ASTVผู้จัดการรายวัน - บอร์ดปตท.ปรับลดงบลงทุนปีนี้เกือบ 2 หมื่นล้านบาท เหลือเพียง 7.75 หมื่นล้านบาท เหตุโครงการลงทุนโรงไฟฟ้าและถ่านหินในต่างประเทศล่าช้า โดยจะโยกเงินลงทุนที่ลดลงไปรวมในงบการลงทุนปีหน้าแทน ส่วนกระแสข่าวโยกย้ายฝ่ายบริหารระดับสูงครั้งใหญ่ในกลุ่มปตท. ยันไม่มีการบรรจุในวาระนี้ “ประเสริฐ” ยันที่ประชุมบอร์ดฯครั้งนี้ไม่มีการพิจารณาวาระการโยกย้ายฝ่ายบริหาร ปตท.หลังมีกระแสข่าวเจอการเมืองแทรกแซง
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯวานนี้ (24 มิ.ย.)ว่า ที่ประชุมบอร์ดบริษัทฯได้อนุมัติให้ปรับลดงบการเงินลงทุนในปี 2554 จากเดิมอยู่ที่ 95,809 ล้านบาท เหลือเพียง 77,536 ล้านบาท ลดลงเกือบ 20,000 ล้านบาท เนื่องจากโครงการลงทุนในต่างประเทศล่าช้าออกไปโดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้า และถ่านหิน เป็นต้น ไม่ได้มีปัญหาในเรื่องการบริหารงานหรือไม่มีการยกเลิกโครงการลงทุน แต่มีสาเหตุจากขั้นตอนการลงทุนที่มีรายละเอียดค่อนข้างมาก
โดยงบลงทุนในปีนี้ที่ปรับลดลง จะนำไปรวมในงบการลงทุนในปีหน้าแทน ทำให้งบลงทุนในปี 2555 จะเพิ่มขึ้นจาก 75,544 ล้านบาท เพิ่มเป็น 94,091 ล้านบาท
นอกจากนี้ บอร์ดปตท.อนุมัติสัญญาว่าจ้างนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ (CEO) ปตท.คนใหม่ที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย. 2554 เป็นเวลา 4ปี โดยจะเสนอเรื่องดังกล่าวให้กระทรวงการคลังพิจารณาต่อไป
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมฯยังได้มีการหารือการตั้งชื่อบริษัทใหม่ ที่เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTCH กับ บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTTAR ในเบื้องต้นได้ชื่อ บริษัท ปตท.โกลบอล เคมิคอล (PTT Global Chemical : PTTGC) ส่วนการแต่งตั้งผู้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารในบริษัทใหม่นี้ยังไม่ได้มีการพิจารณา
นายประเสริฐ กล่าวถึงกระแสข่าวว่าการประชุมคณะกรรมการปตท.ในครั้งนี้ จะมีการพิจารณาแต่งตั้งแต่งตั้งนายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เป็นประธานบอร์ดปตท. และนายภูษณ ปรีมาโนชย์ จะลาออกจากกรรมการปตท. รวมทั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงในปตท.ตามใบสั่งการเมืองว่า ยืนยันไม่มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในการประชุมบอร์ดฯครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นการตั้งประธานบอร์ดปตท. รวมทั้งการลาออกของนายภูษณ รวมไปถึงการดึงนายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) มานั่งตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน ปตท. แทนนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ที่จะถูกโยกย้ายไปเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ได้ยอมรับในปีนี้จะต้องมีการโยกย้ายเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร ปตท.เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างลงจากการเกษียณอายุในปีนี้ของนายปรัชญา ภิญญาวัธน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการปิโตรเลียมขั้นปลาย และตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไออาร์พีซี รวมทั้งตำแหน่งอื่นๆ อีก ซึ่งการโยกย้ายตำแหน่งฝ่ายบริหารระดับสูงของ ปตท.จะเป็นพิจารณาตามความเหมาะสม และเป็นอำนาจของซีอีโอปตท.ที่จะนำเสนอต่อบอร์ดฯ ซึ่งหากตั้งแต่งโยกย้ายผู้บริหารปตท.อยู่ในช่วงที่ตนเองยังไม่หมดวาระ ตนก็จะเป็นคนเสนอแต่งตั้ง โดยจะหารือกับนายไพรินทร์ ว่าที่ซีอีโอปตท.คนใหม่ เนื่องจากเป็นทีมงานที่นายไพรินทร์จะต้องทำงานร่วมด้วย แต่หากอยู่ในช่วงที่ตนหมดวาระไปแล้ว นายไพรินทร์ ซีอีโอปตท.คนใหม่ก็จะเป็นคนพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายและเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
นายประเสริฐ ยืนยันว่าผู้บริหารปตท.มีความรักสามัคคีกัน ซึ่งผมพอใจว่าที่ได้นายไพรินทร์ เป็นซีอีโอปตท.คนใหม่ ซึ่งเป็นผู้บริหารปตท. และเป็นบุคคลที่ตนเป็นผู้รับเข้ามาทำงานในปตท.และให้นั่งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไออาร์พีซี ซึ่งเชื่อมั่นว่านายไพรินทร์จะนำพาองค์กรปตท.ให้ก้าวหน้าต่อไป
“การปรับเปลี่ยนโยกย้ายตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงปตท.เป็นเรื่องปกติเพื่อให้องค์กรเติบโตได้ ไม่ได้ทำเป็นฤดูกาลเหมือนข้าราชการ แต่จะพิจารณาจากความเหมาะสม และความพร้อม ส่วนประเด็นที่มีข่าวว่าการเมืองแทรกแซงในการโยกย้ายฝ่ายบริหารปตท.นั้น ผมไม่ได้รับการร้องขอในเรื่องนี้ ซึ่งการแต่งตั้งผู้บริหารปตท.ระดับรองฯเป็นเรื่องที่ผมพิจารณาคัดสรรอย่างดีและเป็นอำนาจ หน้าที่ของผม แต่ในสังคมไทย หากมีเสียงรอบข้างก็ต้องฟังไว้ รวมทั้งการรับฟังผู้มีส่วนได้เสียปตท.ก็ต้องรับฟังอยู่แล้ว ซึ่งตลอด 8 ปีที่อยู่ในตำแหน่งซีอีโอ ได้มีการเสนอโยกย้ายฝ่ายบริหารฯ บอร์ดปตท.ก็ไม่เคยREJECT เลยสักครั้งเดียว และหากการเสนอครั้งต่อไปก็ไม่น่าREJECT เช่นกัน”
ทั้งนี้ ปตท.ยังอยู่ระหว่างการจัดทำแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ 5 ปี เพื่อกำหนดทิศทางองค์กรและการดำเนินธุรกิจโดยจะเสนอให้บอร์ดปตท.พิจารณาในเดือนก.ค.นี้ และจะมีการเสนอแผนรายละเอียดต่างๆในการดำเนินธุรกิจและการลงทุนในกลุ่มปตท.เพื่อกำหนดเป็นงบการลงทุน 5ปีให้บอร์ดฯอนุมัติในเดือนธ.ค.ต่อไป
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะกรรมการ บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วาระการโยกย้ายแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงกลุ่มปตท.ควรรอให้นายไพรินทร์ ลงนามสัญญาว่าจ้างรับตำแหน่งซีอีโอปตท.คนใหม่ก่อน เพื่อให้เข้าร่วมพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายฝ่ายบริหารฯ และช่วงนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพิจารณาโยกย้ายตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงปตท.ดังที่เป็นข่าว โดยปกติจะโยกย้ายจะทำในช่วงเดือนส.ค.-ก.ย.
นายณอคุณ ยังเรียกร้องให้นายประเสริฐ ในฐานะซีอีโอออกมาแสดงท่าทีอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อปกป้องชื่อเสียงของบริษัท หลังจากมีรายงานข่าวว่านักการเมืองเข้ามาแทรกแซงการบริหารงานของปตท.
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯวานนี้ (24 มิ.ย.)ว่า ที่ประชุมบอร์ดบริษัทฯได้อนุมัติให้ปรับลดงบการเงินลงทุนในปี 2554 จากเดิมอยู่ที่ 95,809 ล้านบาท เหลือเพียง 77,536 ล้านบาท ลดลงเกือบ 20,000 ล้านบาท เนื่องจากโครงการลงทุนในต่างประเทศล่าช้าออกไปโดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้า และถ่านหิน เป็นต้น ไม่ได้มีปัญหาในเรื่องการบริหารงานหรือไม่มีการยกเลิกโครงการลงทุน แต่มีสาเหตุจากขั้นตอนการลงทุนที่มีรายละเอียดค่อนข้างมาก
โดยงบลงทุนในปีนี้ที่ปรับลดลง จะนำไปรวมในงบการลงทุนในปีหน้าแทน ทำให้งบลงทุนในปี 2555 จะเพิ่มขึ้นจาก 75,544 ล้านบาท เพิ่มเป็น 94,091 ล้านบาท
นอกจากนี้ บอร์ดปตท.อนุมัติสัญญาว่าจ้างนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ (CEO) ปตท.คนใหม่ที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย. 2554 เป็นเวลา 4ปี โดยจะเสนอเรื่องดังกล่าวให้กระทรวงการคลังพิจารณาต่อไป
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมฯยังได้มีการหารือการตั้งชื่อบริษัทใหม่ ที่เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTCH กับ บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTTAR ในเบื้องต้นได้ชื่อ บริษัท ปตท.โกลบอล เคมิคอล (PTT Global Chemical : PTTGC) ส่วนการแต่งตั้งผู้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารในบริษัทใหม่นี้ยังไม่ได้มีการพิจารณา
นายประเสริฐ กล่าวถึงกระแสข่าวว่าการประชุมคณะกรรมการปตท.ในครั้งนี้ จะมีการพิจารณาแต่งตั้งแต่งตั้งนายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เป็นประธานบอร์ดปตท. และนายภูษณ ปรีมาโนชย์ จะลาออกจากกรรมการปตท. รวมทั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงในปตท.ตามใบสั่งการเมืองว่า ยืนยันไม่มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในการประชุมบอร์ดฯครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นการตั้งประธานบอร์ดปตท. รวมทั้งการลาออกของนายภูษณ รวมไปถึงการดึงนายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) มานั่งตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน ปตท. แทนนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ที่จะถูกโยกย้ายไปเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ได้ยอมรับในปีนี้จะต้องมีการโยกย้ายเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร ปตท.เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างลงจากการเกษียณอายุในปีนี้ของนายปรัชญา ภิญญาวัธน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการปิโตรเลียมขั้นปลาย และตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไออาร์พีซี รวมทั้งตำแหน่งอื่นๆ อีก ซึ่งการโยกย้ายตำแหน่งฝ่ายบริหารระดับสูงของ ปตท.จะเป็นพิจารณาตามความเหมาะสม และเป็นอำนาจของซีอีโอปตท.ที่จะนำเสนอต่อบอร์ดฯ ซึ่งหากตั้งแต่งโยกย้ายผู้บริหารปตท.อยู่ในช่วงที่ตนเองยังไม่หมดวาระ ตนก็จะเป็นคนเสนอแต่งตั้ง โดยจะหารือกับนายไพรินทร์ ว่าที่ซีอีโอปตท.คนใหม่ เนื่องจากเป็นทีมงานที่นายไพรินทร์จะต้องทำงานร่วมด้วย แต่หากอยู่ในช่วงที่ตนหมดวาระไปแล้ว นายไพรินทร์ ซีอีโอปตท.คนใหม่ก็จะเป็นคนพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายและเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
นายประเสริฐ ยืนยันว่าผู้บริหารปตท.มีความรักสามัคคีกัน ซึ่งผมพอใจว่าที่ได้นายไพรินทร์ เป็นซีอีโอปตท.คนใหม่ ซึ่งเป็นผู้บริหารปตท. และเป็นบุคคลที่ตนเป็นผู้รับเข้ามาทำงานในปตท.และให้นั่งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไออาร์พีซี ซึ่งเชื่อมั่นว่านายไพรินทร์จะนำพาองค์กรปตท.ให้ก้าวหน้าต่อไป
“การปรับเปลี่ยนโยกย้ายตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงปตท.เป็นเรื่องปกติเพื่อให้องค์กรเติบโตได้ ไม่ได้ทำเป็นฤดูกาลเหมือนข้าราชการ แต่จะพิจารณาจากความเหมาะสม และความพร้อม ส่วนประเด็นที่มีข่าวว่าการเมืองแทรกแซงในการโยกย้ายฝ่ายบริหารปตท.นั้น ผมไม่ได้รับการร้องขอในเรื่องนี้ ซึ่งการแต่งตั้งผู้บริหารปตท.ระดับรองฯเป็นเรื่องที่ผมพิจารณาคัดสรรอย่างดีและเป็นอำนาจ หน้าที่ของผม แต่ในสังคมไทย หากมีเสียงรอบข้างก็ต้องฟังไว้ รวมทั้งการรับฟังผู้มีส่วนได้เสียปตท.ก็ต้องรับฟังอยู่แล้ว ซึ่งตลอด 8 ปีที่อยู่ในตำแหน่งซีอีโอ ได้มีการเสนอโยกย้ายฝ่ายบริหารฯ บอร์ดปตท.ก็ไม่เคยREJECT เลยสักครั้งเดียว และหากการเสนอครั้งต่อไปก็ไม่น่าREJECT เช่นกัน”
ทั้งนี้ ปตท.ยังอยู่ระหว่างการจัดทำแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ 5 ปี เพื่อกำหนดทิศทางองค์กรและการดำเนินธุรกิจโดยจะเสนอให้บอร์ดปตท.พิจารณาในเดือนก.ค.นี้ และจะมีการเสนอแผนรายละเอียดต่างๆในการดำเนินธุรกิจและการลงทุนในกลุ่มปตท.เพื่อกำหนดเป็นงบการลงทุน 5ปีให้บอร์ดฯอนุมัติในเดือนธ.ค.ต่อไป
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะกรรมการ บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วาระการโยกย้ายแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงกลุ่มปตท.ควรรอให้นายไพรินทร์ ลงนามสัญญาว่าจ้างรับตำแหน่งซีอีโอปตท.คนใหม่ก่อน เพื่อให้เข้าร่วมพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายฝ่ายบริหารฯ และช่วงนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพิจารณาโยกย้ายตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงปตท.ดังที่เป็นข่าว โดยปกติจะโยกย้ายจะทำในช่วงเดือนส.ค.-ก.ย.
นายณอคุณ ยังเรียกร้องให้นายประเสริฐ ในฐานะซีอีโอออกมาแสดงท่าทีอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อปกป้องชื่อเสียงของบริษัท หลังจากมีรายงานข่าวว่านักการเมืองเข้ามาแทรกแซงการบริหารงานของปตท.
