ASTVผู้จัดการรายวัน – สสปน. ผนึก เรดบูล เร่งศึกษา จัดแข่งขันฟอร์มูล่า-วัน ชิงแชมป์โลกในประเทศไทย หวังใช้เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมใหญ่ โปรโมตประเทศ ยันศักยภาพไทย ไม่แพ้ สิงคโปร์ หรือ มาเลเซีย ที่จัดแข่งขันทุกปี ด้านผลการโรดโชว์ยุโรป ปลื้ม ชู “ลักชัวรี่ ไมซ์” ตั้งเป้าดันตลาดโต 15-20% จากยอดรวม 7.2 แสนคน ปีนี้
นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า สสปน.อยู่ระหว่างการศึกษาการจัดการแข่งขันฟอร์มูล่า-วัน ชิงแชมป์โลกในประเทศไทย หลังจากที่เจรจากับบริษัท เรดบูล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มเรดบลูในยุโรป
และเห็นพ้องที่จะร่วมกันสนับสนุนการจัดการเข่งขันดังกล่าวใหเป็นรูปแบบการแข่งขันประจำปีในประเทศไทย โดยที่ผ่านมาการแข่งขันฟอร์มูล่าวันจะจัดแข่งขัน ที่ประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียในทุกๆ ปี
ทั้งนี้ ทีมฟอร์มูล่า-วัน ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด คือ ทีมเรดบลู ซึ่งการแข่งขันจะช่วยโปรโมตเมืองไทยได้อย่างแน่นอน อีกทั้งประเทศไทยมีศักยภาพไม่แพ้ประเทศเพื่อนบ้านที่จัดแข่งขันระดับโลก แต่ทั้งนี้ต้องขอการสนับสนุนจากทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและประชาชน และในเดือนส.ค.นี้ สสปน.จะเชิญผู้จัดการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน
มาหารือถึงความเป็นไปได้ในการจัดงานอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ของการจัดแข่งขัน จะทำควบคู่กันไป โดยการแข่งขันที่จะเกิดขึ้น อาจเป็นลักษณะแข่งบนถนน หรือ จัดแข่งในสนาม ซึ่งต้องดูรายละเอียด และ ศึกษาความเป็นไปได้อีกครั้ง
***ยุโรปตอบรับ“ลักชัวรี่ ไมซ์” ***
นายอรรคพล กล่าวถึงผลการนำภาคเอกชนร่วมโรดโชว์ ในภูมิภาคยุโรป เพื่อเปิดตัวแคมเปญ “ลักชัวรี่ ไมซ์” เจาะตลาดการจัดประชุมระดับบน นำเสนอโรงแรมระดับ 5-6 ดาว แพคเกจกอล์ฟ และ กรีน มีทติ้ง เป็นต้น นำเสนอ พื้นที่จัดงานในจังหวัด กรุงเทพ เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย และหัวหิน เมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาว่า มีผลตอบรับที่ดี บายเออร์ มีความสนใจในโปรดักส์ที่นำเสนอ คาดว่า
ผลจากโรดโชว์ครั้งนี้ จะสามารถกระตุ้นตลาดไมซ์ได้เพิ่มขึ้น 15-20 % จากยอดรวมของผู้เดินทางอุตสาหกรรมไมซ์ทั้งหมด 720,000 คนในปีนี้ซึ่งสสปน. คาดหวังแคมเปญ“ลักชัวรี่ ไมซ์” จะช่วยเปิดมุมมองการขายด้านความคุ้มค่า (Value for Money) ที่มีกำลังซื้อสูงกว่า และคุ้มค่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
***ชิงเจ้าภาพเวิล์ดเอ็กซ์โปยังมีแค่2ประเทศ ***
ด้านความคืบหน้า การยื่นประมูลสิทธิ์การจัดงานเวิล์ดเอ็กซ์โป 2020 ล่าสุด สสปน.ได้เดินทางไปยื่นจดหมายจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ลงนามเข้าร่วมเสนอตัวอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2554 อย่างเป็นทางการที่สำนักงานมหกรรมโลก (Bureau of International Exposition-BIE) หรือ บีไออี กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และเข้าพบกับบีไออีอีกครั้งในวันที่ 6
มิ.ย.54เพื่อรับทราบเงื่อนไข หลักเกณฑ์ ระเบียบขั้นตอนในการนำเสนอ พร้อมนัดหมายในการนำเสนอ (Presentation)แข่งขันการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมกับประเทศคู่แข่งอื่น ๆ ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของบีไออี ที่จะกำหนดวันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง และเข้าสู่กระบวนการตัดสินภายในเดือนมิ.ย. 2556
ขณะนี้ มีประเทศที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพเวิล์ด เอ็กซ์โป 2020 อย่างเป็นทางการเพียง 2 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ซึ่งเสนอจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นพื้นที่จัดงานภายใต้ธีม นิยามใหม่ของโลกาภิวัตน์ “วิถีที่ยั่งยืน เพื่อโลกที่สมดุล” อีกหนึ่งประเทศคือตุรกี ใช้ธีมเดิมซึ่งเคยเสนอเพื่อจะเป็นเจ้าภาพในปี 2015 ดังนั้นหากประเทศที่สนใจจะเป็นเจ้าภาพ
ต้องยื่นเสนอต่อบีไออีให้แล้วเสร็จภายใน 5 เดือนนับจากนี้เบื้องต้น คาดว่ามีประเทศรัสเซีย และบราซิลมาเข้าร่วมชิงในครั้งนี้
นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า สสปน.อยู่ระหว่างการศึกษาการจัดการแข่งขันฟอร์มูล่า-วัน ชิงแชมป์โลกในประเทศไทย หลังจากที่เจรจากับบริษัท เรดบูล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มเรดบลูในยุโรป
และเห็นพ้องที่จะร่วมกันสนับสนุนการจัดการเข่งขันดังกล่าวใหเป็นรูปแบบการแข่งขันประจำปีในประเทศไทย โดยที่ผ่านมาการแข่งขันฟอร์มูล่าวันจะจัดแข่งขัน ที่ประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียในทุกๆ ปี
ทั้งนี้ ทีมฟอร์มูล่า-วัน ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด คือ ทีมเรดบลู ซึ่งการแข่งขันจะช่วยโปรโมตเมืองไทยได้อย่างแน่นอน อีกทั้งประเทศไทยมีศักยภาพไม่แพ้ประเทศเพื่อนบ้านที่จัดแข่งขันระดับโลก แต่ทั้งนี้ต้องขอการสนับสนุนจากทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและประชาชน และในเดือนส.ค.นี้ สสปน.จะเชิญผู้จัดการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน
มาหารือถึงความเป็นไปได้ในการจัดงานอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ของการจัดแข่งขัน จะทำควบคู่กันไป โดยการแข่งขันที่จะเกิดขึ้น อาจเป็นลักษณะแข่งบนถนน หรือ จัดแข่งในสนาม ซึ่งต้องดูรายละเอียด และ ศึกษาความเป็นไปได้อีกครั้ง
***ยุโรปตอบรับ“ลักชัวรี่ ไมซ์” ***
นายอรรคพล กล่าวถึงผลการนำภาคเอกชนร่วมโรดโชว์ ในภูมิภาคยุโรป เพื่อเปิดตัวแคมเปญ “ลักชัวรี่ ไมซ์” เจาะตลาดการจัดประชุมระดับบน นำเสนอโรงแรมระดับ 5-6 ดาว แพคเกจกอล์ฟ และ กรีน มีทติ้ง เป็นต้น นำเสนอ พื้นที่จัดงานในจังหวัด กรุงเทพ เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย และหัวหิน เมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาว่า มีผลตอบรับที่ดี บายเออร์ มีความสนใจในโปรดักส์ที่นำเสนอ คาดว่า
ผลจากโรดโชว์ครั้งนี้ จะสามารถกระตุ้นตลาดไมซ์ได้เพิ่มขึ้น 15-20 % จากยอดรวมของผู้เดินทางอุตสาหกรรมไมซ์ทั้งหมด 720,000 คนในปีนี้ซึ่งสสปน. คาดหวังแคมเปญ“ลักชัวรี่ ไมซ์” จะช่วยเปิดมุมมองการขายด้านความคุ้มค่า (Value for Money) ที่มีกำลังซื้อสูงกว่า และคุ้มค่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
***ชิงเจ้าภาพเวิล์ดเอ็กซ์โปยังมีแค่2ประเทศ ***
ด้านความคืบหน้า การยื่นประมูลสิทธิ์การจัดงานเวิล์ดเอ็กซ์โป 2020 ล่าสุด สสปน.ได้เดินทางไปยื่นจดหมายจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ลงนามเข้าร่วมเสนอตัวอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2554 อย่างเป็นทางการที่สำนักงานมหกรรมโลก (Bureau of International Exposition-BIE) หรือ บีไออี กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และเข้าพบกับบีไออีอีกครั้งในวันที่ 6
มิ.ย.54เพื่อรับทราบเงื่อนไข หลักเกณฑ์ ระเบียบขั้นตอนในการนำเสนอ พร้อมนัดหมายในการนำเสนอ (Presentation)แข่งขันการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมกับประเทศคู่แข่งอื่น ๆ ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของบีไออี ที่จะกำหนดวันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง และเข้าสู่กระบวนการตัดสินภายในเดือนมิ.ย. 2556
ขณะนี้ มีประเทศที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพเวิล์ด เอ็กซ์โป 2020 อย่างเป็นทางการเพียง 2 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ซึ่งเสนอจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นพื้นที่จัดงานภายใต้ธีม นิยามใหม่ของโลกาภิวัตน์ “วิถีที่ยั่งยืน เพื่อโลกที่สมดุล” อีกหนึ่งประเทศคือตุรกี ใช้ธีมเดิมซึ่งเคยเสนอเพื่อจะเป็นเจ้าภาพในปี 2015 ดังนั้นหากประเทศที่สนใจจะเป็นเจ้าภาพ
ต้องยื่นเสนอต่อบีไออีให้แล้วเสร็จภายใน 5 เดือนนับจากนี้เบื้องต้น คาดว่ามีประเทศรัสเซีย และบราซิลมาเข้าร่วมชิงในครั้งนี้