ASTVผู้จัดการรายวัน - พีดีเฮ้าส์ หวั่นดอกเบี้ย-การเมืองป่วนตลาดรับสร้างบ้านทรุด เผยไตรมาส2 ตลาดรับสร้างบ้านต่างจังหวัดโต 12% หลังผู้บริโภครู้จักและเข้าถึงบริษัทรับสร้างบ้านมาขึ้น ส่งผลสินเชื่อปลูกสร้างบ้านเติบโตตาม ระบุตลาดกทม.ส่งสัญญาณแข่งดุ หลังพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนจากโดนกระแสคอนโดมิเนียมแชร์ตลาดบ้าน เชื่อรายเล็กรายใหญ่แห่รุกรับสร้างบ้านต่างจังหวัด ด้าน พีดีเฮ้าส์ เตรียมเปิดอีก2 สาขา อุบลราชธานี สกลนคร ดันยอดขายทะลุ 1,000 ล้าน
นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีดี เฮ้าส์ คอร์อปอเรชั่น จำกัด ผู้ให้บริการแฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงของตลาดรับสร้างบ้านในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ที่อาจมีผลกระทบและทำให้กำลังซื้อชะลอตัวลง ประเมินมี 2 ปัจจัยสำคัญ คือ การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยธนาคาร และ สถานการณ์ทางการเมืองหลังเลือกตั้งกรณีการเกิดความวุ่นวาย ซึ่งทั้งสองปัจจัยดังกล่าวสร้างความกังวลต่อผู้ประกอบการค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นปัจจัยที่ไม่อาจควบคุมได้
“อย่างไรก็ดีโดยส่วนตัวเชื่อว่าการเลือกตั้ง และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่น่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และในฐานะคนไทยก็ไม่อยากจะเห็นประเทศชาติต้องเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านในแถบอาเซียนทุกประเทศต่างเร่งพัฒนาประเทศ เพื่อรองรับการเปิดเสรีทางการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน ภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะมีผลในปี 2558 ที่จะมาถึง”
ส่วนภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในช่วง2ไตรมาสที่ผ่านมานั้น ในส่วนของตลาดต่างจังหวัดมีความคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมย.-พค. 54 มีความคึกคักกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านในเครือข่ายแฟรนไชส์และสาขาของบริษัทฯ มีลูกค้าเข้ามาติดต่อใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ดดยส่วนหนึ่งเกิดจากกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้านเอง ในต่างจังหวัดรู้จักและเชื่อมั่นบริษัทรับสร้างบ้านมากขึ้น ซึ่งผลมาจากการมีบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพเกิดขึ้นใหม่ และรับสร้างบ้านรายเดิมขยายสาขาออกไปในต่างจังหวัดมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้บริการแทนการจ้างผู้รับเหมารายย่อย เพราะต้องการได้บ้านที่มีคุณภาพพร้อมบริการที่ครบวงจร
ทั้งนี้ ยอดขายหรือยอดจองสร้างบ้านของ พีดีเฮ้าส์ฯ ในกลุ่มศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ระหว่างเดือนเมย.-พค. 54 ยังคงเติบโตเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเปรียบเทียบกับสองเดือนก่อนหน้านี้ และเติบโตกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 21% โดยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านพีดี เฮ้าส์ฯสามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 400 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าภาพรวมของตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัดปีนี้ มีแนวโน้มเติบโตกว่าปีที่ผ่านๆ มา
“ข้อมูลที่น่าสนใจ ลูกค้าหันมาใช้การกู้ยืมหรือขอสินเชื่อปลูกสร้างบ้านมากขึ้นเช่นกัน โดยมีสัดส่วนการใช้สินเชื่อคิดเป็น 64% และใช้เงินออมคิดเป็น 36% ของจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการสร้างบ้านกับกับสาขาของบริษัทฯ ในช่วงเดือนเมย.-พค. 54 ที่ผ่านมา”
นายพิศาล กล่าวว่า เชื่อว่าหลังจากนี้ตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัดจะมีผู้ประกอบการรายอื่นๆ ทั้งจากกรุงเทพฯ และปริมณฑลหันมาให้ความสนใจและรุกขยายสาขามากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคให้การตอบรับดีและตลาดมีขนาดใหญ่ ทำให้ยังมีช่องว่างตลาดจำนวนมาก ขณะที่ตลาดรับสร้างบ้านในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีอัตราการเติบโตแบบชะลอตัว เพราะที่ดินเปล่าลดลงและมีราคาแพงขึ้น รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนมาเลือกพักอาศัยคอนโดมิเนียมมากขึ้น รวมถึงมีผู้ประกอบการทั้งรายเล็กรายใหญ่อยู่จำนวนมาก ส่งผลให้เกิดการแข่งขันในตลาดสูงและมีความรุนแรงมากขึ้นด้วย
สำหรับ พีดีเฮ้าส์ฯ ถือเป็นผู้บุกเบิกตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัดนานกว่า 8 ปี และได้พยายามส่งสัญญาณให้ผู้ประกอบการ ที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้านหันมาสนใจและปรับตัวเอง เพื่อลดการแข่งขันโดยขยายตลาดออกไปยังต่างจังหวัดแทน แต่ที่ผ่านมายังมีผู้ประกอบการน้อยรายสนใจกระจายตลาดออกไปในต่างจังหวัด ขณะเดียวกัน พีดี เฮ้าส์ฯได้ขยายสาขาออกไปครบทั่วทุกภูมิภาคแล้ว โดยปัจจุบันมีสาขามากกว่า 20 สาขา และในช่วงไตรมาสที่3นี้ จะมีการเปิดสาขาเพิ่มในจังหวัดภาคอีสานอีก 2 แห่ง ได้แก่ สาขาอุบลราชธานีและสกลนคร เพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์พีดีเฮ้าส์ และเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดรับสร้างบ้านทั่วประเทศ ตามแผนบริษัทฯ ที่วางไว้ ทั้งนี้มีแนวโน้มว่าในปี 2554 นี้บริษัทฯ จะสามารถทำยอดขายทะลุ 1,000 ล้านบาท
นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีดี เฮ้าส์ คอร์อปอเรชั่น จำกัด ผู้ให้บริการแฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงของตลาดรับสร้างบ้านในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ที่อาจมีผลกระทบและทำให้กำลังซื้อชะลอตัวลง ประเมินมี 2 ปัจจัยสำคัญ คือ การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยธนาคาร และ สถานการณ์ทางการเมืองหลังเลือกตั้งกรณีการเกิดความวุ่นวาย ซึ่งทั้งสองปัจจัยดังกล่าวสร้างความกังวลต่อผู้ประกอบการค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นปัจจัยที่ไม่อาจควบคุมได้
“อย่างไรก็ดีโดยส่วนตัวเชื่อว่าการเลือกตั้ง และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่น่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และในฐานะคนไทยก็ไม่อยากจะเห็นประเทศชาติต้องเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านในแถบอาเซียนทุกประเทศต่างเร่งพัฒนาประเทศ เพื่อรองรับการเปิดเสรีทางการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน ภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะมีผลในปี 2558 ที่จะมาถึง”
ส่วนภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในช่วง2ไตรมาสที่ผ่านมานั้น ในส่วนของตลาดต่างจังหวัดมีความคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมย.-พค. 54 มีความคึกคักกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านในเครือข่ายแฟรนไชส์และสาขาของบริษัทฯ มีลูกค้าเข้ามาติดต่อใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ดดยส่วนหนึ่งเกิดจากกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้านเอง ในต่างจังหวัดรู้จักและเชื่อมั่นบริษัทรับสร้างบ้านมากขึ้น ซึ่งผลมาจากการมีบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพเกิดขึ้นใหม่ และรับสร้างบ้านรายเดิมขยายสาขาออกไปในต่างจังหวัดมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้บริการแทนการจ้างผู้รับเหมารายย่อย เพราะต้องการได้บ้านที่มีคุณภาพพร้อมบริการที่ครบวงจร
ทั้งนี้ ยอดขายหรือยอดจองสร้างบ้านของ พีดีเฮ้าส์ฯ ในกลุ่มศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ระหว่างเดือนเมย.-พค. 54 ยังคงเติบโตเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเปรียบเทียบกับสองเดือนก่อนหน้านี้ และเติบโตกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 21% โดยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านพีดี เฮ้าส์ฯสามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 400 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าภาพรวมของตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัดปีนี้ มีแนวโน้มเติบโตกว่าปีที่ผ่านๆ มา
“ข้อมูลที่น่าสนใจ ลูกค้าหันมาใช้การกู้ยืมหรือขอสินเชื่อปลูกสร้างบ้านมากขึ้นเช่นกัน โดยมีสัดส่วนการใช้สินเชื่อคิดเป็น 64% และใช้เงินออมคิดเป็น 36% ของจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการสร้างบ้านกับกับสาขาของบริษัทฯ ในช่วงเดือนเมย.-พค. 54 ที่ผ่านมา”
นายพิศาล กล่าวว่า เชื่อว่าหลังจากนี้ตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัดจะมีผู้ประกอบการรายอื่นๆ ทั้งจากกรุงเทพฯ และปริมณฑลหันมาให้ความสนใจและรุกขยายสาขามากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคให้การตอบรับดีและตลาดมีขนาดใหญ่ ทำให้ยังมีช่องว่างตลาดจำนวนมาก ขณะที่ตลาดรับสร้างบ้านในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีอัตราการเติบโตแบบชะลอตัว เพราะที่ดินเปล่าลดลงและมีราคาแพงขึ้น รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนมาเลือกพักอาศัยคอนโดมิเนียมมากขึ้น รวมถึงมีผู้ประกอบการทั้งรายเล็กรายใหญ่อยู่จำนวนมาก ส่งผลให้เกิดการแข่งขันในตลาดสูงและมีความรุนแรงมากขึ้นด้วย
สำหรับ พีดีเฮ้าส์ฯ ถือเป็นผู้บุกเบิกตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัดนานกว่า 8 ปี และได้พยายามส่งสัญญาณให้ผู้ประกอบการ ที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้านหันมาสนใจและปรับตัวเอง เพื่อลดการแข่งขันโดยขยายตลาดออกไปยังต่างจังหวัดแทน แต่ที่ผ่านมายังมีผู้ประกอบการน้อยรายสนใจกระจายตลาดออกไปในต่างจังหวัด ขณะเดียวกัน พีดี เฮ้าส์ฯได้ขยายสาขาออกไปครบทั่วทุกภูมิภาคแล้ว โดยปัจจุบันมีสาขามากกว่า 20 สาขา และในช่วงไตรมาสที่3นี้ จะมีการเปิดสาขาเพิ่มในจังหวัดภาคอีสานอีก 2 แห่ง ได้แก่ สาขาอุบลราชธานีและสกลนคร เพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์พีดีเฮ้าส์ และเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดรับสร้างบ้านทั่วประเทศ ตามแผนบริษัทฯ ที่วางไว้ ทั้งนี้มีแนวโน้มว่าในปี 2554 นี้บริษัทฯ จะสามารถทำยอดขายทะลุ 1,000 ล้านบาท