xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจปากเก่ง อ้างคดีบึ้มพธม.คืบ เพิ่มกำลังสายตรวจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ผบช.น.มั่นใจจะสามารถจับกุมคนร้ายปาบึ้มใส่พันธมิตรฯได้แน่ ชี้ คดีที่เกิดขึ้นมี 2-3 ราย ใช้ระเบิดลักษณะเดียวกันก่อเหตุใน กทม.คาดว่า คดีที่เกิดล่าสุดน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุเก่าที่ผ่านมา เพราะมีคนใช้ระเบิดเช่นนี้อยู่เพียงไม่กี่กลุ่ม ยันเจ้าหน้าที่ไม่ได้ละเลย ส่งตำรวจดูแลความเรียบร้อยตลอด ขณะที่"ลุงจำลอง"อัดตำรวจอีกครั้ง แม้จะเพิ่งทำหนังสือขอกำลังมาดูแลความปลอดภัยให้ แต่ยังไม่เห็นหัวแม้แต่รายเดียว

วานนี้ (2 มิ.ย.) วันนี้ (2 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา สบ10 ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง หรือ ศรต.ลต.ตร. กล่าวภายหลังประชุม ศรส.ลต.ตร.ว่า ได้หารือกันถึงเรื่องการปรับแผนดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หลังจากถูกคนร้ายปาระเบิดชนิด 82-2 ใส่หลังเวที พธม.สะพานมัฆวาน เมื่อคืนวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ตำรวจเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลรักษาความปลอดภัยมากขึ้น โดยวันนี้ บช.น.เสนอปรับกำลังใหม่ เน้นให้มีจุดตรวจ สายตรวจเดินเท้ามากขึ้น โดยให้รายงานผลการปฎิบัติให้ ศรส.ลต.ตร. ทุกวัน เชื่อว่า การดูแลรักษาความปลอดภัยจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

***เผยระเบิดเคยใช้บึ้มกรุง 3 ครั้ง

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวถึงความคืบหน้าการหาตัวคนร้ายปาระเบิดใส่เวที พธม.ว่า ศูนย์บริหารเหตุการณ์ร้ายแรง ศบร.ตร.ว่า รายงานเหตุการณ์คนร้ายใช้ระเบิดชนิด 82-2 ก่อความวุ่นวายตามจุดต่างๆ ในเขต กทม.มาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรก 4 ส.ค.2553 ท้องที่ สน.พญาไท ครั้งที่ 2 วันที่ 9 พ.ค.2553 ที่บ้านพัก กกต.ท้องที่ สน.ประชาชื่น ครั้งที่ 3 ที่วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร ขณะนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนว่า เหตุการณ์ทั้ง 3 ครั้ง มีความเชื่อมโยงกับคนร้ายที่ปาระเบิดใส่เวที พธม.หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ประเด็นของการก่อเหตุไม่มีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์การเมืองการหาเสียงเลือกตั้ง และหวังประทุษร้ายผู้ใด แต่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายเท่านั้น ซึ่งขณะนี้เราทราบชนิดของระเบิด และเชื่อว่า จะสามารถทราบชนิดของรถจยย.และสามารถสเกตช์ภาพคนร้ายได้

***ผบช.น.มั่นใจจับคนร้ายได้แน่

วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีนี้ว่า คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควรขณะนี้คดียังไม่ตัน เพราะคดีที่เกิดขึ้นตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว พร้อมกับตนได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุด้วย

ส่วนกรณีกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาระบุว่า ตำรวจไม่ดูแลความปลอดภัยนั้น พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงในวันที่เกิดเหตุตนได้ระดมปล่อยแถวของตำรวจ บก.น.1 พร้อมกำชับตำรวจทุกนายให้ดูแลความเรียบร้อยให้เต็มที่ แต่อาจเกิดจากความคลาดเคลื่อนในเรื่องหนังสือที่ทาง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ส่งมาขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัย อาจไปตกหล่นที่ใด ซึ่งมาไม่ถึงตน ทั้งนี้ ทาง พล.ต.จำลอง ได้ทำหนังสือกลับมาใหม่ ซึ่งตนได้รับแล้วและได้ส่งกำลังตำรวจเข้าไปดูแลตามปกติ

“จริงๆแล้วกำลังตำรวจที่ดูแลอยู่ก่อนหน้านี้เป็นกำลังตำรวจภูธร แต่ พ.ร.บ.ความมั่นคง สิ้นสุดลง จึงส่งตัวตำรวจเหล่านั้นกลับที่ตั้งเดิม แต่ทางตำรวจนครบาลก็ไม่ได้ปล่อยปละละเลยแต่อย่างใดมีการส่งตำรวจดูแลความเรียบร้อยตลอด รวมถึงยังมีการตั้งจุดตรวจค้นทุกคืนในแต่ละ บก. ผมได้เน้นย้ำตำรวจทุกนายตลอดเรื่องการตรวจค้นอาวุธปืน และระเบิด เพื่อป้องกันการก่อเหตุ และมั่นใจจะจับคนร้ายที่ก่อเหตุได้”ผบช.น.กล่าว

สำหรับกรณีเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นกับพันธมิตรฯ คาดว่า เป็นแก๊งที่เคยก่อเหตุที่ผ่านมาหรือไม่ นั้นพล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวว่า ระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิด 82-2 ของประเทศจีน มีอานุภาพไม่ร้ายแรงเหมือน M26 สำหรับคดีที่เกิดขึ้นมี 2-3 ราย ที่ใช้ระเบิดลักษณะนี้ก่อเหตุในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งคาดว่าคดีที่เกิดล่าสุดน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุเก่าที่ผ่านมา เพราะมีคนใช้ระเบิดลักษณะนี้อยู่เพียงไม่กี่กลุ่ม และไม่มีการนำมาใช้ในวงราชการ

ส่วนเรื่องการเจรจากับแกนนำพันธมิตรฯ นั้น ผบช.น.กล่าวว่า ยังไม่มีการเจรจา เพราะทางกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ประกาศชัดเจนว่าจะยุติการชุมนุมวันที่ 29 มิ.ย.และขอเวลา 1 วัน ในการรื้อถอนเวที

**“จำลอง”โวย ตร.ยังนิ่งไม่ดูแลพธม.

ด้านพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า เราได้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์ไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แล้ว แต่เช้านี้ ก็ยังไม่เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลพื้นที่เพิ่มเติม จะมีก็แต่เพียงตำรวจ 2 นายที่อยู่บริเวณหลังเวทีเท่านั้น ซึ่งก็จะซ้ำรอยเมื่อครั้งที่เราทำหนังสือไปเมื่อวัน 23 พ.ค.ที่ขอเจ้าหน้าที่มาดูแลความปลอดภัย แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ถัดมาเพียง 8 วันก็เกิดเหตุรุนแรงขึ้น ตรงนี้ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตระหนักถึงหน้าที่ความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ไม่ว่าประชาชนจะอยู่ที่ไหน ก็มีหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยของประชาชน หากไม่ทำก็ต้องถูกดำเนินคดีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งตำรวจก็มีเป็นแสนนายทั่วประเทศ จะอ้างว่ามีกำลังไม่เพียงพอไม่ได้ จึงอยากให้ตำรวจพิจารณาเข้ามาดูแลคงวามปลอดภัยของผู้ชุมนุมที่นี่ด้วย โดยเฉพาะขอให้ช่วยดูแลอาคารสูงหรือพื้นที่ที่อยู่ในระยะของอาวุธเอ็ม 79 เพราะเราไม่อยากให้เกิดเหตุซ้ำรอยกับเมื่อครั้งการชุมนุม 193 วัน

“ตำรวจจะมาอ้างว่าต้องไปอารักขาผู้สมัคร ส.ส.ในช่วงการหาเสียงไม่ได้ เพราะต้องคิดถึงความเท่าเทียมของผู้ชุมนุมกับผู้สมัคร ส.ส.ว่าเป็นประชาชนคนไทยเหมือนกันหรือไม่ โดยเฉพาะการที่ผู้สมัครนั้นทำเพื่อตัวเอง อยากเป็น ส.ส. แต่ผู้ชุมนุมตรงนี้ออกมาทำหน้าที่รักษาชาติบ้านเมืองแทนตำรวจด้วยซ้ำ ดังนั้นตำรวจต้องคิดให้ดีว่าจะไปดูแลคนๆเดียว หรือจะมาดูแลประชาชนที่อยู่ที่นี่เป็นพันคน” พล.ต.จำลอง กล่าว

เมื่อถามว่ามีการหารือถึงการขยายพื้นที่การชุมนุมกลับไปบริเวณถนนหน้ากระทรวงศึกษาธิการด้วยหรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ก็มีการคุยกัน แต่เราเห็นว่าเหลือการชุมนุมอีกเพียง 20 กว่าวันจึงไม่อยากสร้างปัญหากับทางตำรวจหรือรัฐบาล ที่ต้องการให้เปิดพื้นที่เพื่อให้รถยนต์สัญจรไปมาได้ ก็เกรงว่าหากไปยึดถนนคืนมา รัฐบาลหรือตำรวจจะมาหาเรื่องเราได้
กำลังโหลดความคิดเห็น