xs
xsm
sm
md
lg

AOTเล็งสวอปเงินเยนลดเสี่ยง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายนิรันดร์ ธีรนาทสิน รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และรักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือ AOT เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในไตร3 ปีนี้ (เม.ย.-มิ.ย.54)คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,592.52 ล้านบาท เนื่องจาก จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น แม้จะเป็นช่วงโลว์ซีซันประกอบกับที่ผ่านมาไม่มีผลกระทบจากปัญหาทางการเมือง ซึ่งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมามียอดผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้น 11%
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่ารายได้รวมปีนี้จะเพิ่มขึ้น 8-10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 24,714.14 ล้านบาท จากที่คาดว่าจำนวนผู้โดยสารปีนี้จะเพิ่มขึ้น 7-8% มาอยู่ที่ 45-46 ล้านคน โดยผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นมาจากประเทศจีนและรัสเซียมีการปรับตัวสูงถึง 50% และจากปัญหาสึนามิที่ญี่ปุ่นนั้นมีส่วนทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น จากเดิมที่มีแผนจะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น และมีแผนที่จะเพิ่มรายได้ในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน ด้วยการนำพื้นที่ตรวจอาวุธมาให้เช่าร้านค้าฯลฯ
สำหรับในช่วง6 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 93 ล้านบาท จากภาระเงินกู้ที่เป็นสกุลเงินเยนและค่าเงินเยนที่มีการแข็งค่าต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมีแผนที่จะป้องกันความเสี่ยงค่าเงินล่วงหน้า (สวอป) อีก23%จากก่อนหน้านี้ที่ทำสวอปไปแล้ว 77% ของมูลค่าเงินกู้สกุลเงินเยนที่มี 1 แสนล้านเยน แม้จะทำให้ต้นทุนทางการเงินทางด้านดอกเบี้ของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 6 บาท จากขณะนี้อยู่ที่ 5 บาท เพื่อที่จะทำให้บริษัทไม่ต้องเสี่ยงต่อการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษา เชื่อหากสิ้นปีนี้ค่าเงินบาทอยู่ที่ 28-29 บาท ค่าเงินเยนอยู่ที่ 90 เยนต่อ 1 ดอลลาร์ คาดว่าบริษัทจะไม่ขาดทุนค่าเงิน
นายนิรันดร์ กล่าวถึงเงินลงทุนโครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 จำนวน 6.2 หมื่นล้านบาท ที่จะต้องใช้ในปี 58 นั้น จะมาจากเงินกู้สัดส่วน 24% หรือประมาณเกือบ 2 หมื่นล้านบาท โดยพิจารณาอยู่ว่าจะเป็นการหุ้นกู้ หรือกู้เงินจากสถาบันการเงินในประเทศ คาดว่าจะสรุปได้ในปี 56 และส่วนอีก 76% จะมากจากกระแสเงินสดของบริษัทที่ปัจจุบันมีอยู่ 2.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้รองรับผู้โดยสารได้ 65 ล้านคน เป็นเวลาถึงปี 61 ที่จะต้องมีการลงทุนขยายเพื่อรองรับผู้โดยสาร ทำให้บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิอีก 10 ปีข้างหน้าบริษัทจะมีกำไรสุทธิดีกว่าปัจจุบัน
นางสุภาภรณ์ บุรพกุศลศรี รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานแผนงานและการเงิน กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่กระทรวงการคลังจะลดสัดส่วนการถือหุ้นใน AOT ในอนาคต จากปัจจุบันถือ 70% โดยหากกระทรวงการคลังจะลดสัดส่วนการถือหุ้นจริง เชื่อว่ากระทรวงการคลังจะถือหุ้นในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 50% เพื่อที่จะให้AOT ยังคงเป็นรัฐวิสาหกิจ
สำหรับเงินชดเชยจากปัญหาทางการเมืองจากที่ปิดสนามบินมูลค่า 1,500 ล้านบาทนั้น บริษัทได้ส่งตัวเลขไปให้ทางรัฐบาลแล้ว ซึ่งขึ้นอยู่ว่าคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันจะมีการพิจารณาหรือไม่ หากยังไม่พิจารณาก็จะต้องรอให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่เป็นผู้พิจารณา ส่วนค่าชดเชยมลภาวะทางเสียงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ที่มี 9.2 พันหลังคาเรือน ทางบริษัทตั้งงบชดเชยไว้ที่ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะใช้จริงประมาณ 5-6 พันล้านบาท โดยขณะนี้บริษัทได้ดำเนินการติดต่อเจ้าของบ้านในการปรับปรุงบ้านและซื้อคืนที่ดินแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น