วานนี้(20 มิ.ย) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ได้ประสานไปยังกกต.จังหวัดสมุทรปราการตรวจสอบกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงที่ให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทยชูป้ายขับไล่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคประชาะปัตย์ ระหว่างการลงพื้นที่หาเสียงช่วยผู้สมัครสส.ของพรรคจนต้องยกเลิกการหาเสียงเข้าข่ายการกระทำผิดตามกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 53 (5) มีการใช้ลักษณะอิทธิพลข่มขู่หรือไม่
“หากชูป้ายเรียกร้องการบริหารงานของรัฐบาลคงไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นการขัดขวางหาเสียง ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ทันที จึงอยากขอร้องให้พรรคการเมือง และผู้สนับสนุนหยุดการกระทำดังกล่าว เพราะทุกอย่างเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งแล้ว ขอให้ลืมเรื่องที่ผ่านมาและมาเริ่มกันใหม่” นายสุทธิพล กล่าว
ทั้งนี้ กตต.มีความเป็นห่วงสถานการณ์หาเสียงก่อนวันคะแนนเลือกตั้งที่เหลืออีก 13วัน ดังนั้น อยากเห็นทุกฝ่ายสมานฉันท์ต่อกัน
**ผู้ว่าปากน้ำไม่กลัวเด้งแดงไล่มาร์ค
นายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่หาเสียงของนายอภิสิทธิ์ ได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ จึงมั่นใจว่าจะไม่ถูกย้ายออกจากพื้นที่จากเรื่องการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ กับกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย
“ยอมรับว่าจ.สมุทรปราการเป็นพื้นที่ของกลุ่มคนเสื้อแดง การที่จะมีประชาชนออกมาแสดงตัวต่อต้านการลงพื้นที่หาเสียงก็เป็นเรื่องของความคิดของแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นการแสดงออกในรูปแบบของประชาธิปไตยอีกแบบหนึ่ง” นายเชิดศักดิ์ กล่าว
รายงานแจ้งว่า นายเชิดศักดิ์ เป็นผูประเมิน เหตุการณ์จะรุนแรงขึ้นจึงแจ้งกับนายอภิสิทธิ์ ให้เดินทางออกจากพื้นที่ก่อนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
**ปล่อยบัตรล่วงหน้า2.8 ล้านฉบับ
ที่บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัทไปรษณีย์ไทยร่วมกับ กกต.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปล่อยขบวนขนส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดไปยังสำนักงานกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต โดยมีน.ส.อานุสรา จิตต์มิตรภาพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บ.ไปรษณีย์ไทย จำกัด นายสมชาติ เจศรีชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง และ พ.ต.อ.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รองผู้กำกับการกองปราบปราม ร่วมปล่อยขบวน
ทั้งนี้เป็นบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต จำนวน 2.8 ล้านฉบับ โดยใช้รถขนส่ง จำนวน 58 คัน เพื่อให้ทันการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 มิ.ย.โดยบัตรเลือกตั้งจะกระจายไปยังปลายทาง 50 สำนักงานเขตในกรุงเทพมหานคร และที่ว่าการอำเภอ 3 แห่ง ใน จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี และจ.สมุทรปราการ ซึ่งกกต. ใช้งบประมาณในครั้งนี้ จำนวน 200 ล้านบาท มั้งนี้ยังมีการส่งเพิ่มเติมไปยังจ.ในภาคกลาง และภาคเหนือ อีกจำนวน 235 เที่ยว
**สรุปใช้สิทธิล่วงหน้า 217,821 คน
กกต.ยังสรุปยอดรวมจำนวนผู้มาขอลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง ที่เปิดให้ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 13- 17 มิ.ย. 2554 รวม 5 วัน จำนวน 77 จังหวัด 375 เขต มีจำนวนทั้งสิ้น 217,821 คน โดย กรุงเทพมหานคร มีผู้มาขอลงทะเบียน จำนวน 35,065 คน จ. นนทบุรี จำนวน 6,208 คน จ. ปทุมธานี 3,065 คน จ. นครปฐม จำนวน 2,796 คน จ. ราชบุรี จำนวน 3, 153 คนฯลฯ
ทั้งนี้ จังหวัดที่มีผู้มาขอใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง มากสุด ได้แก่ กทม. ส่วนจ. บึงกาฬ น้อยที่สุด
**กกต.โคราชเผยร้องทุจริต15เรื่อง
พล.อ วีรวุธ ส่งสาย ประธาน กกต.จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยเป็นเขตเลือกตั้งที่ 7-9-10 จำนวน 15 เรื่อง คือ ข้อกล่าวหา จนท.รัฐ วางตัวไม่เป็นกลาง 3 เรื่อง การเตรียมการซื้อเสียง โดยมีพฤติการณ์ จดรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามบ้าน ,เก็บบัตรประจำตัวประชาชน, จ่ายให้ผู้ไปฟังการปราศรัย และ การใช้อิทธิพลข่มขู่ กลุ่มผู้สนับสนุน ทั้งนี้อยู่ระหว่างกระบวนแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
ส่วน กรณี ว่าที่ รต.หญิง ระนองรักษ์ สุวารรณฉวี ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พร้อมพวก ซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส.เขต ได้แถลงข่าว ระบุมีข้าราชการระดับสูง สังกัดกรมการปกครอง ในจังหวัดนครราชสีมา มีพฤติการณ์วางตัวไม่เป็นกลาง โดยใช้อำนาจข่มขู่ ผู้ใต้บังคับบัญชา ให้ช่วยเหลือผู้สมัคร มิเช่นนั้นจะถูกสั่งย้าย จนถึงขณะนี้ กกต.จังหวัด ยังไม่ได้รับการร้องเข้ามาเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ก็มิได้นิ่งนอนใจ
“หากชูป้ายเรียกร้องการบริหารงานของรัฐบาลคงไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นการขัดขวางหาเสียง ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ทันที จึงอยากขอร้องให้พรรคการเมือง และผู้สนับสนุนหยุดการกระทำดังกล่าว เพราะทุกอย่างเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งแล้ว ขอให้ลืมเรื่องที่ผ่านมาและมาเริ่มกันใหม่” นายสุทธิพล กล่าว
ทั้งนี้ กตต.มีความเป็นห่วงสถานการณ์หาเสียงก่อนวันคะแนนเลือกตั้งที่เหลืออีก 13วัน ดังนั้น อยากเห็นทุกฝ่ายสมานฉันท์ต่อกัน
**ผู้ว่าปากน้ำไม่กลัวเด้งแดงไล่มาร์ค
นายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่หาเสียงของนายอภิสิทธิ์ ได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ จึงมั่นใจว่าจะไม่ถูกย้ายออกจากพื้นที่จากเรื่องการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ กับกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย
“ยอมรับว่าจ.สมุทรปราการเป็นพื้นที่ของกลุ่มคนเสื้อแดง การที่จะมีประชาชนออกมาแสดงตัวต่อต้านการลงพื้นที่หาเสียงก็เป็นเรื่องของความคิดของแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นการแสดงออกในรูปแบบของประชาธิปไตยอีกแบบหนึ่ง” นายเชิดศักดิ์ กล่าว
รายงานแจ้งว่า นายเชิดศักดิ์ เป็นผูประเมิน เหตุการณ์จะรุนแรงขึ้นจึงแจ้งกับนายอภิสิทธิ์ ให้เดินทางออกจากพื้นที่ก่อนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
**ปล่อยบัตรล่วงหน้า2.8 ล้านฉบับ
ที่บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัทไปรษณีย์ไทยร่วมกับ กกต.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปล่อยขบวนขนส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดไปยังสำนักงานกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต โดยมีน.ส.อานุสรา จิตต์มิตรภาพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บ.ไปรษณีย์ไทย จำกัด นายสมชาติ เจศรีชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง และ พ.ต.อ.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รองผู้กำกับการกองปราบปราม ร่วมปล่อยขบวน
ทั้งนี้เป็นบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต จำนวน 2.8 ล้านฉบับ โดยใช้รถขนส่ง จำนวน 58 คัน เพื่อให้ทันการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 มิ.ย.โดยบัตรเลือกตั้งจะกระจายไปยังปลายทาง 50 สำนักงานเขตในกรุงเทพมหานคร และที่ว่าการอำเภอ 3 แห่ง ใน จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี และจ.สมุทรปราการ ซึ่งกกต. ใช้งบประมาณในครั้งนี้ จำนวน 200 ล้านบาท มั้งนี้ยังมีการส่งเพิ่มเติมไปยังจ.ในภาคกลาง และภาคเหนือ อีกจำนวน 235 เที่ยว
**สรุปใช้สิทธิล่วงหน้า 217,821 คน
กกต.ยังสรุปยอดรวมจำนวนผู้มาขอลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง ที่เปิดให้ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 13- 17 มิ.ย. 2554 รวม 5 วัน จำนวน 77 จังหวัด 375 เขต มีจำนวนทั้งสิ้น 217,821 คน โดย กรุงเทพมหานคร มีผู้มาขอลงทะเบียน จำนวน 35,065 คน จ. นนทบุรี จำนวน 6,208 คน จ. ปทุมธานี 3,065 คน จ. นครปฐม จำนวน 2,796 คน จ. ราชบุรี จำนวน 3, 153 คนฯลฯ
ทั้งนี้ จังหวัดที่มีผู้มาขอใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง มากสุด ได้แก่ กทม. ส่วนจ. บึงกาฬ น้อยที่สุด
**กกต.โคราชเผยร้องทุจริต15เรื่อง
พล.อ วีรวุธ ส่งสาย ประธาน กกต.จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยเป็นเขตเลือกตั้งที่ 7-9-10 จำนวน 15 เรื่อง คือ ข้อกล่าวหา จนท.รัฐ วางตัวไม่เป็นกลาง 3 เรื่อง การเตรียมการซื้อเสียง โดยมีพฤติการณ์ จดรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามบ้าน ,เก็บบัตรประจำตัวประชาชน, จ่ายให้ผู้ไปฟังการปราศรัย และ การใช้อิทธิพลข่มขู่ กลุ่มผู้สนับสนุน ทั้งนี้อยู่ระหว่างกระบวนแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
ส่วน กรณี ว่าที่ รต.หญิง ระนองรักษ์ สุวารรณฉวี ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พร้อมพวก ซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส.เขต ได้แถลงข่าว ระบุมีข้าราชการระดับสูง สังกัดกรมการปกครอง ในจังหวัดนครราชสีมา มีพฤติการณ์วางตัวไม่เป็นกลาง โดยใช้อำนาจข่มขู่ ผู้ใต้บังคับบัญชา ให้ช่วยเหลือผู้สมัคร มิเช่นนั้นจะถูกสั่งย้าย จนถึงขณะนี้ กกต.จังหวัด ยังไม่ได้รับการร้องเข้ามาเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ก็มิได้นิ่งนอนใจ