xs
xsm
sm
md
lg

กอ.รมน.,ทบวงความมั่นคงและการทุจริตคอร์รัปชัน

เผยแพร่:   โดย: สำราญ รอดเพชร

เมื่อวันก่อน (6 มิ.ย. 2554)  เจ้าตำรับ “กระชับพื้นที่” พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการรักษาความมั่นคงภายใน ให้สัมภาษณ์พิเศษกับนักข่าวว่าตัวท่านมีแนวคิดสอดคล้องกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะรอง ผอ.รมน.ว่าสมควรที่จะเสนอให้ตั้ง “ทบวงความมั่นคง (Homeland  security)” เหตุผลเพราะในปัจจุบัน กอ.รมน.ทำหน้าที่ดูแลงานด้านความมั่นคง และภัยคุกคามต่างๆ ที่นับวันยิ่งสลับซับซ้อนมากขึ้นยืดเยื้อมากขึ้น

          โดยเครดิตของพล.อ.ดาว์พงษ์ถึงแม้จะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นและเป็นมันสมองของผบ.ทบ.แต่ผมเชื่อด้วยความสนิทใจว่าไม่น่าจะมีวาระแฝงเร้นใดๆ ในการผลักดัน “ทบวงความมั่นคง” ไม่ว่าวาระแฝงเร้นเรื่องงบประมาณ เรื่องการสร้างอาณาจักร สร้างรัฐทหาร อย่างที่บางคนบางฝ่ายอาจจะวิพากษ์วิจารณ์กัน

           แต่คำถามที่กองทัพบกหรือ กอ.รมน.จะต้องตอบก็คือว่า หน้าตาของทบวงความมั่นคงที่จะผลักดันจัดตั้งนั้นเป็นอย่างไร ตั้งแล้วจะรับมือกับปัญหาความมั่นคงที่สลับซับซ้อนมากขึ้นได้จริงหรือไม่? เพราะในปัจจุบันวันนี้ถ้าจะว่าไปอำนาจและงบประมาณที่ กอ.รมน.ได้รับก็มีอยู่อย่างล้นหลาม แต่ด้วยเหตุใดที่ไม่สามารถกระชับผลงาน ความรู้ ความสามารถออกมาให้ได้มากกว่าที่เห็น..!?

           อย่างที่ทราบๆ กันว่า เดิมทีในยุคเผด็จการทหารกองทัพได้จัดตั้งกองอำนวยการป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ (กอ.ปค.) ขึ้นมา ต่อมาได้พัฒนาปรับเปลี่ยนเป็น “กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.)” เมื่อปี 2508 ซึ่งในหลายห้วงเวลา กอ.รมน.ได้กลายเป็นสุสานข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ไร้ประสิทธิภาพ กลายเป็นหน่วยงานทางผ่านที่ข้าราชการไปเอายศ-ตำแหน่ง ฯลฯ

           และล่าสุดปี 2551 ในยุครัฐบาล คมช.หลังรัฐประหาร 2549 สภานิติบัญญัติได้ผ่านกฎหมายที่ชื่อ “พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551” ซึ่งเป็นการฟื้นฟูอำนาจติดดาบใหม่ให้กับ กอ.รมน.อย่างค่อนข้างจะอู้ฟู่หรูหรา ภายใต้เหตุผลที่ว่าต้องรับผิดชอบภารกิจมากมายอย่างน้อยก็ 5 ประการ

1) ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

2) ปัญหายาเสพติด

3) ปัญหาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

4) การก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ

5) ภัยคุกคามจากการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติ

       ในขณะที่อำนาจหน้าที่ของ กอ.รมน.ตามพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 คือ “การดำเนินการเพื่อป้องกัน ควบคุม แก้ไขและฟื้นฟูสถานการณ์ใดๆ ที่เป็นภัยหรืออาจเป็นภัยอันเกิดจากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ก่อให้เกิดความไม่สงบสุขทำลายหรือทำความเสียหายต่อชีวิตร่างกาย ทรัพย์สินของประชาชนหรือของรัฐให้กลับสู่สภาวะปกติ.....”

            ในปี 2551-53 ที่เกิดเหตุการณ์การชุมนุมยืดเยื้อและการก่อความรุนแรง รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.รมน.และครม.ได้ใช้อำนาจผ่านพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงฯ ในการประกาศพื้นที่การรักษาความมั่นคงรวมทั้งตั้งศูนย์เฉพาะกิจคลี่คลายสถานการณ์มาหลายครั้งหลายหน 

            นั่นอาจจะเป็นคุณูปการเล็กๆ ของพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงฯ อยู่บ้าง แต่โดยภาพรวมดังได้กล่าวไปแล้ว ดูเหมือนว่า กอ.รมน.ยังไม่สามารถแสดงบทบาทผลงานภายใต้อำนาจใหม่ดาบเล่มใหม่ให้เด่นชัดได้เท่าที่ควรจะเป็น...

             คำถามมีอยู่ว่าเป็นเพราะรัฐบาล 3 รัฐบาล “สมัคร-สมชาย-อภิสิทธิ์” ไม่สันทัดไม่ใส่ใจในบทบาทของ กอ.รมน.หรือเป็นเพราะกองทัพ(บก)ในฐานะแกนหลักไม่มีความสามารถมากพอหรือเป็นเพราะเหตุปัจจัยอย่างอื่น...

อันที่จริงก็พอจะเข้าใจได้ว่าพล.อ.ดาว์พงษ์หรือพล.อ.ประยุทธ์หรือกองทัพบกพยายามที่จะให้ กอ.รมน.ทำงานแบบ “บูรณาการ” เป็นศูนย์รวมประสานการทำงานของหลายหน่วยงานให้เป็นเอกภาพหรือเป็นหนึ่งเดียว แต่ภายใต้ระบบราชการไทยไม่ง่ายที่จะ “บูรณาการ” อะไรได้ในพริบตา..

             แล้วในที่สุดหน่วยงานใหญ่อย่าง กอ.รมน.ก็ดูเหมือนจะถูกปล่อยให้ทำงานไปตามภารกิจปกติ....ฝ่ายการเมืองก็ดำเนินการตามแนวคิดของตัวเองพยายามแยกบทบาทของ กอ.รมน.ที่มีภาพลักษณ์เป็น “ทหาร” ออกห่างในบางกรณี ดังเช่น การที่พรรคประชาธิปัตย์ออกกฎหมายใหม่ในการจัดตั้ง “ศูนย์อำนาจการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” นัยว่าเพื่อแยกบทบาท กอ.รมน.กับฝ่ายพลเรือนให้ชัดเจน...

           ใช่หรือไม่ว่า..กรณีปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งวันนี้ปัญหาสลับซับซ้อนและมีปัญหาครบทั้ง 5 ด้าน เป็นภาพสะท้อนไม่ประสบความสำเร็จของ กอ.รมน.อย่างมีนัยสำคัญ!?

           ผมยังไม่กล้าฟันธงว่าจะสนับสนุนหรือคัดค้าน “ทบวงความมั่นคง” ซึ่งดูเหมือนว่ากองทัพบกยุค “ประยุทธ์-ดาว์พงษ์” น่าจะฟันธงแล้วว่าขอเดินหน้า...ซึ่งสุดท้ายก็อยู่ที่ฝ่ายการเมืองหรือรัฐบาลชุดใหม่หลังเลือกตั้ง 3 ก.ค. 2554 ว่าจะคิดเห็นอย่างไร...

           แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ ไม่ว่าอนาคตจะมีทบวงความมั่นคงเกิดขึ้นหรือยังคงมีเฉพาะกอ.รมน.เป็นหน่วยงานหลักอยู่เหมือนเดิมก็ตาม ขอให้กองทัพได้โปรดรับทราบเพิ่มเติมเอาไว้ด้วยว่า ปัจจุบันนอกเหนือจากภัยคุกคามต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งกอ.รมน.ก็รับทราบดีอยู่แล้ว ยังมีอีกหนึ่งปัญหาความมั่นคงที่สำคัญมากๆ ที่กอ.รมน.หรือกองทัพควรจะได้นำมาเป็นโจทย์คิดด้วยก็คือ...ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ที่เป็นมะเร็งร้าย และกำลังลุกลามไปทุกอณูทุกเนื้อเยื้อของสังคมไทย....กอ.รมน.หรือกองทัพคิดอ่านกับปัญหานี้อย่างไรควรจะได้กระชับความคิดกันบ้าง แต่ก่อนอื่นอย่าได้บอกเชียวว่า การทุจริตคอร์รัปชันไม่ใช่ปัญหาความมั่นคงของชาติ...

          หรืออย่าได้เฉไปว่า เป็นปัญหาของฝ่ายการเมืองและหน่วยงานอื่นๆ ที่จะต้องจัดการแก้ไขดูแลกันเอง เพราะ กอ.รมน.ก็สามารถมีบทบาทที่จะหยุดการทุจริตคอร์รัปชันได้ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม

          และก่อนอื่นต้องไม่ลืมที่จะจัดการกับทุจริตคอร์รัปชันใน กอ.รมน.หรือในกองทัพให้ได้เสียก่อนด้วย ก่อนที่จะเดินหน้าสู่ “ทบวงความมั่นคง” ที่วาดหวังเอาไว้!!

                   samr_rod@hotmail.com
กำลังโหลดความคิดเห็น