เกิดโศกนาฏกรรมรถตู้ซ้ำอีก โชเฟอร์รถตู้บรรทุกผู้โดยสารชาวกัมพูชาและชาวไทยเต็มคันรถ มุ่งหน้าไปตลาดโรงเกลือสระแก้วซิ่งแซงซ้ายพุ่งชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อที่คนขับจอดนอนข้างทางอย่างจัง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 8 ศพ บาดเจ็บอีก 3
วันนี้(10 ก.พ.) เมื่อเวลา 07.00 น. ร.ต.อ.กฤตพัฒน์ ผาทา พนักงานสอบสวน(สบ 2) กก.8 บก.ทล ได้รับแจ้งเหตุเกิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสารชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ บริเวณกม. 59 ถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนตะวันออกบางปะอิน-บางนา ช่วงอ่อนนุชมุ่งหน้าบางนามีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ไพรัช พุกเจริญ สวญ.กก 8 บก.ทล และมูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุพบรถตู้คอมมูเตอร์ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ฮฉ 616 กทม. อยู่ในสภาพพังยับเยินตัวรถด้านหน้าฝั่งซ้ายอัดก๊อปปี้เข้ากับท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียน 78- 3533 กทม. ด้านหลังระบุชื่อ บริษัท คราวน์ ทรานสปอร์ต จำกัด ตรวจสอบภายในรถพบผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนหลายรายติดอยู่ภายใน เจ้าหน้าที่จึงเร่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บโดยใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างผู้บาดเจ็บเพื่อนำส่ง รพ. จากการตรวจสอบพบผู้เสียชีวิต 8 ราย เป็นชาย 3 ราย หญิง 5 ราย และมีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย
พ.ต.ท.ไพรัช กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้บาดเจ็บเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุรถตู้คันดังกล่าวได้รับผู้โดยสารคนไทยและชาวกัมพูชา ซึ่งมีหนังสือเดินทางที่ถูกกฎหมายได้เช่าเหมารถตู้ไม่ประจำทางจากจังหวัดปทุมธานี เพื่อไปตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนเกิดเหตุ โชเฟอร์รถตู้ ทราบภายหลังชื่อนายณัฐพงษ์ โพธิ์ทอง อายุ 37 ปี พยายามขับแซงซ้าย แต่เจอรถบรรทุก 6 ล้อ ที่คนขับจอดนอนอยู่ข้างทางทำให้หักหลบไม่ทัน จึงพุ่งชนท้ายอย่างแรง จนทำให้รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งไปชนท้ายรถบรรทุก 18 ล้อ ที่จอดอยู่ด้านหน้าซ้ำอีก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนนายณัฐพงษ์ หลังเกิดเหตุได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่านายณัฐพงษ์ น่าจะหลับใน โดยเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถได้เสียหลักพุ่งชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อที่จอดพักอยู่ข้างทาง โดยจอดอยู่ค่อนข้างลึกลงไปจากไหล่ทางทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามตัวนายณัฐพงษ์ คนขับมาสอบสวน
ด้าน พ.ต.อ.ธนวัตร วัฒนกุล ผกก.กก.8 บก.ทล.กล่าวว่า ในช่วงประมาณเดือนกว่าที่ผ่านมามีอุบัติเหตุรถตู้ในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยก่อนหน้านี้มีเหตุให้ รถตู้ กทม.-ฉะเชิงเทรา ชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ บนถนนมอเตอร์เวย์จนทำให้รถไฟไหม้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย และบาดเจ็บอีกหลายราย ซึ่งในครั้งนั้นสาเหตุมาจากคนขับหลับใน โดยในครั้งนี้ก็มาจากสาเหตุเดียวกัน ซึ่งทาง กก.8 บก.ทล. จะเร่งติดตามตัวคนขับมาดำเนินคดีให้ได้เร็วที่สุด แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องความปลอดภัยของรถตู้ เนื่องจากยังมีประชาชนหลายคนที่มีความจำเป็นต้องใช้บริการและเอาชีวิตไปเสี่ยง ซึ่งในส่วนนี้คิดว่าจะเรียกผู้ประกอบการและผู้ขับขี่มาพูดคุยเพื่อหามาตรการในการขับรถบนทางหลวง โดยปกติคนขับมักขับด้วยความเร็วสูง โดยส่วนตัวมองว่าปัญหาส่วนนี้น่าจะมีการออกกฎหมาย เพื่อเอาผิดผู้ประกอบการ เจ้าของวินในฐานที่มีการปล่อยปละละเลย เรื่องการคัดคนขับ ดูแลอบรมและการเตรียมความพร้อมก่อนวิ่งให้บริการ เพราะว่าผู้โดยสารเมื่อก้าวขึ้นรถก็ต้องฝากชีวิตไว้กับคนขับ
วันนี้(10 ก.พ.) เมื่อเวลา 07.00 น. ร.ต.อ.กฤตพัฒน์ ผาทา พนักงานสอบสวน(สบ 2) กก.8 บก.ทล ได้รับแจ้งเหตุเกิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสารชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ บริเวณกม. 59 ถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนตะวันออกบางปะอิน-บางนา ช่วงอ่อนนุชมุ่งหน้าบางนามีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ไพรัช พุกเจริญ สวญ.กก 8 บก.ทล และมูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุพบรถตู้คอมมูเตอร์ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ฮฉ 616 กทม. อยู่ในสภาพพังยับเยินตัวรถด้านหน้าฝั่งซ้ายอัดก๊อปปี้เข้ากับท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียน 78- 3533 กทม. ด้านหลังระบุชื่อ บริษัท คราวน์ ทรานสปอร์ต จำกัด ตรวจสอบภายในรถพบผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนหลายรายติดอยู่ภายใน เจ้าหน้าที่จึงเร่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บโดยใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างผู้บาดเจ็บเพื่อนำส่ง รพ. จากการตรวจสอบพบผู้เสียชีวิต 8 ราย เป็นชาย 3 ราย หญิง 5 ราย และมีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย
พ.ต.ท.ไพรัช กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้บาดเจ็บเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุรถตู้คันดังกล่าวได้รับผู้โดยสารคนไทยและชาวกัมพูชา ซึ่งมีหนังสือเดินทางที่ถูกกฎหมายได้เช่าเหมารถตู้ไม่ประจำทางจากจังหวัดปทุมธานี เพื่อไปตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนเกิดเหตุ โชเฟอร์รถตู้ ทราบภายหลังชื่อนายณัฐพงษ์ โพธิ์ทอง อายุ 37 ปี พยายามขับแซงซ้าย แต่เจอรถบรรทุก 6 ล้อ ที่คนขับจอดนอนอยู่ข้างทางทำให้หักหลบไม่ทัน จึงพุ่งชนท้ายอย่างแรง จนทำให้รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งไปชนท้ายรถบรรทุก 18 ล้อ ที่จอดอยู่ด้านหน้าซ้ำอีก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนนายณัฐพงษ์ หลังเกิดเหตุได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่านายณัฐพงษ์ น่าจะหลับใน โดยเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถได้เสียหลักพุ่งชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อที่จอดพักอยู่ข้างทาง โดยจอดอยู่ค่อนข้างลึกลงไปจากไหล่ทางทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามตัวนายณัฐพงษ์ คนขับมาสอบสวน
ด้าน พ.ต.อ.ธนวัตร วัฒนกุล ผกก.กก.8 บก.ทล.กล่าวว่า ในช่วงประมาณเดือนกว่าที่ผ่านมามีอุบัติเหตุรถตู้ในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยก่อนหน้านี้มีเหตุให้ รถตู้ กทม.-ฉะเชิงเทรา ชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ บนถนนมอเตอร์เวย์จนทำให้รถไฟไหม้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย และบาดเจ็บอีกหลายราย ซึ่งในครั้งนั้นสาเหตุมาจากคนขับหลับใน โดยในครั้งนี้ก็มาจากสาเหตุเดียวกัน ซึ่งทาง กก.8 บก.ทล. จะเร่งติดตามตัวคนขับมาดำเนินคดีให้ได้เร็วที่สุด แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องความปลอดภัยของรถตู้ เนื่องจากยังมีประชาชนหลายคนที่มีความจำเป็นต้องใช้บริการและเอาชีวิตไปเสี่ยง ซึ่งในส่วนนี้คิดว่าจะเรียกผู้ประกอบการและผู้ขับขี่มาพูดคุยเพื่อหามาตรการในการขับรถบนทางหลวง โดยปกติคนขับมักขับด้วยความเร็วสูง โดยส่วนตัวมองว่าปัญหาส่วนนี้น่าจะมีการออกกฎหมาย เพื่อเอาผิดผู้ประกอบการ เจ้าของวินในฐานที่มีการปล่อยปละละเลย เรื่องการคัดคนขับ ดูแลอบรมและการเตรียมความพร้อมก่อนวิ่งให้บริการ เพราะว่าผู้โดยสารเมื่อก้าวขึ้นรถก็ต้องฝากชีวิตไว้กับคนขับ
