อุดรธานี-ระทึก! รถ 6 ล้อหาเสียงผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 พรรคเพื่อไทยไฟไหม้วอดทั้งคัน ขณะกำลังวิ่งหาเสียง "สุรทิน" รีบปัดไม่ได้สร้างสถานการณ์เอง พร้อมท้าทายหากใครต้องการปองร้ายเชิญตามสบายเพราะเดินหาเสียงคนเดียวอยู่แล้ว คนขับระบุได้ยินเสียงคล้ายระเบิด 2 ครั้งก่อนควันไฟพวยพุ่งใกล้ที่ปั่นไฟข้างรถรีบโดดหนีเอาตัวรอด
เมื่อเวลา 07.00 น.วานนี้ (24 มิ.ย.) ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถหาเสียงของ พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์ ผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี เขต 2 พรรคเพื่อไทย เหตุเกิดบนถนนอุดร-สกล เขตเทศบาลตำบลหนองบัว อ.เมือง หลัก ก.ม.ที่ 8 บ้านพรสวรรค์ ฝั่งขาเข้า หลังรับแจ้งจึงได้ประสานรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลหนองบัว และเจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งเสริมธรรม ไปทำการดับเพลิง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบ ตรวจสอบพบว่ารถหกล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 82-0507 นครสวรรค์ ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน
ต่อมาเวลา 08.50 น.เจ้าหน้าที่ได้ลากรถยนต์คันดังกล่าว มาที่สำนักงานของ พ.ต.ท.สุรทิน บ้านหนองขาม ถนนอุดรธานี-สกลนคร ต.หนองบัว ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตรโดยมี พล.ต.ต.บุญจันทร์ นวลสาย ผบก.ภ.จว.อุดรธานี และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนาย พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง สำนักนายกรัฐมนตรี ตำรวจสันติบาล ตำรวจวิทยาการ มาร่วมตรวจสอบรถยนต์
พบว่าสภาพรถถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน ซึ่งรถคันนี้ได้ดัดแปลงให้เป็นรถหาเสียง มีการติดตั้งเครื่องปั่นไฟ อยู่ใกล้หม้อแบตเตอรี่ ที่อยู่ใต้ขอบกระบะ ด้านขวามือ ที่มีถูกไฟไหม้เสียหาย และมีรอยไฟไหม้รถเกือบทั้งคัน โดยเฉพาะทางด้านขวาของตัวรถ ส่วนทางด้านซ้าย มีร่องรอยถูกไฟไหม้ และยังมีแผ่นไม้อัดที่ติดภาพของ พ.ต.ท.สุรทินฯ เสียหายบางส่วน
นายนายอุทัย จิตรอ่อง คนขับรถอยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 6 ต.บ้านโพธิ์ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี ให้การว่า ตนพร้อมกับทีมงานกว่า 10 คนกำลังจะเดินทางไปหาเสียงที่เขต ต.บ้านจั่น โดยขับไปเปิดเครื่องขยายเสียงไป และมีนายอัศวิน พิมานเมฆินทร์ ลูกชาย พ.ต.ท.สุรทิน เดินทางไปด้วย ขณะขับมาที่เกิดเหตุได้เกิดเสียงดัง 2 ครั้งและมีควันไฟพวยพุ่งออกมาบริเวณเครื่องปั่นไฟที่ติดอยู่ข้างขวาของรถอย่างรุนแรง ตนจึงได้จอกรถ จากนั้นตนพร้อมกับทีมงานจึงได้พากันหนีตายออกมาอย่างรวดเร็ว พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าดับไฟ โดยขณะเกิดเหตุ พ.ต.ท.สุรทิน ไม่ได้อยู่บนรถ
ด้าน พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆิน ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยเขต 2 เปิดเผยว่า รถคันนี้ซื้อมาในราคา 9 แสนกว่าบาท และมีการตกแต่งให้ติดเครื่องเสียง เพื่อใช้ในการหาเสียงอีกว่า 2 แสน ซึ่งรถคันนี้เมื่อใช้งานเสร็จจะนำมาจอดที่บริเวณด้านหลังศูนย์ประสานงานเขต 2 แห่งนี้ โดยไม่มีใครเฝ้า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไปไม่ได้ที่ตนจะสร้างสถานการณ์ ขึ้นมาเอง โชคยังดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร การที่รถไฟไหม้นี้ตนไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ เพราะรถคันนี้ใช้มาตลอดไม่เคยมีปัญหาอะไร
พ.ต.ท.สุรทิน กล่าวท้าทายกับกลุ่มที่ไม่หวังดีว่า ปกติธรรมดาเวลาหาเสียงจะไปไหนมาไหนคนเดียว หากคิดจะทำอะไรตนก็มาเลย และอย่ายิงที่ละนัดผมไม่ชอบ ให้ยิงมีเป็นชุด การยิงที่ละนัดมันเสียศักดิ์ศรีของตน และขอบอกเลยว่าคืนนี้จะออกไปหาเสียคนเดียวอีก
ด้าน พล.ต.ต.บุญจันทร์ นวลสาย ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่าจากการสอบสวนไม่น่าที่จะเป็นการสร้างสถานการณ์ หรือเป็นเรื่องของการปองร้ายอย่างใด เพราะดูจากร่องรอยไม่น่าที่จะเป็นการวางระเบิด เบื้องต้นน่าที่จะเป็นเรื่องของอุบัติเหตุที่เกิดจากการชาร์ตไฟเกิน จนเกิดไฟไหม้ขึ้น และเนื่องจากตัวรถหาเสียงคันดังกล่าวอุปกรณ์ที่ติดตั้งล้วนแต่เป็นเชื้อเพลิง ทำให้ไฟลุกลามไหม้ง่าย จนทำให้ตัวรถเกิดความเสียหายเกือบทั้งคัน
อย่างไรก็ตาม ได้ให้เจ้าหน้าที่วิทยาการจังหวัดทำการตรวจหาสาเหตุแท้จริง และรายงานให้ทราบโดยด่วน นอกจากนี้แล้วได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จักร์กฤษณ์ จันทรรัตน์ รอง ผบก.และเจ้าหน้าที่สืบสวน ภ.จว.อุดรธานี เร่งทำการสอบปากคำพยานและคนงานที่อยู่บนรถหาเสียงคันดังกล่าว 10 กว่าคนให้ละเอียด และให้เสร็จเรียบร้อยภายในวันนี้.
เมื่อเวลา 07.00 น.วานนี้ (24 มิ.ย.) ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถหาเสียงของ พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์ ผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี เขต 2 พรรคเพื่อไทย เหตุเกิดบนถนนอุดร-สกล เขตเทศบาลตำบลหนองบัว อ.เมือง หลัก ก.ม.ที่ 8 บ้านพรสวรรค์ ฝั่งขาเข้า หลังรับแจ้งจึงได้ประสานรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลหนองบัว และเจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งเสริมธรรม ไปทำการดับเพลิง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบ ตรวจสอบพบว่ารถหกล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 82-0507 นครสวรรค์ ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน
ต่อมาเวลา 08.50 น.เจ้าหน้าที่ได้ลากรถยนต์คันดังกล่าว มาที่สำนักงานของ พ.ต.ท.สุรทิน บ้านหนองขาม ถนนอุดรธานี-สกลนคร ต.หนองบัว ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตรโดยมี พล.ต.ต.บุญจันทร์ นวลสาย ผบก.ภ.จว.อุดรธานี และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนาย พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง สำนักนายกรัฐมนตรี ตำรวจสันติบาล ตำรวจวิทยาการ มาร่วมตรวจสอบรถยนต์
พบว่าสภาพรถถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน ซึ่งรถคันนี้ได้ดัดแปลงให้เป็นรถหาเสียง มีการติดตั้งเครื่องปั่นไฟ อยู่ใกล้หม้อแบตเตอรี่ ที่อยู่ใต้ขอบกระบะ ด้านขวามือ ที่มีถูกไฟไหม้เสียหาย และมีรอยไฟไหม้รถเกือบทั้งคัน โดยเฉพาะทางด้านขวาของตัวรถ ส่วนทางด้านซ้าย มีร่องรอยถูกไฟไหม้ และยังมีแผ่นไม้อัดที่ติดภาพของ พ.ต.ท.สุรทินฯ เสียหายบางส่วน
นายนายอุทัย จิตรอ่อง คนขับรถอยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 6 ต.บ้านโพธิ์ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี ให้การว่า ตนพร้อมกับทีมงานกว่า 10 คนกำลังจะเดินทางไปหาเสียงที่เขต ต.บ้านจั่น โดยขับไปเปิดเครื่องขยายเสียงไป และมีนายอัศวิน พิมานเมฆินทร์ ลูกชาย พ.ต.ท.สุรทิน เดินทางไปด้วย ขณะขับมาที่เกิดเหตุได้เกิดเสียงดัง 2 ครั้งและมีควันไฟพวยพุ่งออกมาบริเวณเครื่องปั่นไฟที่ติดอยู่ข้างขวาของรถอย่างรุนแรง ตนจึงได้จอกรถ จากนั้นตนพร้อมกับทีมงานจึงได้พากันหนีตายออกมาอย่างรวดเร็ว พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าดับไฟ โดยขณะเกิดเหตุ พ.ต.ท.สุรทิน ไม่ได้อยู่บนรถ
ด้าน พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆิน ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยเขต 2 เปิดเผยว่า รถคันนี้ซื้อมาในราคา 9 แสนกว่าบาท และมีการตกแต่งให้ติดเครื่องเสียง เพื่อใช้ในการหาเสียงอีกว่า 2 แสน ซึ่งรถคันนี้เมื่อใช้งานเสร็จจะนำมาจอดที่บริเวณด้านหลังศูนย์ประสานงานเขต 2 แห่งนี้ โดยไม่มีใครเฝ้า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไปไม่ได้ที่ตนจะสร้างสถานการณ์ ขึ้นมาเอง โชคยังดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร การที่รถไฟไหม้นี้ตนไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ เพราะรถคันนี้ใช้มาตลอดไม่เคยมีปัญหาอะไร
พ.ต.ท.สุรทิน กล่าวท้าทายกับกลุ่มที่ไม่หวังดีว่า ปกติธรรมดาเวลาหาเสียงจะไปไหนมาไหนคนเดียว หากคิดจะทำอะไรตนก็มาเลย และอย่ายิงที่ละนัดผมไม่ชอบ ให้ยิงมีเป็นชุด การยิงที่ละนัดมันเสียศักดิ์ศรีของตน และขอบอกเลยว่าคืนนี้จะออกไปหาเสียคนเดียวอีก
ด้าน พล.ต.ต.บุญจันทร์ นวลสาย ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่าจากการสอบสวนไม่น่าที่จะเป็นการสร้างสถานการณ์ หรือเป็นเรื่องของการปองร้ายอย่างใด เพราะดูจากร่องรอยไม่น่าที่จะเป็นการวางระเบิด เบื้องต้นน่าที่จะเป็นเรื่องของอุบัติเหตุที่เกิดจากการชาร์ตไฟเกิน จนเกิดไฟไหม้ขึ้น และเนื่องจากตัวรถหาเสียงคันดังกล่าวอุปกรณ์ที่ติดตั้งล้วนแต่เป็นเชื้อเพลิง ทำให้ไฟลุกลามไหม้ง่าย จนทำให้ตัวรถเกิดความเสียหายเกือบทั้งคัน
อย่างไรก็ตาม ได้ให้เจ้าหน้าที่วิทยาการจังหวัดทำการตรวจหาสาเหตุแท้จริง และรายงานให้ทราบโดยด่วน นอกจากนี้แล้วได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จักร์กฤษณ์ จันทรรัตน์ รอง ผบก.และเจ้าหน้าที่สืบสวน ภ.จว.อุดรธานี เร่งทำการสอบปากคำพยานและคนงานที่อยู่บนรถหาเสียงคันดังกล่าว 10 กว่าคนให้ละเอียด และให้เสร็จเรียบร้อยภายในวันนี้.