ASTVผู้จัดการรายวัน – เอกชนผู้จัดงานแสดงสินค้า ยังมึน เหลืออีก 6 เดือน ศูนย์ประชุมนานาชาติเชียงใหม่จะสร้างเสร็จ แต่กระทรวงการท่องเที่ยวยังใจเย็น ไร้ข่าวเปิดประมูลสิทธิ์ ย้ำที่ถูกต้องต้องทำตลาดล่วงหน้า 2 ปี หวั่นสุดท้ายกลายเป็นศูนย์โอท็อปหรือโชว์ห่วย ฟากกระทรวงการท่องเที่ยวฯระบุ ช่วงนี้งานชะลอ ต้องคอยหลังเลือกตั้ง
นายพรรธระพี ชินะโชติ" ประธาน บริษัท บางกอก เอ็กซิบิชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด (BES) อดีตนายกสมาคมการแสดงสินค้าไทย (Thai Exhibition Association : TEA) กล่าวว่า กรณีศูนย์ประชุมนานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการสร้าง และคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการราวเดือน พ.ย.หรือธ.ค. ศกนี้ ซึ่งเหลือเวลาไม่เกิน 6 เดือน จึงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมาก หากศูนย์ดังกล่าวสร้างเสร็จ แต่ไม่สามารถมีงานแสดงระดับอินเตอร์มาจัดแสดงได้ทันที
ทั้งนี้เพราะถึงขณะนี้ยังไม่มีทีท่าว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะทำการเปิดประมูลสิทธิ์ หาผู้มาทำการตลาดและบริหารจัดการศูนย์ฯ ทั้งที่โดยทั่วไป ศูนย์การแสดงสินค้ารูปแบบนี้ ต้องใช้เวลาในการทำตลาด พร้อมโรดโชว์ สร้างการรับรู้ ก่อนศูนย์ฯเปิดบริการอย่างน้อย 1- 2 ปี
“ศูนย์แสดงสินค้าที่กรุงไฮเดอราบาด ประเทศอินเดีย เขาเริ่มทำการตลาด โรดโชว์ นาน 2 ปี ก่อนเปิดบริการ ที่เชียงใหม่ อีกราว 4-5 เดือน จะเปิดบริการ ยังไม่มีแผนผังพื้นที่การใช้งานของศูนย์ ออกมาให้แก่ภาคเอกชนได้รับรู้ เพื่อจะเตรียมแผนการตลาดไว้บ้าง เพราะหากเปิดศูนย์แล้วนำงาน เฟอร์นิเจอร์ งานสินค้า เอสเอ็มอี มาจัดแสดง
โพสิชั่นนิ่งศูนย์ระดับอินเตอร์ที่ตั้งไว้ก็จะหมดไป”
อย่างไรก็ตามต้องการเตือนกระทรวงการท่องเที่ยวและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องว่า การทำการตลาดของศูนย์แสดงสินค้าซึ่งตั้งในพื้นที่ต่างจังหวัด จะเหนื่อยและลำบากกว่า ศูนย์ในกรุงเทพฯ ต้องวางแผนการจัดงานให้ดี เพราะโชว์พรีเมียมซึ่งยอมจ่ายค่าบูทๆละ 9 หมื่นบาท เขาก็ไม่ต้องการไปเพราะไม่สะดวกเหมือนจัดในกรุงเทพฯ
สุดท้ายจะต้องตัดสินใจรับงานที่ผู้จัดมีกำลังจ่ายเพียงบูทละ 2-3 หมื่นบาท ซึ่งสินค้าที่มาแสดงโชว์ก็แตกต่างกัน อาจกลายเป็นศูนย์โชว์ห่วย นำเสนอสินค้าที่เน้น ลด แจก แถม สุดท้ายก็จะเป็นเหมือนสนามกีฬาจังหวัด ที่สร้างแล้วไม่มีคนใช้ รัฐต้องจ่ายเงินค่าดูแลรักษา
นายกนก สุวรรณวิสูตร ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) ภาคเหนือ กล่าวว่า ในส่วนของภาคเอกชนในภาคเหนือและเชียงใหม่ ก็ไม่มีใครทราบความคืบหน้าของศูนย์ประชุมนานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ รู้แต่เพียงว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง เพราะที่ผ่านมา ภาครัฐไม่เคยมีการทำงานประสานกับภาคเอกชน โดยขณะนี้ไม่มีใครรู้ว่าสร้างเสร็จแล้ว มีแผนโปรโมตอย่างไร ทั้งที่ศูนย์ฯระดับชาติเช่นนี้ต้องทำการตลาดก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 2 ปี
แหล่งข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดแผยว่า ขั้นตอนการดำเนินการเปิดประมูลสิทธิ์บริหารศูนย์ฯเชียงใหม่ ต้องชะลอออกไปก่อน เพราะต้องนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯให้ตรวจสอบ ก่อนประกาศหาผู้สนใจ แต่หากศูนย์สร้างเสร็จ มั่นใจจะมีการจัดแสดงได้ทันที เพราะในปี2555 มีงานกีฬาหลายงานที่สามารถนำไปจัดยังศูนย์ประชุมฯที่เชียงใหม่ได้ โดยขอความร่วมมือจากหน่วยงานรัฐและหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงฯ
นายพรรธระพี ชินะโชติ" ประธาน บริษัท บางกอก เอ็กซิบิชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด (BES) อดีตนายกสมาคมการแสดงสินค้าไทย (Thai Exhibition Association : TEA) กล่าวว่า กรณีศูนย์ประชุมนานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการสร้าง และคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการราวเดือน พ.ย.หรือธ.ค. ศกนี้ ซึ่งเหลือเวลาไม่เกิน 6 เดือน จึงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมาก หากศูนย์ดังกล่าวสร้างเสร็จ แต่ไม่สามารถมีงานแสดงระดับอินเตอร์มาจัดแสดงได้ทันที
ทั้งนี้เพราะถึงขณะนี้ยังไม่มีทีท่าว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะทำการเปิดประมูลสิทธิ์ หาผู้มาทำการตลาดและบริหารจัดการศูนย์ฯ ทั้งที่โดยทั่วไป ศูนย์การแสดงสินค้ารูปแบบนี้ ต้องใช้เวลาในการทำตลาด พร้อมโรดโชว์ สร้างการรับรู้ ก่อนศูนย์ฯเปิดบริการอย่างน้อย 1- 2 ปี
“ศูนย์แสดงสินค้าที่กรุงไฮเดอราบาด ประเทศอินเดีย เขาเริ่มทำการตลาด โรดโชว์ นาน 2 ปี ก่อนเปิดบริการ ที่เชียงใหม่ อีกราว 4-5 เดือน จะเปิดบริการ ยังไม่มีแผนผังพื้นที่การใช้งานของศูนย์ ออกมาให้แก่ภาคเอกชนได้รับรู้ เพื่อจะเตรียมแผนการตลาดไว้บ้าง เพราะหากเปิดศูนย์แล้วนำงาน เฟอร์นิเจอร์ งานสินค้า เอสเอ็มอี มาจัดแสดง
โพสิชั่นนิ่งศูนย์ระดับอินเตอร์ที่ตั้งไว้ก็จะหมดไป”
อย่างไรก็ตามต้องการเตือนกระทรวงการท่องเที่ยวและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องว่า การทำการตลาดของศูนย์แสดงสินค้าซึ่งตั้งในพื้นที่ต่างจังหวัด จะเหนื่อยและลำบากกว่า ศูนย์ในกรุงเทพฯ ต้องวางแผนการจัดงานให้ดี เพราะโชว์พรีเมียมซึ่งยอมจ่ายค่าบูทๆละ 9 หมื่นบาท เขาก็ไม่ต้องการไปเพราะไม่สะดวกเหมือนจัดในกรุงเทพฯ
สุดท้ายจะต้องตัดสินใจรับงานที่ผู้จัดมีกำลังจ่ายเพียงบูทละ 2-3 หมื่นบาท ซึ่งสินค้าที่มาแสดงโชว์ก็แตกต่างกัน อาจกลายเป็นศูนย์โชว์ห่วย นำเสนอสินค้าที่เน้น ลด แจก แถม สุดท้ายก็จะเป็นเหมือนสนามกีฬาจังหวัด ที่สร้างแล้วไม่มีคนใช้ รัฐต้องจ่ายเงินค่าดูแลรักษา
นายกนก สุวรรณวิสูตร ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) ภาคเหนือ กล่าวว่า ในส่วนของภาคเอกชนในภาคเหนือและเชียงใหม่ ก็ไม่มีใครทราบความคืบหน้าของศูนย์ประชุมนานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ รู้แต่เพียงว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง เพราะที่ผ่านมา ภาครัฐไม่เคยมีการทำงานประสานกับภาคเอกชน โดยขณะนี้ไม่มีใครรู้ว่าสร้างเสร็จแล้ว มีแผนโปรโมตอย่างไร ทั้งที่ศูนย์ฯระดับชาติเช่นนี้ต้องทำการตลาดก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 2 ปี
แหล่งข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดแผยว่า ขั้นตอนการดำเนินการเปิดประมูลสิทธิ์บริหารศูนย์ฯเชียงใหม่ ต้องชะลอออกไปก่อน เพราะต้องนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯให้ตรวจสอบ ก่อนประกาศหาผู้สนใจ แต่หากศูนย์สร้างเสร็จ มั่นใจจะมีการจัดแสดงได้ทันที เพราะในปี2555 มีงานกีฬาหลายงานที่สามารถนำไปจัดยังศูนย์ประชุมฯที่เชียงใหม่ได้ โดยขอความร่วมมือจากหน่วยงานรัฐและหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงฯ
