ASTVผู้จัดการรายวัน – โออิชิ เดินเกมแตกเซกเมนต์ใหม่-อัดนวัตกรรม สร้างตลาดชาเขียวพร้อมดื่ม 5ปี เทียบชั้นน้ำอัดลมมูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านบาท รุดขยายไลน์ชาเขียวอัดก๊าซ”โออิชิ ชาคูลล์ซ่า” กินแชร์น้ำอัดลม 20% ในอีก 5 ปี กวาดยอดขาย 6,000 ล้านบาท ถล่มเป๊ปซี่-โค้ก ลั่นปีแรกซิวแชร์ 3-4% หวังฟรุตโตะชิงแชร์ตลาดน้ำผลไม้ 20% ตั้งเป้า 5 ปี รายได้รวมขยับ 2 หมื่นล้านบาท
นายแมทธิว กิจโอธาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ เปิดเผยว่า นโยบายการทำตลาดชาเขียวพร้อมดื่มภายใต้แบรนด์”โออิชิ”ในฐานะที่เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 60% วางแผนขยายชาเขียวพร้อมดื่มสู่เซกเมนต์ใหม่ เพื่อผลักดันให้ตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมีอัตราการเติบโตปีละ 25% อย่างต่อเนื่อง
ด้วยการขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มอื่นๆ ล่าสุดบริษัทได้ขยายเซกเมนต์ชาเขียวพร้อมดื่มอัดก๊าซภายใต้แบรนด์”โออิชิ ชาคูลล์ซ่า” เพื่อเจาะตลาดน้ำอัดลม ซึ่งเป็นตลาดใหญ่มีมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 6% จากมูลค่าตลาดเครื่องดื่มโดยรวม 1.6แสนล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทได้ทุ่มงบกว่า 150 ล้านบาท เปิดตัวโออิชิ ชาคูลล์ซ่า วางตำแหน่งการตลาดเป็นชาเขียวพร้อมดื่มอัดก๊าซ เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นอายุ 18ปี ซึ่งจะเป็นเครื่องดื่มที่เข้าไปกินส่วนแบ่งตลาดน้ำอัดลม โดยเฉพาะกลุ่มที่ห่วงใยสุขภาพแต่ขณะเดียวกันก็ต้องการความสดชื่น โดยบรรจุภัณฑ์กระป๋องขนาด 320 มล.ราคา 15 บาท สูงกว่าน้ำอัดลมที่จำหน่าย 14 บาท
เริ่มวางจำหน่ายครอบคลุมทุกช่องทาง ในโมเดิร์นเทรดได้ให้บริษัทไทยเบฟเวอเรจ เป็นผู้จัดจำหน่าย และในช่องทางเทรดิชันนัลเทรดให้บริษัทไทยดริ้งค์เป็นผู้กระจายสินค้า ส่วนบริษัทเบียร์ทิพย์ บริวเวอรี่ เป็นผู้ผลิต 10 ล้านกระป๋องต่อเดือน
“จากการสำรวจพบว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคไทย นอกจากจะมองหาเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแล้ว ก็ยังต้องดื่มเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์ด้านความสดชื่นควบคู่ไปด้วย สำหรับการเปิดตัวชาเขียวพร้อมดื่มอัดก๊าซ ถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่และเป็นเครื่องดื่มชาเขียวอัดก๊าซตัวแรกในภูมิภาคเอเชีย โดยมี 2 รสชาติ คือ ชาเขียวรสน้ำผึ้งมะนาว และชาดำรสมะนาว”
นายแมทธิว กล่าวว่า กลยุทธ์การตลาดการสร้างตลาดชาเขียวพร้อมดื่มให้เติบโต ต้องมีนวัตกรรมออกมาขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ โดยเป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ บริษัทตั้งเป้าผลักดันตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมีมูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านบาท จากการเติบโตเฉลี่ย 25% ต่อปี ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทเปิดตัวชาเขียวพร้อมดื่มฟรุตโตะ วางตำแหน่งเป็นชาพร้อมดื่มผสมน้ำผลไม้
เพื่อขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มผู้ดื่มน้ำผลไม้ซึ่งมีมูลค่าตลาด 9,000 ล้านบาท เจาะกลุ่มอายุ 12-15ปี โดยวางเป้าหมายชิงส่วนแบ่งตลาดน้ำผลไม้ 10-20% ในอนาคต
“ที่ผ่านมาโออิชิ มีสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขนาดของบรรจุภัณฑ์ยูเอชที เจาะกลุ่มเด็ก ชาเขียวพร้อมดื่มออริจินัลเจาะกลุ่มอายุ 25-29ปี ขณะที่ชาเขียวชาคูลล์ซ่า เจาะกลุ่มนักศึกษา เริ่มวัยทำงาน ส่วนฟรุตโตะเจาะกลุ่มวัยทีน และในอนาคตบริษัทจะขยายชาเขียวพร้อมดื่มไปสู่เซกเมนต์ใหม่อย่างต่อเนื่อง”
นายอนิรุทธ์ มหธร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้วางแผนการจัดกิจกรรมการสื่อสารการตลาด 360องศา นำร่องเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา สื่อโฆษณานอกบ้าน การวาดภาพบนกำแพงกว่า 100จุด สื่อรถไฟฟ้า รถโดยสาร และการจัดกิจกรรมโรดโชว์ทั่วประเทศ เพื่อสร้างการรับรู้และเกิดการจดจำ และหากได้รับการตอบรับที่ดีจะขยายบรรจุภัณฑ์ใหม่ๆ อาทิ
ขวดเพ็ท ฯลฯ โดยในอนาคตชาเชียวชาคูลล์ซ่า จะเป็นสินค้าเรือธงที่สร้างรายได้ผลักดันรายได้โต 25% ทุกปี
สภาพตลาดชาเขียวพร้อมดื่มปีนี้มูลค่า 7,700 ล้านบาท หรือเติบโต 25% ซึ่งการมีคู่แข่งหน้าใหม่อย่างอิชิตัน เข้ามาทำตลาดจะช่วยผลักดันให้ตลาดเติบโตเพิ่มขึ้น ส่วนการทำตลาดชาเขียวอัดก๊าซในปีแรก ตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 3-4% หรือมียอดขาย 1,000 ล้านบาท จากตลาดน้ำอัดลมมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท และอีก 5ปี ตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 20%หรือยอดขาย 6,000 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการโดยรวมปีนี้ตั้งเป้าโต 20% หรือ 1.1หมื่นล้านบาท จากปีที่ผ่านมีรายได้ 10,100 ล้านบาท ส่วนรายได้ 5 ปีจากนี้ตั้งเป้า 2 หมื่นล้านบาท
นายแมทธิว กิจโอธาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ เปิดเผยว่า นโยบายการทำตลาดชาเขียวพร้อมดื่มภายใต้แบรนด์”โออิชิ”ในฐานะที่เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 60% วางแผนขยายชาเขียวพร้อมดื่มสู่เซกเมนต์ใหม่ เพื่อผลักดันให้ตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมีอัตราการเติบโตปีละ 25% อย่างต่อเนื่อง
ด้วยการขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มอื่นๆ ล่าสุดบริษัทได้ขยายเซกเมนต์ชาเขียวพร้อมดื่มอัดก๊าซภายใต้แบรนด์”โออิชิ ชาคูลล์ซ่า” เพื่อเจาะตลาดน้ำอัดลม ซึ่งเป็นตลาดใหญ่มีมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 6% จากมูลค่าตลาดเครื่องดื่มโดยรวม 1.6แสนล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทได้ทุ่มงบกว่า 150 ล้านบาท เปิดตัวโออิชิ ชาคูลล์ซ่า วางตำแหน่งการตลาดเป็นชาเขียวพร้อมดื่มอัดก๊าซ เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นอายุ 18ปี ซึ่งจะเป็นเครื่องดื่มที่เข้าไปกินส่วนแบ่งตลาดน้ำอัดลม โดยเฉพาะกลุ่มที่ห่วงใยสุขภาพแต่ขณะเดียวกันก็ต้องการความสดชื่น โดยบรรจุภัณฑ์กระป๋องขนาด 320 มล.ราคา 15 บาท สูงกว่าน้ำอัดลมที่จำหน่าย 14 บาท
เริ่มวางจำหน่ายครอบคลุมทุกช่องทาง ในโมเดิร์นเทรดได้ให้บริษัทไทยเบฟเวอเรจ เป็นผู้จัดจำหน่าย และในช่องทางเทรดิชันนัลเทรดให้บริษัทไทยดริ้งค์เป็นผู้กระจายสินค้า ส่วนบริษัทเบียร์ทิพย์ บริวเวอรี่ เป็นผู้ผลิต 10 ล้านกระป๋องต่อเดือน
“จากการสำรวจพบว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคไทย นอกจากจะมองหาเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแล้ว ก็ยังต้องดื่มเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์ด้านความสดชื่นควบคู่ไปด้วย สำหรับการเปิดตัวชาเขียวพร้อมดื่มอัดก๊าซ ถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่และเป็นเครื่องดื่มชาเขียวอัดก๊าซตัวแรกในภูมิภาคเอเชีย โดยมี 2 รสชาติ คือ ชาเขียวรสน้ำผึ้งมะนาว และชาดำรสมะนาว”
นายแมทธิว กล่าวว่า กลยุทธ์การตลาดการสร้างตลาดชาเขียวพร้อมดื่มให้เติบโต ต้องมีนวัตกรรมออกมาขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ โดยเป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ บริษัทตั้งเป้าผลักดันตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมีมูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านบาท จากการเติบโตเฉลี่ย 25% ต่อปี ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทเปิดตัวชาเขียวพร้อมดื่มฟรุตโตะ วางตำแหน่งเป็นชาพร้อมดื่มผสมน้ำผลไม้
เพื่อขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มผู้ดื่มน้ำผลไม้ซึ่งมีมูลค่าตลาด 9,000 ล้านบาท เจาะกลุ่มอายุ 12-15ปี โดยวางเป้าหมายชิงส่วนแบ่งตลาดน้ำผลไม้ 10-20% ในอนาคต
“ที่ผ่านมาโออิชิ มีสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขนาดของบรรจุภัณฑ์ยูเอชที เจาะกลุ่มเด็ก ชาเขียวพร้อมดื่มออริจินัลเจาะกลุ่มอายุ 25-29ปี ขณะที่ชาเขียวชาคูลล์ซ่า เจาะกลุ่มนักศึกษา เริ่มวัยทำงาน ส่วนฟรุตโตะเจาะกลุ่มวัยทีน และในอนาคตบริษัทจะขยายชาเขียวพร้อมดื่มไปสู่เซกเมนต์ใหม่อย่างต่อเนื่อง”
นายอนิรุทธ์ มหธร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้วางแผนการจัดกิจกรรมการสื่อสารการตลาด 360องศา นำร่องเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา สื่อโฆษณานอกบ้าน การวาดภาพบนกำแพงกว่า 100จุด สื่อรถไฟฟ้า รถโดยสาร และการจัดกิจกรรมโรดโชว์ทั่วประเทศ เพื่อสร้างการรับรู้และเกิดการจดจำ และหากได้รับการตอบรับที่ดีจะขยายบรรจุภัณฑ์ใหม่ๆ อาทิ
ขวดเพ็ท ฯลฯ โดยในอนาคตชาเชียวชาคูลล์ซ่า จะเป็นสินค้าเรือธงที่สร้างรายได้ผลักดันรายได้โต 25% ทุกปี
สภาพตลาดชาเขียวพร้อมดื่มปีนี้มูลค่า 7,700 ล้านบาท หรือเติบโต 25% ซึ่งการมีคู่แข่งหน้าใหม่อย่างอิชิตัน เข้ามาทำตลาดจะช่วยผลักดันให้ตลาดเติบโตเพิ่มขึ้น ส่วนการทำตลาดชาเขียวอัดก๊าซในปีแรก ตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 3-4% หรือมียอดขาย 1,000 ล้านบาท จากตลาดน้ำอัดลมมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท และอีก 5ปี ตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 20%หรือยอดขาย 6,000 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการโดยรวมปีนี้ตั้งเป้าโต 20% หรือ 1.1หมื่นล้านบาท จากปีที่ผ่านมีรายได้ 10,100 ล้านบาท ส่วนรายได้ 5 ปีจากนี้ตั้งเป้า 2 หมื่นล้านบาท
