ASTVผู้จัดการรายวัน - ททท. ชู 6 ยุทธศาสตร์ การตลาดเชิงรุก ดึงนักท่องเที่ยว ปี 2555 โตกว่า 10% เน้นใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม โดยมี 4 ตลาดสดใส จีน อินเดีย รัสเซีย อินโดฯ ดันรายได้ทะลุ 1 ล้านล้านบาท เติบโต 10% ภายใต้งบประมาณเบื้องต้น 5,527 ล้านบาท
วานนี้(23 มิ.ย.54) การประชุมแผนการตลาดการท่องเที่ยวปี 2555 นายสุรพล เศวต เศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ตั้งเป้าหมายการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ ในปี 2555 ไว้ที่ 8-10% สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศและตลาดในประเทศ รวมกัน 1 ล้านล้านบาท
ปัจจัยบวกที่สนับสนุน คือ การพลิกฟื้นทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง ประกอบกับ แนวโน้มสัดส่วนการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยว ที่ย้ายมาฝั่งภูมิภาคเอเชีย ตามการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นตลาดระยะใกล้ ที่สามารถเดินทาได้มากกว่าปีละ 1 ครั้ง มี 4 ตลาดหลักที่จะเติบโตสูง ได้แก่ จีน อินเดีย รัสเซีย และ อินโดนีเซีย
แต่ทั้งนี้ก็จะไม่ทิ้งการทำตลาดยุโรป ซึ่งยังมีความสำคัญ เพราะเป็นตลาดใช้จ่ายสูงและพำนักนาน
แผนปี 2555 จะเน้นการทำงานที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับ การจัดวางยุทธศาสตร์อย่างเหมาะสม ในแต่ละตลาด การสร้างแบรนด์ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ ให้เติบโต เน้นนำเสนอสินค้าตรงความต้องการของผู้บริโภค สนับสนุนเอกชนให้บริหารจัดการองค์กรแบบ กรีน แมเนจเมนต์
“ขณะนี้ใน 150 ประเทศทั่วโลก สถาบันจัดอันดับด้านสิ่งแวดล้อม มอบให้ไทยอยู่ในอันดับที่ 60 แต่หากนับแค่เอเชีย ไทยติด 1 ใน 5ของประเทศที่ตื่นตัวและให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม และในอนาคตไทยจะต้องอยู่ในอันดับที่ดีขึ้น”
การดำเนินงาน ปี 2555 ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ คือ 1. ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีสมดุล 2. เพิ่มการเติบโตของรายได้อย่างยั่งยืน 3. สร้างแบรนด์”ประเทศไทย”ให้แข็งแกร่งชัดเจน 4. พัฒนาการท่องเที่ยวตามแนวทางเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ 5. ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเครือข่าย และ 6. เพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการองค์กร
ซึ่งการทำงานจะอยู่ภายใต้งบประมาณประจำปี 2555 ซึ่งเบื้องต้นได้รับจัดสรรมาจำนวน 5,527 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2554 ราว 5.41% และแบ่งเป็น ใช้สำหรับตลาดต่างประเทศ 3,133 ล้านบาท ตลาดในประเทศ 1,461 ล้านบาท และ สำหรับจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอีกราว 932 ล้านบาท ซึ่งหลังประชุมแผน จะเชิญเอกชนมารับฟัง และสรุปแผนอีกครั้งวันที่ 26 มิ.ย.54 และนำเข้าที่ประชุมบอร์ด
ททท. 27 มิ.ย.54 เพื่อหาข้อสรุปก่อนแถลงแผนต่อสื่อมวลชน 1 ก.ค.54
ทางด้านนายสรรเสริญ เงารังษี รองผู้ว่าการ ด้านตลาดเอเชีย กล่าวว่า ปีนี้ อัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน จะสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 1.2 ล้านคน แต่จะได้มากถึง 1.4 ล้านคน หากบรรยากาศการเมืองภายหลังเลือกตั้งยังอยู่ในภาวะปกติ ล่าสุดปลายปีนี้จะเปิดสำนักงานแห่งใหม่ในจีน
นายพงษ์อนันต์ สรรพานิช ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานปักกิจ ประเทศจีน กล่าวว่า ปี 2555 จะเน้นทำตลาดทัวร์คุณภาพในตลาดจีนมากขึ้น โดยการทำตลาดของสำนักงานฯปักกิ่งจะครอบคลุมถึงพื้นที่จีนตอนเหนือ ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจดี มีกำลังซื้อสูง จากปกติ จะไปเที่ยว บาหลีและมัลดีฟ ขณะที่รัฐบาลจีน ก็ปรับปรุงเกาะไหหลำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของชาวจีน แต่ จุดแข็งที่ไทยน่าสนใจกว่าทุกเดสติเนชั่นดังกล่าว คือ เรื่องของราคา ซึ่งแม้จะพักโรงแรม 4-5 ดาว ก็ยังราคาไม่แพง
วานนี้(23 มิ.ย.54) การประชุมแผนการตลาดการท่องเที่ยวปี 2555 นายสุรพล เศวต เศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ตั้งเป้าหมายการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ ในปี 2555 ไว้ที่ 8-10% สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศและตลาดในประเทศ รวมกัน 1 ล้านล้านบาท
ปัจจัยบวกที่สนับสนุน คือ การพลิกฟื้นทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง ประกอบกับ แนวโน้มสัดส่วนการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยว ที่ย้ายมาฝั่งภูมิภาคเอเชีย ตามการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นตลาดระยะใกล้ ที่สามารถเดินทาได้มากกว่าปีละ 1 ครั้ง มี 4 ตลาดหลักที่จะเติบโตสูง ได้แก่ จีน อินเดีย รัสเซีย และ อินโดนีเซีย
แต่ทั้งนี้ก็จะไม่ทิ้งการทำตลาดยุโรป ซึ่งยังมีความสำคัญ เพราะเป็นตลาดใช้จ่ายสูงและพำนักนาน
แผนปี 2555 จะเน้นการทำงานที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับ การจัดวางยุทธศาสตร์อย่างเหมาะสม ในแต่ละตลาด การสร้างแบรนด์ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ ให้เติบโต เน้นนำเสนอสินค้าตรงความต้องการของผู้บริโภค สนับสนุนเอกชนให้บริหารจัดการองค์กรแบบ กรีน แมเนจเมนต์
“ขณะนี้ใน 150 ประเทศทั่วโลก สถาบันจัดอันดับด้านสิ่งแวดล้อม มอบให้ไทยอยู่ในอันดับที่ 60 แต่หากนับแค่เอเชีย ไทยติด 1 ใน 5ของประเทศที่ตื่นตัวและให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม และในอนาคตไทยจะต้องอยู่ในอันดับที่ดีขึ้น”
การดำเนินงาน ปี 2555 ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ คือ 1. ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีสมดุล 2. เพิ่มการเติบโตของรายได้อย่างยั่งยืน 3. สร้างแบรนด์”ประเทศไทย”ให้แข็งแกร่งชัดเจน 4. พัฒนาการท่องเที่ยวตามแนวทางเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ 5. ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเครือข่าย และ 6. เพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการองค์กร
ซึ่งการทำงานจะอยู่ภายใต้งบประมาณประจำปี 2555 ซึ่งเบื้องต้นได้รับจัดสรรมาจำนวน 5,527 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2554 ราว 5.41% และแบ่งเป็น ใช้สำหรับตลาดต่างประเทศ 3,133 ล้านบาท ตลาดในประเทศ 1,461 ล้านบาท และ สำหรับจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอีกราว 932 ล้านบาท ซึ่งหลังประชุมแผน จะเชิญเอกชนมารับฟัง และสรุปแผนอีกครั้งวันที่ 26 มิ.ย.54 และนำเข้าที่ประชุมบอร์ด
ททท. 27 มิ.ย.54 เพื่อหาข้อสรุปก่อนแถลงแผนต่อสื่อมวลชน 1 ก.ค.54
ทางด้านนายสรรเสริญ เงารังษี รองผู้ว่าการ ด้านตลาดเอเชีย กล่าวว่า ปีนี้ อัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน จะสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 1.2 ล้านคน แต่จะได้มากถึง 1.4 ล้านคน หากบรรยากาศการเมืองภายหลังเลือกตั้งยังอยู่ในภาวะปกติ ล่าสุดปลายปีนี้จะเปิดสำนักงานแห่งใหม่ในจีน
นายพงษ์อนันต์ สรรพานิช ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานปักกิจ ประเทศจีน กล่าวว่า ปี 2555 จะเน้นทำตลาดทัวร์คุณภาพในตลาดจีนมากขึ้น โดยการทำตลาดของสำนักงานฯปักกิ่งจะครอบคลุมถึงพื้นที่จีนตอนเหนือ ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจดี มีกำลังซื้อสูง จากปกติ จะไปเที่ยว บาหลีและมัลดีฟ ขณะที่รัฐบาลจีน ก็ปรับปรุงเกาะไหหลำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของชาวจีน แต่ จุดแข็งที่ไทยน่าสนใจกว่าทุกเดสติเนชั่นดังกล่าว คือ เรื่องของราคา ซึ่งแม้จะพักโรงแรม 4-5 ดาว ก็ยังราคาไม่แพง