ASTVผู้จัดการรายวัน – เทศกาลเที่ยวเมืองไทย และ ทีทีเอ็ม พลัส 2011 ปีนี้ กร่อย ยอดผู้ชมและยอดขาย วูบ 20-40% ทีเอชเอ ขอลุ้น งานเที่ยวทั่วไทยฯก่อนฟันธง จัดงานถี่เกินไป ยันเลือกตั้งในประเทศ และเศรษบกิจต่างประเทศก็มีผลต่อยอดซื้อ ด้าน ททท.ยอมรับปีนี้กร่อยจริง เหตุคนคาดหวังชอปสินค้าราคาถูก ระบุปีหน้าเร่งประชาสัมพันธ์
สร้างการรับรู้เป็นงานขายสินค้าคุณภาพมากกว่าเน้นราคา
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย หรือ ทีเอชเอ เปิดเผยว่า งาน ไทยแลนด์ทราเวลมาร์ท 2011 หรือ TTM+2011 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลตอบรับ ไม่ดีเท่าที่ควร โดยหากเทียบกับปีก่อน จำนวนคนเข้าชมงานลดลง 20% รายได้จากการขาย ลดลง 40% ขณะที่ผู้ขายซึ่งมาร่วมออกบูท เจรจาธุรกิจ ต่างก็จัดแพเกกจพิเศษมานำเสนอต่อลูกค้า เฉลี่ยเป็นมูลค่าลดลงจากราคาปกติถึง 40% แต่บรรยากาศ
การซื้อขายก็ยังเงียบเหงา
จากข้อมูลดังกล่าว ทำให้ สมาคมฯกำลังพิจารณา และ ขอรอดู ผลจากการจัดงาน “เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก” ซึ่งจะจัดขึ้ยราวเดือน ส.ค.หรือก.ย.ศกนี้ ว่าผลตอบรับจะเป็นเช่นใด เพราะจาก ข้อมูลผลของการจัดงานเทรดแฟร์และคอนซูเมอร์แฟร์ ตั้งแต่ต้นปีที่ผานมา พบว่า เกือบทุกงาน มียอดขาย ไม่เติบโต บางราย มียอดขายลดลงเมื่อเทียบกับงานเดียวกันในปีก่อน
แต่ยอมรับว่าทุกงานที่จัดมีผู้ขายจองบูทเต็มทุกงานเช่นกัน
“เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เป็นเพราะ มีการจัดงานประเภทเดียวกันนี้ ถี่เกินไป แต่จะรอดูผลที่งาน เที่ยวทั่วไทย ที่กำลังจะจัดขึ้น ยืนยันอีกครั้ง โดยปัจจัยที่จะประกอบการพิจารณา คือ ยอดขาย ขนาดพื้นที่จัดงาน จำนวนคนเข้าชมงาน และจำนวนผู้ที่ซื้อจริง รวมถึง โลเกชั่นของสถานที่จัดงาน การประชาสัมพันธ์งาน และ เปอร์เซ็นส่วนลด เมื่องได้ผลสรุป
จึงนำข้อมูลเข้าหารือกับ ททท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่อไป อย่างไรก็ตาม มองว่า ผลจากวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐ และยุโรป ก็มีส่วนทำกำลังซื้อตก ” นายประกิจกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในอดีต ยอมรับว่า การจัดงานแฟร์ มีความจำเป็น เพราะประเทศเกิดวิกฤติ เราก็ต้องหันมาจัดงาน ทำโปรโมชั่นลดราคาพอเศษ แต่เมื่องจัดแล้วประสบความสำเร็จ ก็จัดกันต่อเนื่องจนเป็นประเพณี ทำให้คนที่มาเดิน อาจมาเพียงแค่เดินดูราคาไปก่อน ยังไม่ตัดสินใจ
***หนุ่ม-สาวทัวร์ครวญยอดร่วง40% *****
นายสามารถ ศรีดาวเรือง ผู้จัดการฝ่ายสินค้าและการตลาด บริษัท หนุ่มสาวทัวร์ กล่าวว่า ผลจากการร่วมออกบูทในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 8-12 มิ.ย.54 พบว่า จำนวนลูกค้าที่เข้ามาซื้อแพกเกจทัวร์ของบริษัท ลดลง 40% เมื่อเทียบกับงานเดียวกันในปีก่อน เหตุเพราะ ผู้ที่มาเดินในงานคาดหวังว่างานมหกรรมรูปแบบนี้ ต้องมีแพกเกจทัวร์แบบลด แจก แถม มาเสนอขาย
แต่มาพบว่าราคาไม่ถูกตามที่คิดไว้ จึงไม่สนใจซื้อ ประกอบกับช่วงจัดงาน มีฝนตกทุกวัน การเดินทางจึงลำบาก และเป็นช่วงใกล้เลือกตั้ง คนจึงสนใจท่องเที่ยวน้อยลง
สำหรับแพกเกจทัวร์ที่ขายดี คือ เส้นทาง กระบี่ และ ราชบุรี เพราะได้ร่วมพันธมิตรทางธุรกิจสนับสนุนราคาพิเศษ ส่วนแพกเกจเทศกาล ที่ลูกค้าสนใจซื้อจำนวนมาก เช่น เทศกาลผีตาโขน แต่เมื่องรวมแล้ว ยอดขายก็ยังน้อยกว่าที่ปีผ่านมา
***ชี้เหตุพื้นที่ขายกระจายเกินไป****
นายทรงศักดิ์ ศรีเคลือบ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย หรือ สธทท. กล่าวยอมรับว่า ปีนี้ ผู้ประกอบการที่มาร่วมออกบูท ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า บรรยากาศการซื้อขายเงียบกว่าทุกปีที่ผ่านมา บางรายปีก่อนขายได้มาก แต่ปีนี้ขายไม่ได้เลย โดยเฉพาะ ผู้ประกอบการที่มาจากภาคใต้
โดยส่วนตัวมองว่า ที่เป็นนี้นี้ น่าจะมาจาก การจัดแบ่งพื้นที่งาน ที่แบ่งพื้นที่การขายของกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวกระจัดกระจายตามพื้นที่ของแต่ละภูมิภาค ทำให้คนเดินเลือกซื้อ หรือเทียบราคากันลำบากขึ้น จึงต้องการเสนอให้การจัดงานของ ททท.ในปีหน้า ควรมีการปรับปรุง จุดอ่อนตรงนี้เสีย ส่วนผู้ประกอบการก็ต้องปรับวิธีการขาย ทำเสนอเส้นทางที่น่าสนใจ
หรือเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น เช่น เส้นทางไหว้พระ ซึ่งขายได้ตลอดกาล หรือเสน้ทางท่องเที่ยวใหม่ๆ ตามกระแสนิยม
ในส่วนของสมาคมฯ ยังพอขายแพกเกจทัวร์ได้น่าพอใจ เช่น ทัวร์ภาคกลาง ซึ่งจัดเป็น ทัวร์คาราวานรถไป อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรีได้จำนวนมาก, ภาคเหนือ ขายทัวร์ไปยังจังหวัดน่าน และแพร่ ทัวร์ไหว้พระธาตุ เบิกฟ้าล้านนาตะวันออก เต็ม 2 คันรถบัส, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขายทัวร์ทุ่งดอกกระเจียว เทศกาลผีตาโขน ได้เต็ม 2 คันรถบัส รวมถึงขายทัวร์ไปจังหวัดนครพนม มุกดาหาร
และสกลนคร เพื่อไหว้พระธาตุประจำวันเกิด ได้เต็ม 2 คันรถบัสเช่นกัน, ภาคตะวันออก ขายทัวร์เกาะช้างได้ดี เพราะผู้ประกอบการโรงแรมสนับสนุนราคาที่พักไม่แพง แต่ยังไม่เต็มคันรถบัส ส่วนภาคใต้ ยังมียอดจองเข้ามาเล็กน้อย
***ททท.เล็งปรับภาพสร้างความเข้าใจงาน*****
ทางด้านนายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. กล่าวยอมรับว่า คนที่มาเดินทางงานแฟร์เช่นนี้ ส่วนใหญ่ยังติดภาพว่าจะได้เลือกซื้อสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในราคาถูก ลดพิเศษ ซึ่ง ททท.ต้องการชี้แจงว่า “งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย” ไม่ มีจุดประสงค์เรื่องขายของถูก แต่เน้นสินค้าท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากกว่า
แต่ก็ยังมีโปรโมชั่นพิเศษมานำเสนอบ้าง เพื่อดึงดูดคนที่เข้ามาชมงาน ซึ่งเป็นโจทย์ว่าในอนาคต ททท.ต้องเร่งปรับภาพลักษณ์ของงาน เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจถูกต้องตรงกัน
“เทศกาลเที่ยวเมืองไทย เกิดขึ้นในปีที่เกิดวิกฤติทางการเมือง ทำให้ผู้ประกอบการที่เข้ามาร่วมงานในปีนั้น ต่างเน้นขายแพกเกจทัวร์ลดราคา และให้สิทธิพิเศษ แต่ปีนี้ เหตุการณ์ทุกอย่างปกติ ผู้ประกอบการก็ไม่ได้เสนอราคาขายถูกอย่างที่ผ่านมา “ นายสุรพล กล่าว
สร้างการรับรู้เป็นงานขายสินค้าคุณภาพมากกว่าเน้นราคา
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย หรือ ทีเอชเอ เปิดเผยว่า งาน ไทยแลนด์ทราเวลมาร์ท 2011 หรือ TTM+2011 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลตอบรับ ไม่ดีเท่าที่ควร โดยหากเทียบกับปีก่อน จำนวนคนเข้าชมงานลดลง 20% รายได้จากการขาย ลดลง 40% ขณะที่ผู้ขายซึ่งมาร่วมออกบูท เจรจาธุรกิจ ต่างก็จัดแพเกกจพิเศษมานำเสนอต่อลูกค้า เฉลี่ยเป็นมูลค่าลดลงจากราคาปกติถึง 40% แต่บรรยากาศ
การซื้อขายก็ยังเงียบเหงา
จากข้อมูลดังกล่าว ทำให้ สมาคมฯกำลังพิจารณา และ ขอรอดู ผลจากการจัดงาน “เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก” ซึ่งจะจัดขึ้ยราวเดือน ส.ค.หรือก.ย.ศกนี้ ว่าผลตอบรับจะเป็นเช่นใด เพราะจาก ข้อมูลผลของการจัดงานเทรดแฟร์และคอนซูเมอร์แฟร์ ตั้งแต่ต้นปีที่ผานมา พบว่า เกือบทุกงาน มียอดขาย ไม่เติบโต บางราย มียอดขายลดลงเมื่อเทียบกับงานเดียวกันในปีก่อน
แต่ยอมรับว่าทุกงานที่จัดมีผู้ขายจองบูทเต็มทุกงานเช่นกัน
“เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เป็นเพราะ มีการจัดงานประเภทเดียวกันนี้ ถี่เกินไป แต่จะรอดูผลที่งาน เที่ยวทั่วไทย ที่กำลังจะจัดขึ้น ยืนยันอีกครั้ง โดยปัจจัยที่จะประกอบการพิจารณา คือ ยอดขาย ขนาดพื้นที่จัดงาน จำนวนคนเข้าชมงาน และจำนวนผู้ที่ซื้อจริง รวมถึง โลเกชั่นของสถานที่จัดงาน การประชาสัมพันธ์งาน และ เปอร์เซ็นส่วนลด เมื่องได้ผลสรุป
จึงนำข้อมูลเข้าหารือกับ ททท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่อไป อย่างไรก็ตาม มองว่า ผลจากวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐ และยุโรป ก็มีส่วนทำกำลังซื้อตก ” นายประกิจกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในอดีต ยอมรับว่า การจัดงานแฟร์ มีความจำเป็น เพราะประเทศเกิดวิกฤติ เราก็ต้องหันมาจัดงาน ทำโปรโมชั่นลดราคาพอเศษ แต่เมื่องจัดแล้วประสบความสำเร็จ ก็จัดกันต่อเนื่องจนเป็นประเพณี ทำให้คนที่มาเดิน อาจมาเพียงแค่เดินดูราคาไปก่อน ยังไม่ตัดสินใจ
***หนุ่ม-สาวทัวร์ครวญยอดร่วง40% *****
นายสามารถ ศรีดาวเรือง ผู้จัดการฝ่ายสินค้าและการตลาด บริษัท หนุ่มสาวทัวร์ กล่าวว่า ผลจากการร่วมออกบูทในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 8-12 มิ.ย.54 พบว่า จำนวนลูกค้าที่เข้ามาซื้อแพกเกจทัวร์ของบริษัท ลดลง 40% เมื่อเทียบกับงานเดียวกันในปีก่อน เหตุเพราะ ผู้ที่มาเดินในงานคาดหวังว่างานมหกรรมรูปแบบนี้ ต้องมีแพกเกจทัวร์แบบลด แจก แถม มาเสนอขาย
แต่มาพบว่าราคาไม่ถูกตามที่คิดไว้ จึงไม่สนใจซื้อ ประกอบกับช่วงจัดงาน มีฝนตกทุกวัน การเดินทางจึงลำบาก และเป็นช่วงใกล้เลือกตั้ง คนจึงสนใจท่องเที่ยวน้อยลง
สำหรับแพกเกจทัวร์ที่ขายดี คือ เส้นทาง กระบี่ และ ราชบุรี เพราะได้ร่วมพันธมิตรทางธุรกิจสนับสนุนราคาพิเศษ ส่วนแพกเกจเทศกาล ที่ลูกค้าสนใจซื้อจำนวนมาก เช่น เทศกาลผีตาโขน แต่เมื่องรวมแล้ว ยอดขายก็ยังน้อยกว่าที่ปีผ่านมา
***ชี้เหตุพื้นที่ขายกระจายเกินไป****
นายทรงศักดิ์ ศรีเคลือบ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย หรือ สธทท. กล่าวยอมรับว่า ปีนี้ ผู้ประกอบการที่มาร่วมออกบูท ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า บรรยากาศการซื้อขายเงียบกว่าทุกปีที่ผ่านมา บางรายปีก่อนขายได้มาก แต่ปีนี้ขายไม่ได้เลย โดยเฉพาะ ผู้ประกอบการที่มาจากภาคใต้
โดยส่วนตัวมองว่า ที่เป็นนี้นี้ น่าจะมาจาก การจัดแบ่งพื้นที่งาน ที่แบ่งพื้นที่การขายของกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวกระจัดกระจายตามพื้นที่ของแต่ละภูมิภาค ทำให้คนเดินเลือกซื้อ หรือเทียบราคากันลำบากขึ้น จึงต้องการเสนอให้การจัดงานของ ททท.ในปีหน้า ควรมีการปรับปรุง จุดอ่อนตรงนี้เสีย ส่วนผู้ประกอบการก็ต้องปรับวิธีการขาย ทำเสนอเส้นทางที่น่าสนใจ
หรือเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น เช่น เส้นทางไหว้พระ ซึ่งขายได้ตลอดกาล หรือเสน้ทางท่องเที่ยวใหม่ๆ ตามกระแสนิยม
ในส่วนของสมาคมฯ ยังพอขายแพกเกจทัวร์ได้น่าพอใจ เช่น ทัวร์ภาคกลาง ซึ่งจัดเป็น ทัวร์คาราวานรถไป อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรีได้จำนวนมาก, ภาคเหนือ ขายทัวร์ไปยังจังหวัดน่าน และแพร่ ทัวร์ไหว้พระธาตุ เบิกฟ้าล้านนาตะวันออก เต็ม 2 คันรถบัส, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขายทัวร์ทุ่งดอกกระเจียว เทศกาลผีตาโขน ได้เต็ม 2 คันรถบัส รวมถึงขายทัวร์ไปจังหวัดนครพนม มุกดาหาร
และสกลนคร เพื่อไหว้พระธาตุประจำวันเกิด ได้เต็ม 2 คันรถบัสเช่นกัน, ภาคตะวันออก ขายทัวร์เกาะช้างได้ดี เพราะผู้ประกอบการโรงแรมสนับสนุนราคาที่พักไม่แพง แต่ยังไม่เต็มคันรถบัส ส่วนภาคใต้ ยังมียอดจองเข้ามาเล็กน้อย
***ททท.เล็งปรับภาพสร้างความเข้าใจงาน*****
ทางด้านนายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. กล่าวยอมรับว่า คนที่มาเดินทางงานแฟร์เช่นนี้ ส่วนใหญ่ยังติดภาพว่าจะได้เลือกซื้อสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในราคาถูก ลดพิเศษ ซึ่ง ททท.ต้องการชี้แจงว่า “งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย” ไม่ มีจุดประสงค์เรื่องขายของถูก แต่เน้นสินค้าท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากกว่า
แต่ก็ยังมีโปรโมชั่นพิเศษมานำเสนอบ้าง เพื่อดึงดูดคนที่เข้ามาชมงาน ซึ่งเป็นโจทย์ว่าในอนาคต ททท.ต้องเร่งปรับภาพลักษณ์ของงาน เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจถูกต้องตรงกัน
“เทศกาลเที่ยวเมืองไทย เกิดขึ้นในปีที่เกิดวิกฤติทางการเมือง ทำให้ผู้ประกอบการที่เข้ามาร่วมงานในปีนั้น ต่างเน้นขายแพกเกจทัวร์ลดราคา และให้สิทธิพิเศษ แต่ปีนี้ เหตุการณ์ทุกอย่างปกติ ผู้ประกอบการก็ไม่ได้เสนอราคาขายถูกอย่างที่ผ่านมา “ นายสุรพล กล่าว