาศมิดเยียร์เซลส์ ซึ่งในช่วงเลือกตั้งนี้ ตามรายงานของศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ก่อนและหลังการเลือกตั้งจะมีเงินสะพัด 39,000 ล้านบาท เรามี 2 งานดักไว้ทั้งก่อนเลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง เพื่อดักกำลังซื้อไว้แล้ว” นายชำนาญ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น