ASTVผู้จัดการรายวัน - เอกชนท่องเที่ยวผิดหวังนโยบายท่องเที่ยวของแต่ละพรรคไร้ทิศทางกำหนดยุทธศาสตร์ เป้าหมาย จำนวนและรายได้จากการท่องเที่ยว มุ่งขายฝันแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ ยังฉะเจ้ากระทรวงไร้กึ๋น หยั่งเสียง 4
พรรคหนุนแยกกระทรวงท่องเที่ยวออกจากกีฬา
วานนี้(14 มิ.ย.54) งานเสวนา เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ด้านการท่องเที่ยว โดย 6 พรรคการเมือง “นโยบายท่องเที่ยวไทย....กับรัฐบาลใหม่” จัดโดยสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย หรือ เฟสต้า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 6 พรรคการเมืองที่เข้าร่วมเสวนาครั้งนี้ ได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนาเพื่อแผ่นดิน และพรรคประชาสันติ ขณะที่ พรรคชาติไทยพัฒนา
ซึ่งมีนายชุมพล ศิลปอาชา เป็นหัวหน้าพรรค และเป็นพรรคที่ดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มาตลอด ตั้งแต่เริ่ม เมื่อใกล้ถึงเวลาเสวนากลับมีผู้โทรศัพท์มาแจ้งผู้จัดงานว่า ลืมหมายงานในครั้งนี้
สำหรับเนื้อหาการเสวนา โดยภาพรวมแล้ว ทุกพรรคการเมืองนำเสนอไปในทิศทางเดียวกัน คือเรื่องของการพัฒนา ระบบคมนาคม พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว แยกการท่องเที่ยวให้ท้องถิ่นได้บริหารจัดการตัวเอง เพื่อการกระจายรายได้และงบประมาณสู่ชุมชน การนำกฎหมายที่มีอยู่มาบังคับใช้อย่างเข้มแข็ง เป็นต้น
***นายกทีทีเอเอไม่ปลื้มทุกพรรค
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว หรือ ทีทีเอเอ กล่าวว่า ทุกพรรคการเมืองยังไม่มีความเข้าใจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ดีพอ พรรคการเมืองต้องวางยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวให้ชัดเจน เช่น ใน 3-5 ปีนับจากนี้ จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนเท่าใด รายได้เท่าใด วิธีการที่จะดำเนินไปถึงเป้าหมายทำอย่างไร งบประมาณต่อปี หรือจะวางให้ไทยเป็นฮับด้านการท่องเที่ยวด้านไหน แต่ทุกพรรคจะพูดถึงแต่เรื่องในอดีต ไม่มีแม้กระทั่งแนวทางการทำงานที่จะประสานงานร่วมกับภาคเอกชน
***อัดมีแต่โปรยเงินเรียกคะแนน******
นายโอภาส เนตรอำไพ ประธานสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ(ไทย) กล่าวว่า rพรรคการเมือง ส่วนใหญ่ชูนโยบายที่ว่าจะจัดสรรเงินกองทุน ให้องค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น จังหวัดละ 100 ล้านบาท เพื่อให้เงินเหล่านั้น ได้ถูกนำมาใช้ด้านการพัฒนาท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ ทั้งที่ประเด็นสำคัญ ต้องสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่คนในพื้นที่มากกว่าการทุ่มให้เงิน ส่วนปัญหาด้านคนในกระทรวงการท่องเที่ยวทำงานไม่เป็นนั้น ต้องเร่งแก้ไข เพราะ ขณะนี้มองว่า การทำงานของ ททท.ไม่คล่องตัว
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย หรือ ทีเอชเอ กล่าวว่า การเสวนาครั้งนี้ยัง ไร้ทิศทาง เพราะเอกชน ต้องการรู้ว่าแต่ละพรรคจะมีแผนทำอะไร และเมื่อเป็นรัฐบาลแล้วจะทำได้จริงหรือไม่ มองว่า นโยบายให้เงิน 100 ล้านบาท ในแต่ละท้องถิ่น จะไม่ลงสู่ท่องเที่ยวอย่างแท้จริง แต่ละลงไปในสิ่งปลูกสร้างมากกว่า
เป็นการให้แบบไม่มียุทธศาสตร์
นายชูชาติ ทองคำ นายกสมาคม ผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย(สปข.) กล่าวว่า ทุกพรรคการเมืองยังตอบไม่ตรงประเด็น นำนโยบายเก่ามาใช้ซึ่งยังไม่เคยทำได้ การแก้ปัญหากรณีหน่วยงานรัฐมาจัดทัวร์แข่งขันกับเอกชนก็ตอบไม่ชัดเจน โดยสรุปทุกคนพูดแต่อดีต
***4 พรรคหนุนแยกท่องเที่ยว
การเสวนาครั้งนี้มีประเด็นถามตอบที่น่าสนใจ กรณีการตั้งคำถามให้แต่ละพรรคการเมืองตอบ ในประเด็นว่ามีแผนแยกกระทรวงการท่องเที่ยวออกจากจากกีฬาหรือไม่อย่างไร โดยรวมทุกพรรคเห็นด้วยกับการแยกการบริหารจัดการให้ชัดเจนกว่าที่เป็นอยู่ จะแยกท่องเที่ยวเป็นกระทรวงอิสระจากกีฬา
หรือไม่ก็ต้องมีรัฐมนตรีช่วยว่าการแยกดูงานด้านการท่องเที่ยวหรือกีฬา ขณะที่ผู้ร่วมเสวนา นาวสาว ภูวนิดา คุนผลิน จากพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ยังเชื่อมั่นว่า ท่องเที่ยวกับกีฬาไปด้วยกันได้ ถ้าจัดระบบอย่างเหมาะสม เพราะกีฬาจะหนุนท่องเที่ยว
พรรคหนุนแยกกระทรวงท่องเที่ยวออกจากกีฬา
วานนี้(14 มิ.ย.54) งานเสวนา เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ด้านการท่องเที่ยว โดย 6 พรรคการเมือง “นโยบายท่องเที่ยวไทย....กับรัฐบาลใหม่” จัดโดยสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย หรือ เฟสต้า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 6 พรรคการเมืองที่เข้าร่วมเสวนาครั้งนี้ ได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนาเพื่อแผ่นดิน และพรรคประชาสันติ ขณะที่ พรรคชาติไทยพัฒนา
ซึ่งมีนายชุมพล ศิลปอาชา เป็นหัวหน้าพรรค และเป็นพรรคที่ดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มาตลอด ตั้งแต่เริ่ม เมื่อใกล้ถึงเวลาเสวนากลับมีผู้โทรศัพท์มาแจ้งผู้จัดงานว่า ลืมหมายงานในครั้งนี้
สำหรับเนื้อหาการเสวนา โดยภาพรวมแล้ว ทุกพรรคการเมืองนำเสนอไปในทิศทางเดียวกัน คือเรื่องของการพัฒนา ระบบคมนาคม พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว แยกการท่องเที่ยวให้ท้องถิ่นได้บริหารจัดการตัวเอง เพื่อการกระจายรายได้และงบประมาณสู่ชุมชน การนำกฎหมายที่มีอยู่มาบังคับใช้อย่างเข้มแข็ง เป็นต้น
***นายกทีทีเอเอไม่ปลื้มทุกพรรค
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว หรือ ทีทีเอเอ กล่าวว่า ทุกพรรคการเมืองยังไม่มีความเข้าใจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ดีพอ พรรคการเมืองต้องวางยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวให้ชัดเจน เช่น ใน 3-5 ปีนับจากนี้ จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนเท่าใด รายได้เท่าใด วิธีการที่จะดำเนินไปถึงเป้าหมายทำอย่างไร งบประมาณต่อปี หรือจะวางให้ไทยเป็นฮับด้านการท่องเที่ยวด้านไหน แต่ทุกพรรคจะพูดถึงแต่เรื่องในอดีต ไม่มีแม้กระทั่งแนวทางการทำงานที่จะประสานงานร่วมกับภาคเอกชน
***อัดมีแต่โปรยเงินเรียกคะแนน******
นายโอภาส เนตรอำไพ ประธานสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ(ไทย) กล่าวว่า rพรรคการเมือง ส่วนใหญ่ชูนโยบายที่ว่าจะจัดสรรเงินกองทุน ให้องค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น จังหวัดละ 100 ล้านบาท เพื่อให้เงินเหล่านั้น ได้ถูกนำมาใช้ด้านการพัฒนาท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ ทั้งที่ประเด็นสำคัญ ต้องสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่คนในพื้นที่มากกว่าการทุ่มให้เงิน ส่วนปัญหาด้านคนในกระทรวงการท่องเที่ยวทำงานไม่เป็นนั้น ต้องเร่งแก้ไข เพราะ ขณะนี้มองว่า การทำงานของ ททท.ไม่คล่องตัว
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย หรือ ทีเอชเอ กล่าวว่า การเสวนาครั้งนี้ยัง ไร้ทิศทาง เพราะเอกชน ต้องการรู้ว่าแต่ละพรรคจะมีแผนทำอะไร และเมื่อเป็นรัฐบาลแล้วจะทำได้จริงหรือไม่ มองว่า นโยบายให้เงิน 100 ล้านบาท ในแต่ละท้องถิ่น จะไม่ลงสู่ท่องเที่ยวอย่างแท้จริง แต่ละลงไปในสิ่งปลูกสร้างมากกว่า
เป็นการให้แบบไม่มียุทธศาสตร์
นายชูชาติ ทองคำ นายกสมาคม ผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย(สปข.) กล่าวว่า ทุกพรรคการเมืองยังตอบไม่ตรงประเด็น นำนโยบายเก่ามาใช้ซึ่งยังไม่เคยทำได้ การแก้ปัญหากรณีหน่วยงานรัฐมาจัดทัวร์แข่งขันกับเอกชนก็ตอบไม่ชัดเจน โดยสรุปทุกคนพูดแต่อดีต
***4 พรรคหนุนแยกท่องเที่ยว
การเสวนาครั้งนี้มีประเด็นถามตอบที่น่าสนใจ กรณีการตั้งคำถามให้แต่ละพรรคการเมืองตอบ ในประเด็นว่ามีแผนแยกกระทรวงการท่องเที่ยวออกจากจากกีฬาหรือไม่อย่างไร โดยรวมทุกพรรคเห็นด้วยกับการแยกการบริหารจัดการให้ชัดเจนกว่าที่เป็นอยู่ จะแยกท่องเที่ยวเป็นกระทรวงอิสระจากกีฬา
หรือไม่ก็ต้องมีรัฐมนตรีช่วยว่าการแยกดูงานด้านการท่องเที่ยวหรือกีฬา ขณะที่ผู้ร่วมเสวนา นาวสาว ภูวนิดา คุนผลิน จากพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ยังเชื่อมั่นว่า ท่องเที่ยวกับกีฬาไปด้วยกันได้ ถ้าจัดระบบอย่างเหมาะสม เพราะกีฬาจะหนุนท่องเที่ยว